Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

14 กรกฎาคม 2556 เภสัชกรหญิง ชโลม(คุ้มครองผู้บริโภค) แนะแก้ปัญหาหมดสป.1800 เร่งรัดการดำเนินการโอนย้ายเครือข่ายให้เต็มตามศักยภาพคือ 300,000 เลขหมาย/วัน


ประเด็นหลัก


ทั้งนี้ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน จึงมีข้อเสนอต่อสถานการณ์ปัจจุบันนี้คือ 1.ขอให้ซุปเปอร์บอร์ดดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ในกรณีที่ กสทช. ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ทั้งที่เป็นภาระหน้าที่ที่ทราบล่วงมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเป็น กสทช. 2.คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ขอให้มีการเร่งรัดการดำเนินการโอนย้ายเครือข่ายให้เต็มตามศักยภาพคือ 300,000 เลขหมาย/วัน

3.บริษัทผู้ให้บริการทั้งสองรายคือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (มหาชน) จะต้องคืนเงินคงเหลือในระบบให้กับผู้ให้บริการ และในกรณีที่บริษัทจะตัดสัญญาณผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พรีเพด บริษัทจะต้องแจ้งผ่านข้อความสั้นให้ทราบล่วงหน้าก่อน ๓ วัน พร้อมทั้งระบุจำนวนเงินคงค้างในระบบให้ผู้บริโภครับทราบและเพื่อใช้ขอคืนเงินได้ด้วยอย่างชัดเจน 4.กสทช. ต้องให้มีการเพิ่มประเด็นในการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พศ..... ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ กรกฏาคมนี้ ให้มากกว่าที่กำหนด และ 5. กสทช. ต้องเร่งตั้งคณะทำงานประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz และกำหนดวันในการจัดการประมูลคลื่นโดยเร่งด่วน

______________________________________





จี้กสทช.เคลียร์ปมคลื่น1800ก่อนสิ้นสัมปทาน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผู้บริโภคแถลงการณ์จี้สอบกสทช.ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดการประมูลคลื่นความถี่1800 MHก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน หวั่นซิมดับ


เภสัชกรหญิง ชโลม เกตุจินดา คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน เปิดเผยว่า แม้ว่าการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเป็นเหตุการณ์ที่ทราบล่วงหน้า และมีการเสนอความเห็นให้ข้อมูลเตือน กสทช. ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้จากหลายฝ่าย รวมถึงคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ได้ร้องขอให้ทำการเชิญผู้ให้บริการทั้ง 2 ราย เข้าหารือปัญหาการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2555 เพื่อให้เกิดการเตรียมการในการแก้ไขปัญหา แต่ตัวแทนจากทั้ง 2 บริษัท ระบุว่ายังไม่ได้รับความชัดเจนจาก กสทช. ว่าจะจัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานหรือไม่

และต่อมาแม้ว่า กสทช.จะได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารคลื่นความถี่วิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่า 1800 และคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ได้มีข้อเสนอให้กับ กสทช. ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา หรือเป็นเวลา 9 เดือน ก่อนเหตุการณ์สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ให้มีการจัดประมูลคลื่นให้เร็วที่สุด รวมถึงการเสนอแผนในการเยียวยาผู้ใช้บริการ เช่น การโอนย้ายผู้ใช้บริการเพื่อป้องกันปัญหาซิมดับ และที่สำคัญคือคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กสทช. เห็นว่า การพิจารณาขยายระยะเวลาในการใช้งานคลื่นความถี่ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากกฎหมายของไทยระบุไว้ชัดเจนว่าการจะนำคลื่นไปใช้นั้นจะต้องด้วยวิธีการประมูลเท่านั้น ดังนั้นจึงควรดำเนินการประมูลคลื่นความถี่อย่างเร่งด่วน แต่ข้อเสนอต่างๆ เหล่านี้กลับไม่ถูกนำไปพิจารณา ทั้งที่การประมูลคลื่นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุการณ์สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน

ดังนั้น การที่ กสทช. ออกมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พศ... โดยมีใจความสำคัญระบุว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายของผู้ใช้บริการ ที่ยังไม่อาจโอนย้ายไปยังผู้ให้บริการรายอื่น และเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดประมูลคลื่นความถี่ และการโอนย้ายผู้ใช้บริการไปสู่ผู้ได้รับอนุญาต ผู้ให้บริการจึงมีหน้าที่ให้บริการต่อไปเป็นการชั่วคราวนั้น เป็นการสะท้อนการทำงานที่ล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพ ของ กสทช. ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรจะเป็นเพื่อการแก้ไขปัญหากรณีสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน

ทั้งนี้ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน จึงมีข้อเสนอต่อสถานการณ์ปัจจุบันนี้คือ 1.ขอให้ซุปเปอร์บอร์ดดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. ในกรณีที่ กสทช. ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดการประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ทั้งที่เป็นภาระหน้าที่ที่ทราบล่วงมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเป็น กสทช. 2.คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน ขอให้มีการเร่งรัดการดำเนินการโอนย้ายเครือข่ายให้เต็มตามศักยภาพคือ 300,000 เลขหมาย/วัน

3.บริษัทผู้ให้บริการทั้งสองรายคือ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (มหาชน) จะต้องคืนเงินคงเหลือในระบบให้กับผู้ให้บริการ และในกรณีที่บริษัทจะตัดสัญญาณผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่พรีเพด บริษัทจะต้องแจ้งผ่านข้อความสั้นให้ทราบล่วงหน้าก่อน ๓ วัน พร้อมทั้งระบุจำนวนเงินคงค้างในระบบให้ผู้บริโภครับทราบและเพื่อใช้ขอคืนเงินได้ด้วยอย่างชัดเจน 4.กสทช. ต้องให้มีการเพิ่มประเด็นในการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พศ..... ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๕ กรกฏาคมนี้ ให้มากกว่าที่กำหนด และ 5. กสทช. ต้องเร่งตั้งคณะทำงานประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz และกำหนดวันในการจัดการประมูลคลื่นโดยเร่งด่วน


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130712/517002/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%
B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%
A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%
E0%B8%991800%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%
E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99.html

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.