Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

1 กรกฎาคม 2556 ช่อง7 (ตัดสินใจปรับตัว) บุกละครและข่าวเจาะคนเมือง ใช้โซเชียลมีเดียวัด หาคนทำละครหน้าใหม่ๆ (มั่นใจชมกลุ่มใหญ่ยังเป็นฐานที่แข็งแกร่งของช่อง 7)



ประเด็นหลัก


แหล่งข่าวจากวงการมีเดียเอเยนซี่กล่าวว่า ขณะนี้ช่อง 7 เริ่มขยับตัวผสมผสานการใช้แพลตฟอร์มที่มีอยู่ระหว่างฟรีทีวี ทีวีดาวเทียม และออนไลน์อย่างลงตัว ที่ผ่านมา "กระแส" ที่ช่อง 7 สู้ช่อง 3 ไม่ได้ เพราะผู้บริโภคที่ใช้โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ คือกลุ่มคนเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมหลักของช่อง 3 ส่งผลให้รายการ ละคร เป็นกระแสบนโลกออนไลน์ได้มากกว่า

อย่างไรก็ตามหากนับรวมผู้ชมทั้งประเทศกว่า 70 ล้านคน มีเพียงกว่า 10 ล้านคนเท่านั้นที่อยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นฐานหลักของช่อง 3 ขณะที่ผู้ชมกลุ่มใหญ่ยังเป็นฐานที่แข็งแกร่งของช่อง 7

"การปรับภาพลักษณ์จากแมส หรือต่างจังหวัดขึ้นมาเจาะกลุ่มเมืองทำค่อนข้างยากกว่า ตรงกันข้ามหากกลุ่มเมืองจะลงมาเล่นหรือขยายตลาดกลุ่มแมสจะทำได้ง่ายกว่า"

ที่ผ่านมาแนวทางการตลาด คอนเทนต์ของช่อง 3 ได้เดินหน้าเจาะกลุ่มแมสอย่างจริงจัง โดยใช้คอนเทนต์ "ข่าว" เป็นหัวหอกสำคัญ ผ่านบุคคลคนเล่าข่าว เช่น สรยุทธ สุทัศนะจินดา, กิตติ สิงหาปัด ฯลฯ ที่เป็นเสมือนตัวแทนของผู้ชมกลุ่มแมส ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก




______________________________________





ช่อง7ลุยเต็มสูบเพิ่มเรตติ้งคนเมือง ปรับแนวละคร-ดึงผู้ผลิตหน้าใหม่-รุกโซเชียลมีเดีย

ช่อง 7 จัดเต็ม อัดนโยบายใหม่ สั่งผู้ผลิตรายการ-ละคร เดินเครื่องปั้นคอนเทนต์ ขยับเจาะตลาดคนเมืองเต็มรูปแบบ ส่งบักกาบู ทีวี เสริมทัพโซเชียล มีเดีย ด้วยคอนเทนต์ที่หลากหลายตามไลฟ์สไตล์ผู้ชม ลั่นรายการวาไรตี้ ช่วงกลางคืนจันทร์-ศุกร์ ชนะคู่แข่งขาดลอย พร้อมตีคืนสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ส่งนักสู้มหากาฬทวงเรตติ้ง

ตั้งแต่ได้ลูกหม้อคนสำคัญของวิกหมอชิต "พลากร สมสุวรรณ" ขึ้นมานั่งเก้าอี้เอ็มดีแทน "ศรัณย์ วิรุตมวงศ์" ตั้งแต่ต้นปี ถือว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของช่อง 7 ก็ว่าได้ โดยเฉพาะการนำรูปแบบรายการใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพ โดยเฉพาะรายการดังจากต่างประเทศ อาทิ "แดนซิ่งสตาร์ วิธ เดอะสตาร์" เชฟกระทะเหล็ก รวมถึงคอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ เพื่อแก้เกมการแข่งขัน และอุดช่องว่างในสิ่งที่ยังเป็นจุดอ่อน

ล่าสุดเจ้าตลาดฟรีทีวีรายนี้ รุกเข้าไปเจาะตลาดคนเมืองอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบทั้งคอนเทนต์โดยเฉพาะละครที่เป็นหัวหอกหลัก รวมถึงการยกเครื่องช่องทางโซเชียลมีเดียที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์คนเมือง



ชูนโยบายใหม่เจาะใจคนเมือง

นายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทกำลังบาลานซ์ระหว่างฐานผู้ชมกลุ่มคนเมืองและต่างจังหวัด ในหลากหลายรูปแบบ ในส่วนของคอนเทนต์ เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น จากเดิมที่ผูกติดอยู่กับผู้ผลิตรายเก่าอยู่ 3-4 รายเท่านั้น โดยมีนโยบายใหม่ คือ ให้ผู้ผลิตสร้างรายการ หรือปรับปรุงรูปแบบให้สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มคนเมืองมากขึ้น อย่างไรก็ตามการปรับผังของช่องไม่ได้มีนโยบายชัดเจนว่าจะปรับช่วงไหนของปี แต่เป็นการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

"ถ้ารายการไหนเรตติ้งไม่ดีก็ต้องมีการปรับ หรือหารายการใหม่เข้ามาแทน ซึ่งผู้ผลิตและสถานีทำงานร่วมกันตลอดเวลา"

ปัจจุบันช่อง 7 ถือว่ามีคอนเทนต์ที่ครบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกีฬา บันเทิง ละคร สารคดี รวมถึงการบริหารช่องทางการออกอากาศระหว่างสื่อออนไลน์ ทีวีดาวเทียม และฟรีทีวีอย่างลงตัว เพื่อบริหารเวลาการออกอากาศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับช่วงเวลาที่ยังเป็นจุดอ่อน นายพลากรยอมรับว่า เป็นรายการข่าวช่วงเช้า แนวทางแก้ไขคือลดเวลาการออกอากาศของรายการข่าวช่วงเช้าลง นอกจากนี้มีการสื่อสารผ่านออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ลั่นเรตติ้งหลังข่าวค่ำชนะขาด

เช่นเดียวกับ นายสุบัณฑิต สุวรรณนพ ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด กล่าวว่า หัวใจความสำเร็จของช่อง คือ ความครบครันของคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ชม แต่ยอมรับว่าละคร คือคอนเทนต์ที่อยู่ในช่วงไพรมไทม์ ทำให้แบรนด์สินค้าและเอเยนซี่โฆษณาต่างให้ความสำคัญ

ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของช่อง ตั้งแต่ต้นปีได้เปิดโอกาสให้กับผู้ผลิตรายใหม่ ๆ ทั้งในส่วนรายการ และละคร เข้ามาเสนอรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่แนวละคร รวมถึงเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ทีมที่เข้ามาเน้นทีมใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เป็นการดึงคนจากทีมเก่าที่มีอยู่พร้อมแก้โจทย์ด้วยการคัดเลือกนักแสดงหน้าใหม่เพิ่ม สร้างสีสัน ล่าสุดกับเวที "Young Modal" เพื่อประกวดนางแบบ กลุ่มอายุระหว่าง 12-14 ปี หวังเตรียมบุคลากรหน้าใหม่ ๆ เข้าสู่ช่อง

นายสุบัณฑิตกล่าวอีกว่า ในส่วนของการเลือกละครต้องประเมินว่า ช่วงนั้นละครของคู่แข่งกระแสตอบรับเป็นอย่างไร อย่างช่วงเวลาศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ยอมรับว่าการใช้กลยุทธ์ซีรีส์ของคู่แข่ง ทำให้ช่องเสีย

เรตติ้งบางส่วนไป แต่ปัจจุบันก็สามารถตีคืนกลับมาชนะได้จากละครบู๊ "นักสู้มหากาฬ" ด้วยเรตติ้งที่สูงกว่า ทั้งนี้หากดูในส่วนรายการวาไรตี้-ทอล์กโชว์ที่ออกอากาศช่วง 23.00 น. ปัจจุบันบริษัทสามารถปิดช่องว่างด้วยจำนวนเรตติ้งที่ชนะคู่แข่งตลอดทั้ง 5 วัน

ผู้ผลิตหน้าใหม่รุมชิงเค้กละคร

นายวราวุธ เจนธนากุล ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาช่อง 7 มีการเรียกผู้ผลิตเข้าไปนำเสนอไอเดียใหม่ ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะละคร คาดว่า 1-2 เดือนนี้ทางช่องจะสรุปผล การขยับครั้งนี้มาจากทางช่องรู้ตัวว่าแม้จะแข็งแรงมากในต่างจังหวัด แต่ถ้าไม่เร่งอุดช่องว่างกลุ่มคนเมือง ระยะยาวจะไม่เป็นผลดี ในส่วนของบริษัท เสนอเป็นผู้ผลิตละครทั้งก่อนและหลังข่าว โดยเน้นเรื่องเทคนิคและโปรดักชั่นที่ดี โดยเฉพาะโปรดักชั่นซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนเมืองไม่ดูช่อง 7 ส่วนของเนื้อเรื่องก็ขยับขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ไม่ซับซ้อนมาก

"โจทย์ช่อง 7 ตอนนี้คือต้องการเนื้อเรื่อง วิธีเล่าเรื่องใหม่ ๆ จับคนเมืองมากขึ้น แต่ก็ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะฐานผู้ชมหลักยังเป็นต่างจังหวัด ค่อย ๆ เปลี่ยน ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะมาเจาะฐานคนเมืองเลยคงไม่ได้"

เช่นเดียวกับ นางรติวัลคุ์ อัษฎามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า นอกจากรายการเกมโชว์ที่ผลิตให้แก่ช่อง 7 ทั้งสิ้น 2 รายการ ได้แก่ จันทร์พันดาว และกิ๊กดู๋ สงครามเพลง ออนแอร์ช่วง 23.00 น. บริษัทยังเตรียมสร้างละครป้อนให้ช่อง 7 อีก 2 เรื่อง คือ อตีตา และเงา

ในส่วนของรายการกิ๊กดู๋ สงครามเพลง ทางช่องให้โจทย์ใหม่ว่าต้องเจาะฐานผู้ชมกลุ่มคนเมือง บริษัทจึงได้ปรับปรุงรูปแบบให้ตอบโจทย์มากขึ้น โดยทำงานร่วมกันกับทางสถานี ผลคือเรตติ้งที่ค่อนข้างสูง สามารถตีคืนชนะรายการในช่วงเวลาเดียวกันจากช่องคู่แข่งได้ ขณะนี้ทางช่องก็อนุมัติให้ผลิตซีซั่น 2 แล้ว

แหล่งข่าวจากผู้ผลิตรายการให้แก่ช่อง 7 กล่าวว่า ปัจจุบันช่อง 3 วางแนวทางการตลาดค่อนข้างชัดเจนว่าเจาะกลุ่มคนเมือง และกำลังขยายกลุ่มเป้าหมายสู่ผู้ชมกลุ่มแมส ด้วยแผนโปรโมตอย่างเป็นระบบทั้งผ่านโซเชียลมีเดีย และรายการต่าง ๆ ของสถานี ขณะที่ช่อง 7 ก็มีนโยบายชัดเจนขึ้น ว่าต้องการขยายฐานผู้ชมกลุ่มคนเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นจุดอ่อนของช่องโดยเพิ่มโจทย์แก่ผู้ผลิต สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เจาะคนเมืองมากขึ้น

แบรนด์สินค้าตอบรับลงโฆษณา

นายรัฐกร สืบสุข หัวหน้ากลุ่มกลยุทธ์การค้าและการลงทุน กรุ๊ปเอ็ม บริษัทด้านการบริหารจัดการสื่อโฆษณาชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาช่อง 7 พยายามปรับรายการขยายฐานผู้ชมกลุ่มใหม่ แต่ยังไม่ได้ทิ้งฐานผู้ชมกลุ่มหลัก ไม่ว่าจะเป็นฟอร์แมตจากต่างประเทศ หรือปรับรูปแบบรายการเดิม ส่งผลให้เรตติ้งผู้ชมกลุ่มคนเมืองเพิ่มขึ้น แม้กระแสจะไม่ได้แรงเหมือนช่องคู่แข่งก็ตาม แต่ภาพรวมถือว่าดีขึ้น หากดูจากแบรนด์สินค้าและมีเดียเอเยนซี่ที่วางแผนซื้อสื่อกับช่อง 7 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามฐานผู้ชมที่เพิ่มขึ้น

"แบรนด์สินค้าตอบรับดี จากความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ทุกรายการ ดูเป็นรายการ ๆ ไป"

แหล่งข่าวจากวงการมีเดียเอเยนซี่กล่าวว่า ขณะนี้ช่อง 7 เริ่มขยับตัวผสมผสานการใช้แพลตฟอร์มที่มีอยู่ระหว่างฟรีทีวี ทีวีดาวเทียม และออนไลน์อย่างลงตัว ที่ผ่านมา "กระแส" ที่ช่อง 7 สู้ช่อง 3 ไม่ได้ เพราะผู้บริโภคที่ใช้โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ คือกลุ่มคนเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมหลักของช่อง 3 ส่งผลให้รายการ ละคร เป็นกระแสบนโลกออนไลน์ได้มากกว่า

อย่างไรก็ตามหากนับรวมผู้ชมทั้งประเทศกว่า 70 ล้านคน มีเพียงกว่า 10 ล้านคนเท่านั้นที่อยู่ในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นฐานหลักของช่อง 3 ขณะที่ผู้ชมกลุ่มใหญ่ยังเป็นฐานที่แข็งแกร่งของช่อง 7

"การปรับภาพลักษณ์จากแมส หรือต่างจังหวัดขึ้นมาเจาะกลุ่มเมืองทำค่อนข้างยากกว่า ตรงกันข้ามหากกลุ่มเมืองจะลงมาเล่นหรือขยายตลาดกลุ่มแมสจะทำได้ง่ายกว่า"

ที่ผ่านมาแนวทางการตลาด คอนเทนต์ของช่อง 3 ได้เดินหน้าเจาะกลุ่มแมสอย่างจริงจัง โดยใช้คอนเทนต์ "ข่าว" เป็นหัวหอกสำคัญ ผ่านบุคคลคนเล่าข่าว เช่น สรยุทธ สุทัศนะจินดา, กิตติ สิงหาปัด ฯลฯ ที่เป็นเสมือนตัวแทนของผู้ชมกลุ่มแมส ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก

ชู บักกาบู ทีวี ลุยนิวมีเดีย

สอดรับกับ นายจักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด ผู้บริหารนิวมีเดีย บักกาบู ทีวี (Bugaboo TV) กล่าวว่า ครึ่งปีหลังนี้เตรียมเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น เช่น การแต่งหน้า ท่องเที่ยว เป็นต้น รวมถึงเตรียมผลิตเกมโชว์ที่จะออนแอร์เฉพาะในบักกาบู ทีวี และซีรีส์เรื่องใหม่ที่จะออนแอร์ในบักกาบู ทีวี ปลายปีนี้

นายจักรพันธ์กล่าวต่อว่า เมื่อผู้บริโภคที่ใช้นิวมีเดีย คือกลุ่มคนเมืองเป็นหลัก จึงได้เปิดตัวรายการ "แชทแอนด์ชิลล์" โดยให้นักแสดงของช่องที่กำลังมีผลงานแสดงอยู่ในขณะนั้น เข้ามาพูดคุยกับผู้ชมแบบสด ๆ มีการถาม ตอบ ซึ่งผู้ชมทางบ้านสามารถส่งคำถามผ่านเฟซบุ๊ก ออนไลน์ เข้ามาในลักษณะ "Meet and Greet" กลุ่มเล็ก ๆ และเตรียมทำอย่างต่อเนื่อง

"หลังเปิดตัวบักกาบู ทีวี มาเกือบ 2 ปี ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ชม ทั้งในแง่ของแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และโฆษณาที่เพิ่มขึ้น"


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1372656480

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.