Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 กรกฎาคม 2556 AIS ตัดสินใจขอเน้นการทำตลาด 3G 2100 (มีซิมการ์ดในระบบ 2G วางขายคู่กับ 3G ให้ลูกค้าเลือกตามการใช้งาน ไม่ปิดกั้นหรือบีบบังคับให้ลูกค้าเลือกใช้เฉพาะ 3จี 2100 เพียงอย่างเดียว)

ประเด็นหลัก


"วิเชียร" รับเน้น3จีหนุนลูกค้า

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ยอมรับว่า บริษัททำหนังสือส่งคืนเลขหมายโทรคมนาคม 2จี แก่กสทช.จำนวน 3.4 ล้านเลขหมายจริง เพราะต้องการให้กสทช.นำเลขหมายไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า การส่งคืนเลขหมายนั้น เนื่องจาก ด้วยยุทธศาสตร์ของเอไอเอสที่ให้บริการตามความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่มีพฤติกรรมใช้งานดาต้า และการใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดังนั้น การทำตลาดของเอไอเอสและเอดับบลิวเอ็น จึงขอเน้นไปที่ 3จี บนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์

ทั้งนี้ จากอัตราการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตในฐานของเอไอเอสเฉลี่ยปีละ 30-35% คาดว่า ปีนี้ผู้ใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายของเอไอเอสจะเพิ่มเป็น 15 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 13 ล้านราย ทั้งยอมรับว่าส่วนหนึ่งของการใช้งานโมบาย อินเทอร์เน็ต ยังมีข้อจำกัดที่อุปกรณ์รองรับ เครื่องลูกข่าย เพราะฐานลูกค้าโดยรวมเอไอเอสยังมีมากถึง 36 ล้านราย

อย่างไรก็ดี ส่วนงเลขหมาย 2จี ระบบ 900 เมกะเฮิรตซ์ แม้เอไอเอสจะส่งคืนให้กสทช. แต่เอไอเอส มั่นใจว่า ยังมีเลขหมายหมุนเวียนในตลาดตามความต้องการ และการใช้งานจริงของลูกค้าได้เพียงพอ และมีซิมการ์ดในระบบ 2จี วางขายคู่กับ 3จี คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ให้ลูกค้าเลือกตามการใช้งาน ไม่ปิดกั้นหรือบีบบังคับให้ลูกค้าเลือกใช้เฉพาะ 3จี 2100 เพียงอย่างเดียว


______________________________________






'เอไอเอส' ส่งสัญญาณหยุดตลาด2จี


"เอไอเอส" ส่งหนังสือกสทช.ขอคืนเบอร์ 2จี กว่า 3.4 ล้านเลขหมาย อ้างสาเหตุขอโฟกัสทำตลาด 3จี ผ่าน "เอดับบลิวเอ็น" มากขึ้น


รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการโทรคมนาคมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับทราบรายงานจากคณะอนุกรรมการจัดสรรเลขหมายว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 2จี ย่านความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้ขอคืนเลขหมายโทรศัพท์มือถือจากคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำนวน 3.43 ล้านเลขหมาย จากที่เคยยื่นขอเลขหมายทำตลาดตั้งแต่ต้นปีมาจำนวน 6 ล้านเลขหมาย แต่กำลังจะยื่นขอเลขหมายโทรศัพท์มือถือสำหรับทำตลาด 3จี ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ให้บริษัท แอดวานซ์ ไวรเลส เนทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) เพิ่ม หลังเคยได้รับอนุมัติไปแล้ว 14.5 ล้านเลขหมาย

ทั้งนี้ เอไอเอสแจ้งเหตุผลต่อคณะอนุกรรมการเลขหมายว่า ปัจจุบันเอไอเอสเหลืออายุในสัมปทานกับบมจ.ทีโอที อีก 2 ปีโดยจะหมดสัมปทานปี 2558 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าในระบบแล้ว 36 ล้านราย และดูพฤติกรรมการใช้งานและแนวโน้มลูกค้ากำลังทยอยเปลี่ยนการใช้งานเสียง (วอยซ์) มาสู่บริการข้อมูล (ดาต้า) มากขึ้น เอไอเอสขอมุ่งให้บริการ 3จี มากกว่า และจะให้ความสนใจกับการทำตลาดของเอดับบลิวเอ็นมากกว่าเอไอเอสจึงขอคืนเลขหมาย 2จีทั้งหมด

ปัจจุบัน เอดับบลิวเอ็นมีลูกค้าใช้ 3จีใหม่ 2100 แล้ว 4.3 ล้านราย มีเครือข่ายครอบคลุมหัวเมือง 67 จังหวัด สถานีฐาน 6,000 สถานี นอกจากนี้ ในเดือนส.ค.นี้จะคลุมหัวเมืองทั้ง 77 จังหวัด ด้วยสถานีฐานมากกว่า 8,000 แห่ง และเครือข่ายในอาคารกว่า 1,000 แห่ง คาดเดือนธ.ค.นี้ จะคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ ด้วยสถานีฐานเบื้องต้นกว่า 10,000 แห่ง พร้อมเครือข่ายในอาคารกว่า 1,500 แห่ง งบลงทุนรวม 3จี ยังอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท เป้าของเอดับบลิวเอ็น ยังยืนยันลูกค้า 3จี 2100 ที่ 10 ล้านรายปีนี้

แหล่งข่าว กสทช.ระบุว่า การขอคืนเลขหมายของเอไอเอสไม่ใช่เรื่องแปลก และมั่นใจว่าอีก 1-2 เดือนข้างหน้า บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ก็จะทำลักษณะเดียวกัน ขอคืนเลขหมาย 2จี แต่จะขอเลขหมาย 3จี คลื่น 2100 เพิ่ม เพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคม สภาพแข่งขันของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย จะเห็นการดึงลูกค้าในสัมปทานมาสู่ใบอนุญาตใหม่ 3จีที่ได้รับจาก กสทช.ด้วยเหตุผลหลัก คือ ลดรายจ่ายการกำกับดูแล คือ ปัจจุบันโอเปอเรเตอร์ในสัญญาสัมปทานต้องเสียส่วนแบ่งรายได้ ทีโอที กับ กสท โทรคมนาคม รายละ 25-30% แต่เมื่ออยู่บนไลเซ่น3จี ค่าใช้จ่ายจะเหลือเพียง 5.25% เท่านั้น

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.และประธานคณะกรรมการกทค.กล่าวว่า ประชุมบอร์ดกทค.ครั้งต่อไปวันที่ 24 ก.ค.นี้ ให้คณะอนุกรรมการเลขหมาย และสำนักงานกสทช.ทำแผนมาตราการรองรับ และแผนจัดสรรเลขหมายโทรคมใหม่ทั้ง 2จี และ 3จี เพราะเชื่อว่าอนาคตผู้ประกอบการ 3จี อีก 2 รายจะทำตามเช่นกัน ซึ่งการขอคืนเลขหมายโทรคมนาคม 2จี เอไอเอสนั้น กสทช.ต้องพิจารณาด้วยว่า จะลงโทษหรือให้ชำระค่าชดเชยแก่ กสทช.หรือไม่ หรืออาจมีบทลงโทษเอกชนว่า หากคืนเลขหมายจะไม่ได้รับจัดสรรไปอีกนานกี่เดือน จนกว่าจะขายเลขหมายทั้งหมดที่ขอไปก่อนหน้า

"ทุกรายจะโฟกัสทำตลาดไปที่คลื่น 2100 ด้วยเหตุผลรายจ่ายหลายอย่าง ประกอบกับทุกรายจะหมดสัมปทานลง 2-5 ปีข้างหน้า ขณะที่อายุใบอนุญาต 2100 ที่ให้ คือ อีก 15 ปี และเมื่อแนวโน้มการใช้งานหันไปใช้ 3จีดาต้ามากขึ้น แต่กสทช.ต้องดูในบทบาทของตัวเองว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะจะต้องไม่เป็นเครื่องมือเอื้อเอกชนให้มีขายซิมแต่เฉพาะ3จี แต่ไม่มีซิม 2จี ขาย"

ส่วนประเด็นข้อกฎหมาย ต้องพิจารณาด้วย เมื่อเอไอเอสขอคืนเลขหมาย 2จี ที่อยู่สัมปทานกับทีโอที ทีโอทีก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากผลประกอบการของเอไอเอสลดลงหรือไม่ เพราะเมื่อเอกชนเน้นขายแต่ซิม 3จีใหม่ เท่ากับรายได้จะไม่เข้ารัฐวิสาหกิจหรือภาครัฐ อาจเป็นเหตุให้ กสทช.ถูกรัฐวิสาหกิจฟ้องได้ ปัจจุบันเอไอเอสมีเลขหมาย 2จี จำนวน 45 ล้านเลขหมาย ดีแทค 38 ล้านเลขหมาย และทรูมูฟ 23 ล้านเลขหมาย

"วิเชียร" รับเน้น3จีหนุนลูกค้า

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ยอมรับว่า บริษัททำหนังสือส่งคืนเลขหมายโทรคมนาคม 2จี แก่กสทช.จำนวน 3.4 ล้านเลขหมายจริง เพราะต้องการให้กสทช.นำเลขหมายไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า การส่งคืนเลขหมายนั้น เนื่องจาก ด้วยยุทธศาสตร์ของเอไอเอสที่ให้บริการตามความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่มีพฤติกรรมใช้งานดาต้า และการใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดังนั้น การทำตลาดของเอไอเอสและเอดับบลิวเอ็น จึงขอเน้นไปที่ 3จี บนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์

ทั้งนี้ จากอัตราการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตในฐานของเอไอเอสเฉลี่ยปีละ 30-35% คาดว่า ปีนี้ผู้ใช้โมบาย อินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายของเอไอเอสจะเพิ่มเป็น 15 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 13 ล้านราย ทั้งยอมรับว่าส่วนหนึ่งของการใช้งานโมบาย อินเทอร์เน็ต ยังมีข้อจำกัดที่อุปกรณ์รองรับ เครื่องลูกข่าย เพราะฐานลูกค้าโดยรวมเอไอเอสยังมีมากถึง 36 ล้านราย

อย่างไรก็ดี ส่วนงเลขหมาย 2จี ระบบ 900 เมกะเฮิรตซ์ แม้เอไอเอสจะส่งคืนให้กสทช. แต่เอไอเอส มั่นใจว่า ยังมีเลขหมายหมุนเวียนในตลาดตามความต้องการ และการใช้งานจริงของลูกค้าได้เพียงพอ และมีซิมการ์ดในระบบ 2จี วางขายคู่กับ 3จี คลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิรตซ์ ให้ลูกค้าเลือกตามการใช้งาน ไม่ปิดกั้นหรือบีบบังคับให้ลูกค้าเลือกใช้เฉพาะ 3จี 2100 เพียงอย่างเดียว


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130723/518808/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B
8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-
%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B
8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%942
%E0%B8%88%E0%B8%B5.html

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.