23 กรกฎาคม 2556 มาบุญครอง เงียบสนิด!! พบปัญหาใหญ่(คนไทย ไม่กล้าซื้อทำที่หุ้มพลาสติกที่แท้เป็นเครื่องย้อมแมวแถมลูกค้าคิดเรื่องคุ้มค้า)(ต่างชาติถือศีลอด"รอมฎอน")
ประเด็นหลัก
เงียบมา 3 เดือนติด
ผู้ค้าเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ทรายหนึ่งเล่าว่า บรรยากาศซื้อขายช่วงเดือน ก.ค.เงียบกว่าเดือนที่ผ่านมามาก ที่ประเมินดูน่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ประกอบกับลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเพราะเป็นเดือนถือศีลอด "รอมฎอน"
“ช่วงต้นปียังพอคึกคักบ้าง แต่ตั้งแต่พ.ค.มาเงียบมาก ทุกร้านบ่นเหมือนกันหมด ลูกค้ากว่าจะตัดสินใจซื้อได้ก็คิดแล้วคิดอีก”
แหล่งข่าวเผยว่า ระยะหลังสมาร์ทโฟนขายดีกว่าฟีเจอร์โฟน แบรนด์ที่แรงที่สุด คือ ซัมซุงเพราะมีหลายราคาให้เลือก ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กาแล็คซี่เอส 4 และพวกตระกูลโน้ตต่างๆ ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลยังทรงตัวได้เพราะมีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
"ข้อเสียซัมซุง คือ มีรุ่นใหม่ออกมาฆ่ากันเองมากเกิน แค่ 3 เดือนราคาก็ตก ไม่เหมือนแอ๊ปเปิ้ลมีมาปีละรุ่น ส่งผลให้ร้านค้าต้องแบกรับความเสี่ยง ทั้งต้องยอมขาดทุนกับรุ่นที่ขายไม่ค่อยดี ราคาถูกถูกบังคับขายพ่วง แล้วค่อยไปกินกำไรกับรุ่นที่ขายดี สำหรับแทบเล็ตซัมซุงยังสู้แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้ ขณะนี้ไอแพดมินิขายดีสุด"
อย่าเห็นแก่ของถูก
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ทุกวันนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก นอกจากแต่ละร้านต้องชิงลูกค้ากัน ยังมีเครื่องย้อมแมวที่บางกรณีใช้แล้วบ้าง เป็นเครื่องที่ลูกค้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการแล้วนำมาขายต่อบ้างปนอยู่บ้าง ทำให้ความเชื่อใจถดถอยลงไป
"เครื่องพวกนั้นต้นทุนต่ำขายได้กำไร 500-1,000 บาท ส่วนของเราเป็นของใหม่ได้กำไรแค่ 200 บาท บางครั้งลูกค้าเดินมาหาพอถามว่าได้ราคามาเท่าไร ผู้ค้ากันเองจะพอประเมินได้ว่าใหม่หรือย้อมแมว แต่ลูกค้าคงไม่อาจรู้เท่าทัน บางรายเห็นของใครถูกกว่าก็ซื้อไป ขอแนะว่าควรซื้อแต่ร้านที่ไว้ใจ และอย่าเห็นแก่ของถูกจะดีที่สุด"
สำหรับทางแก้เบื้องต้น อยากให้ผู้ผลิตแต่ละราย ทำที่หุ้มพลาสติกซึ่งมียี่ห้อแบรนด์ติดอยู่แล้วมีข้อมูลแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ควรสังเกตอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดนี้ไปบ้าง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ถ้าทำได้ความนิยมของมาบุญครองจะคืนมาอีกมาก
พร้อมระบุว่า ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ ที่ย่ำแย่ ธุรกิจขายส่งไปต่างจังหวัดยอดก็ไม่วิ่งเช่นกัน ทำให้อาจไม่ขอรับสินค้ามาเพิ่ม ส่วนแนวโน้มที่ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนกับแทบเล็ตปีนี้ดีมากยังไม่เชื่อ ยอดขายไม่วิ่งมากกว่าเดิม ทุกวันนี้มีผู้ค้าไม่น้อยหันไปขายอุปกรณ์เสริมที่มีส่วนต่างกำไรดีกว่า รับมา 70-80 บาท ขายได้ 250-300 บาท ส่วนของที่เหลือตกรุ่นขนาดทำโปรโมชั่นลดราคาก็ไม่มีผลกระทบเพราะได้กำไรไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว
______________________________________
'มาบุญครอง'โอดศก.ซบ-ลูกค้าหาย ฉุดยอดแทบเล็ต-มือถือร่วง 50%
สำรวจตลาดค้าปลีก-ค้าส่งโทรศัพท์มือถือ"มาบุญครอง" อีกหนึ่งตัวชี้วัดชั้นดีว่า ตลาดที่ว่าดีจะดีจริง หรือเป็นภาวะเสี่ยงที่แสนอ่อนไหว
บริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า ทิศทางตลาด "สมาร์ทโฟน แทบเล็ต" ในไทยปีนี้ มีโอกาสฉายแสงสดใส โดยสมาร์ทโฟนจะมียอดขายกว่า 9 ล้านเครื่อง เติบโต 70% จากปี 2555 ส่วนแทบเล็ตมีโอกาสทะยานไปได้ที่ 5.3 ล้านเครื่อง คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 94%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเป็นจริงที่ยังไม่น่าไว้วางใจ บนรอยต่อของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ เศรษฐกิจไทยที่ไม่แน่นอน ทั้งมีหลายปัจจัยคอยฉุดกำลังซื้อขายให้หายไป "กรุงเทพไอที" สำรวจตลาดค้าปลีก-ค้าส่งโทรศัพท์มือถือชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า "มาบุญครอง" อีกหนึ่งตัวชี้วัดชั้นดีว่า ตลาดที่ว่าดีจะดีจริง หรือเป็นภาวะเสี่ยงที่แสนอ่อนไหว และมีโอกาสพลิกโผได้ตลอดเวลา
เงียบมา 3 เดือนติด
ผู้ค้าเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ทรายหนึ่งเล่าว่า บรรยากาศซื้อขายช่วงเดือน ก.ค.เงียบกว่าเดือนที่ผ่านมามาก ที่ประเมินดูน่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ประกอบกับลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเพราะเป็นเดือนถือศีลอด "รอมฎอน"
“ช่วงต้นปียังพอคึกคักบ้าง แต่ตั้งแต่พ.ค.มาเงียบมาก ทุกร้านบ่นเหมือนกันหมด ลูกค้ากว่าจะตัดสินใจซื้อได้ก็คิดแล้วคิดอีก”
แหล่งข่าวเผยว่า ระยะหลังสมาร์ทโฟนขายดีกว่าฟีเจอร์โฟน แบรนด์ที่แรงที่สุด คือ ซัมซุงเพราะมีหลายราคาให้เลือก ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กาแล็คซี่เอส 4 และพวกตระกูลโน้ตต่างๆ ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลยังทรงตัวได้เพราะมีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
"ข้อเสียซัมซุง คือ มีรุ่นใหม่ออกมาฆ่ากันเองมากเกิน แค่ 3 เดือนราคาก็ตก ไม่เหมือนแอ๊ปเปิ้ลมีมาปีละรุ่น ส่งผลให้ร้านค้าต้องแบกรับความเสี่ยง ทั้งต้องยอมขาดทุนกับรุ่นที่ขายไม่ค่อยดี ราคาถูกถูกบังคับขายพ่วง แล้วค่อยไปกินกำไรกับรุ่นที่ขายดี สำหรับแทบเล็ตซัมซุงยังสู้แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้ ขณะนี้ไอแพดมินิขายดีสุด"
เขาเสริมว่า สำหรับแบรนด์ใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาถ้าจะให้นำมาขายคงต้องคิดหนัก โดยจะพิจารณาเรื่องศูนย์บริการก่อนว่าต้องมี และไม่หายไป
อย่าเห็นแก่ของถูก
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ทุกวันนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก นอกจากแต่ละร้านต้องชิงลูกค้ากัน ยังมีเครื่องย้อมแมวที่บางกรณีใช้แล้วบ้าง เป็นเครื่องที่ลูกค้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการแล้วนำมาขายต่อบ้างปนอยู่บ้าง ทำให้ความเชื่อใจถดถอยลงไป
"เครื่องพวกนั้นต้นทุนต่ำขายได้กำไร 500-1,000 บาท ส่วนของเราเป็นของใหม่ได้กำไรแค่ 200 บาท บางครั้งลูกค้าเดินมาหาพอถามว่าได้ราคามาเท่าไร ผู้ค้ากันเองจะพอประเมินได้ว่าใหม่หรือย้อมแมว แต่ลูกค้าคงไม่อาจรู้เท่าทัน บางรายเห็นของใครถูกกว่าก็ซื้อไป ขอแนะว่าควรซื้อแต่ร้านที่ไว้ใจ และอย่าเห็นแก่ของถูกจะดีที่สุด"
สำหรับทางแก้เบื้องต้น อยากให้ผู้ผลิตแต่ละราย ทำที่หุ้มพลาสติกซึ่งมียี่ห้อแบรนด์ติดอยู่แล้วมีข้อมูลแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ควรสังเกตอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดนี้ไปบ้าง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ถ้าทำได้ความนิยมของมาบุญครองจะคืนมาอีกมาก
พร้อมระบุว่า ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ ที่ย่ำแย่ ธุรกิจขายส่งไปต่างจังหวัดยอดก็ไม่วิ่งเช่นกัน ทำให้อาจไม่ขอรับสินค้ามาเพิ่ม ส่วนแนวโน้มที่ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนกับแทบเล็ตปีนี้ดีมากยังไม่เชื่อ ยอดขายไม่วิ่งมากกว่าเดิม ทุกวันนี้มีผู้ค้าไม่น้อยหันไปขายอุปกรณ์เสริมที่มีส่วนต่างกำไรดีกว่า รับมา 70-80 บาท ขายได้ 250-300 บาท ส่วนของที่เหลือตกรุ่นขนาดทำโปรโมชั่นลดราคาก็ไม่มีผลกระทบเพราะได้กำไรไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว
ยอดฮวบเกิน50%
ผู้ประกอบการรายใหญ่อีกราย แสดงความคิดเห็นตรงกันว่า ผลที่เกิดขึ้นมาจากภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน เพราะทั้งน้ำมัน สินค้าอุปโภค บริโภคก็ราคาแพงขึ้น นโยบายของรัฐอย่างรถคันแรกก็ดึงเงินไปหมุนเวียนนอกประเทศมากกว่าภายใน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องกันไปหมด
“ตลาดเงียบมาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว โดยเฉพาะเดือนนี้ยอดขายน่าจะหายไปเกิน 50% ขนาดมี 3 จี ยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เงียบหมดทั้งขายปลีก ขายส่ง คนที่มาลงแอพพลิเคชั่นก็น้อยลง”
ผู้ค้าเผยว่า การปรับตัวคือไม่สต็อคสินค้าไว้มากเกินไป และพยายามนำสินค้ามาขายให้หลากหลายขึ้นไม่พึ่งพาแต่แอ๊ปเปิ้ลที่ช่วงหลังแผ่วลงมาก ขณะเดียวกันเพิ่มสินค้าของซัมซุงอีกหลายรุ่น พร้อมนำอุปกรณ์เสริมเช่นแบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) และสายไฟต่างๆ เข้ามาด้วย หวังว่าปลายปีสถานการณ์คงดีขึ้นแต่ยังวางใจไม่ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน แม้ลูกค้าได้โบนัสมาก็เป็นแค่ไฟไหม้ฟางระยะสั้นๆ
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข่าวสะพัดที่ว่าปลายปีจะมีไอโฟนรุ่นถูกปล่อยออกมามีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะขณะนี้ไอพอดทัชขาดตลาดทุกสี แม้แต่ที่ฮ่องกงก็ไม่มีของ คาดว่าน่าจะนำตัวเครื่องไปใช้ผลิตรุ่นใหม่ตามข่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130723/518789/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8
%B8%E0%B8%8D%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%94%E
0%B8%A8%E0%B8%81.%E0%B8%8B%E0%B8%9A-
%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B
8%A2-
%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%
B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95-
%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%
B8%A7%E0%B8%87-50.html
เงียบมา 3 เดือนติด
ผู้ค้าเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ทรายหนึ่งเล่าว่า บรรยากาศซื้อขายช่วงเดือน ก.ค.เงียบกว่าเดือนที่ผ่านมามาก ที่ประเมินดูน่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ประกอบกับลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเพราะเป็นเดือนถือศีลอด "รอมฎอน"
“ช่วงต้นปียังพอคึกคักบ้าง แต่ตั้งแต่พ.ค.มาเงียบมาก ทุกร้านบ่นเหมือนกันหมด ลูกค้ากว่าจะตัดสินใจซื้อได้ก็คิดแล้วคิดอีก”
แหล่งข่าวเผยว่า ระยะหลังสมาร์ทโฟนขายดีกว่าฟีเจอร์โฟน แบรนด์ที่แรงที่สุด คือ ซัมซุงเพราะมีหลายราคาให้เลือก ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กาแล็คซี่เอส 4 และพวกตระกูลโน้ตต่างๆ ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลยังทรงตัวได้เพราะมีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
"ข้อเสียซัมซุง คือ มีรุ่นใหม่ออกมาฆ่ากันเองมากเกิน แค่ 3 เดือนราคาก็ตก ไม่เหมือนแอ๊ปเปิ้ลมีมาปีละรุ่น ส่งผลให้ร้านค้าต้องแบกรับความเสี่ยง ทั้งต้องยอมขาดทุนกับรุ่นที่ขายไม่ค่อยดี ราคาถูกถูกบังคับขายพ่วง แล้วค่อยไปกินกำไรกับรุ่นที่ขายดี สำหรับแทบเล็ตซัมซุงยังสู้แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้ ขณะนี้ไอแพดมินิขายดีสุด"
อย่าเห็นแก่ของถูก
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ทุกวันนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก นอกจากแต่ละร้านต้องชิงลูกค้ากัน ยังมีเครื่องย้อมแมวที่บางกรณีใช้แล้วบ้าง เป็นเครื่องที่ลูกค้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการแล้วนำมาขายต่อบ้างปนอยู่บ้าง ทำให้ความเชื่อใจถดถอยลงไป
"เครื่องพวกนั้นต้นทุนต่ำขายได้กำไร 500-1,000 บาท ส่วนของเราเป็นของใหม่ได้กำไรแค่ 200 บาท บางครั้งลูกค้าเดินมาหาพอถามว่าได้ราคามาเท่าไร ผู้ค้ากันเองจะพอประเมินได้ว่าใหม่หรือย้อมแมว แต่ลูกค้าคงไม่อาจรู้เท่าทัน บางรายเห็นของใครถูกกว่าก็ซื้อไป ขอแนะว่าควรซื้อแต่ร้านที่ไว้ใจ และอย่าเห็นแก่ของถูกจะดีที่สุด"
สำหรับทางแก้เบื้องต้น อยากให้ผู้ผลิตแต่ละราย ทำที่หุ้มพลาสติกซึ่งมียี่ห้อแบรนด์ติดอยู่แล้วมีข้อมูลแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ควรสังเกตอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดนี้ไปบ้าง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ถ้าทำได้ความนิยมของมาบุญครองจะคืนมาอีกมาก
พร้อมระบุว่า ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ ที่ย่ำแย่ ธุรกิจขายส่งไปต่างจังหวัดยอดก็ไม่วิ่งเช่นกัน ทำให้อาจไม่ขอรับสินค้ามาเพิ่ม ส่วนแนวโน้มที่ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนกับแทบเล็ตปีนี้ดีมากยังไม่เชื่อ ยอดขายไม่วิ่งมากกว่าเดิม ทุกวันนี้มีผู้ค้าไม่น้อยหันไปขายอุปกรณ์เสริมที่มีส่วนต่างกำไรดีกว่า รับมา 70-80 บาท ขายได้ 250-300 บาท ส่วนของที่เหลือตกรุ่นขนาดทำโปรโมชั่นลดราคาก็ไม่มีผลกระทบเพราะได้กำไรไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว
______________________________________
'มาบุญครอง'โอดศก.ซบ-ลูกค้าหาย ฉุดยอดแทบเล็ต-มือถือร่วง 50%
สำรวจตลาดค้าปลีก-ค้าส่งโทรศัพท์มือถือ"มาบุญครอง" อีกหนึ่งตัวชี้วัดชั้นดีว่า ตลาดที่ว่าดีจะดีจริง หรือเป็นภาวะเสี่ยงที่แสนอ่อนไหว
บริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า ทิศทางตลาด "สมาร์ทโฟน แทบเล็ต" ในไทยปีนี้ มีโอกาสฉายแสงสดใส โดยสมาร์ทโฟนจะมียอดขายกว่า 9 ล้านเครื่อง เติบโต 70% จากปี 2555 ส่วนแทบเล็ตมีโอกาสทะยานไปได้ที่ 5.3 ล้านเครื่อง คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 94%
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเป็นจริงที่ยังไม่น่าไว้วางใจ บนรอยต่อของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ เศรษฐกิจไทยที่ไม่แน่นอน ทั้งมีหลายปัจจัยคอยฉุดกำลังซื้อขายให้หายไป "กรุงเทพไอที" สำรวจตลาดค้าปลีก-ค้าส่งโทรศัพท์มือถือชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า "มาบุญครอง" อีกหนึ่งตัวชี้วัดชั้นดีว่า ตลาดที่ว่าดีจะดีจริง หรือเป็นภาวะเสี่ยงที่แสนอ่อนไหว และมีโอกาสพลิกโผได้ตลอดเวลา
เงียบมา 3 เดือนติด
ผู้ค้าเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ทรายหนึ่งเล่าว่า บรรยากาศซื้อขายช่วงเดือน ก.ค.เงียบกว่าเดือนที่ผ่านมามาก ที่ประเมินดูน่าจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีทำให้ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ช้าลง ประกอบกับลูกค้าต่างชาติไม่ค่อยเข้ามาเพราะเป็นเดือนถือศีลอด "รอมฎอน"
“ช่วงต้นปียังพอคึกคักบ้าง แต่ตั้งแต่พ.ค.มาเงียบมาก ทุกร้านบ่นเหมือนกันหมด ลูกค้ากว่าจะตัดสินใจซื้อได้ก็คิดแล้วคิดอีก”
แหล่งข่าวเผยว่า ระยะหลังสมาร์ทโฟนขายดีกว่าฟีเจอร์โฟน แบรนด์ที่แรงที่สุด คือ ซัมซุงเพราะมีหลายราคาให้เลือก ส่วนรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กาแล็คซี่เอส 4 และพวกตระกูลโน้ตต่างๆ ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลยังทรงตัวได้เพราะมีกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
"ข้อเสียซัมซุง คือ มีรุ่นใหม่ออกมาฆ่ากันเองมากเกิน แค่ 3 เดือนราคาก็ตก ไม่เหมือนแอ๊ปเปิ้ลมีมาปีละรุ่น ส่งผลให้ร้านค้าต้องแบกรับความเสี่ยง ทั้งต้องยอมขาดทุนกับรุ่นที่ขายไม่ค่อยดี ราคาถูกถูกบังคับขายพ่วง แล้วค่อยไปกินกำไรกับรุ่นที่ขายดี สำหรับแทบเล็ตซัมซุงยังสู้แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้ ขณะนี้ไอแพดมินิขายดีสุด"
เขาเสริมว่า สำหรับแบรนด์ใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาถ้าจะให้นำมาขายคงต้องคิดหนัก โดยจะพิจารณาเรื่องศูนย์บริการก่อนว่าต้องมี และไม่หายไป
อย่าเห็นแก่ของถูก
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ทุกวันนี้การแข่งขันสูงขึ้นมาก นอกจากแต่ละร้านต้องชิงลูกค้ากัน ยังมีเครื่องย้อมแมวที่บางกรณีใช้แล้วบ้าง เป็นเครื่องที่ลูกค้าไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการแล้วนำมาขายต่อบ้างปนอยู่บ้าง ทำให้ความเชื่อใจถดถอยลงไป
"เครื่องพวกนั้นต้นทุนต่ำขายได้กำไร 500-1,000 บาท ส่วนของเราเป็นของใหม่ได้กำไรแค่ 200 บาท บางครั้งลูกค้าเดินมาหาพอถามว่าได้ราคามาเท่าไร ผู้ค้ากันเองจะพอประเมินได้ว่าใหม่หรือย้อมแมว แต่ลูกค้าคงไม่อาจรู้เท่าทัน บางรายเห็นของใครถูกกว่าก็ซื้อไป ขอแนะว่าควรซื้อแต่ร้านที่ไว้ใจ และอย่าเห็นแก่ของถูกจะดีที่สุด"
สำหรับทางแก้เบื้องต้น อยากให้ผู้ผลิตแต่ละราย ทำที่หุ้มพลาสติกซึ่งมียี่ห้อแบรนด์ติดอยู่แล้วมีข้อมูลแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า ควรสังเกตอย่างไร ที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดนี้ไปบ้าง แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ถ้าทำได้ความนิยมของมาบุญครองจะคืนมาอีกมาก
พร้อมระบุว่า ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ ที่ย่ำแย่ ธุรกิจขายส่งไปต่างจังหวัดยอดก็ไม่วิ่งเช่นกัน ทำให้อาจไม่ขอรับสินค้ามาเพิ่ม ส่วนแนวโน้มที่ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนกับแทบเล็ตปีนี้ดีมากยังไม่เชื่อ ยอดขายไม่วิ่งมากกว่าเดิม ทุกวันนี้มีผู้ค้าไม่น้อยหันไปขายอุปกรณ์เสริมที่มีส่วนต่างกำไรดีกว่า รับมา 70-80 บาท ขายได้ 250-300 บาท ส่วนของที่เหลือตกรุ่นขนาดทำโปรโมชั่นลดราคาก็ไม่มีผลกระทบเพราะได้กำไรไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว
ยอดฮวบเกิน50%
ผู้ประกอบการรายใหญ่อีกราย แสดงความคิดเห็นตรงกันว่า ผลที่เกิดขึ้นมาจากภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน เพราะทั้งน้ำมัน สินค้าอุปโภค บริโภคก็ราคาแพงขึ้น นโยบายของรัฐอย่างรถคันแรกก็ดึงเงินไปหมุนเวียนนอกประเทศมากกว่าภายใน ทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องกันไปหมด
“ตลาดเงียบมาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว โดยเฉพาะเดือนนี้ยอดขายน่าจะหายไปเกิน 50% ขนาดมี 3 จี ยังไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เงียบหมดทั้งขายปลีก ขายส่ง คนที่มาลงแอพพลิเคชั่นก็น้อยลง”
ผู้ค้าเผยว่า การปรับตัวคือไม่สต็อคสินค้าไว้มากเกินไป และพยายามนำสินค้ามาขายให้หลากหลายขึ้นไม่พึ่งพาแต่แอ๊ปเปิ้ลที่ช่วงหลังแผ่วลงมาก ขณะเดียวกันเพิ่มสินค้าของซัมซุงอีกหลายรุ่น พร้อมนำอุปกรณ์เสริมเช่นแบตเตอรี่สำรอง (พาวเวอร์แบงก์) และสายไฟต่างๆ เข้ามาด้วย หวังว่าปลายปีสถานการณ์คงดีขึ้นแต่ยังวางใจไม่ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน แม้ลูกค้าได้โบนัสมาก็เป็นแค่ไฟไหม้ฟางระยะสั้นๆ
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข่าวสะพัดที่ว่าปลายปีจะมีไอโฟนรุ่นถูกปล่อยออกมามีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะขณะนี้ไอพอดทัชขาดตลาดทุกสี แม้แต่ที่ฮ่องกงก็ไม่มีของ คาดว่าน่าจะนำตัวเครื่องไปใช้ผลิตรุ่นใหม่ตามข่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130723/518789/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8
%B8%E0%B8%8D%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%94%E
0%B8%A8%E0%B8%81.%E0%B8%8B%E0%B8%9A-
%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B
8%A2-
%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%
B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95-
%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%
B8%A7%E0%B8%87-50.html
ไม่มีความคิดเห็น: