30 กรกฎาคม 2556 (ชนCTH)สมัชชาเครือข่ายเคเบิลฯ ผนึกทรูและบิ๊กพันธมิตรคลอดแพ็กเกจ "ซูเปอร์แพ็ก 140 ช่อง" คาดราคาเดิมไม่ปรับเพิ่ม // พร้อมเร่งพัฒนากล่องรับสัญญาณ OTT
ประเด็นหลัก
ณัฐชัย อักษรดิษฐ์ณัฐชัย อักษรดิษฐ์ นายณัฐชัย อักษรดิษฐ์ รองประธานกลุ่มสมัชชาเครือข่ายผู้ประกอบการเคเบิลทีวีอย่างยั่งยืน หรือ เอโอซี เปิดเผยว่า เอซีโอร่วมมือกับ 5 พันธมิตรคอนเทนต์รายใหญ่ ได้แก่ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทริปเปิลที เน็ตเวิร์ค จำกัด , บริษัท เน็กซ์สเตป จำกัด , บริษัท แสนสุขเน็ตเวิร์ค จำกัด และ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อหาคอนเทนต์ที่หลากหลายมาตอบโจทย์ผู้ชม และออกแพ็กเกจใหม่ "ซูเปอร์แพ็ก 140 ช่อง" ซึ่งมีช่องรายการกว่า 140 ช่อง แบ่งเป็นรายการเรตติ้งสูง 61 ช่อง และรายการจากฟรีทูแอร์อีก 79 ช่อง นอกจากนี้ยังมีช่องของทรู วิชั่นส์อีกกว่า 30 ช่อง
"คอนเทนต์ที่มาร่วมดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ทุกกลุ่ม ทั้งนี้เอซีโอเป็นแค่ตัวกลางในการเชื่อมระหว่าง 5 พันธมิตรกับผู้ประกอบการเท่านั้น ขณะเดียวกันในขณะนี้เอซีโอได้มีผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่น ที่เซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการนี้แล้วกว่า 203 ราย ซึ่งผู้ที่เข้ามาร่วมต่างเล็งเห็นว่าข้อตกลงนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นมีอำนาจบริหารควบคุมธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มที่ และสามารถดำเนินการฐานสมาชิกของตัวเองได้ พร้อมทั้งรวมถึงเรื่องการออกบิลด้วยตัวเอง"
สำหรับราคาแพ็กเกจดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสรุปราคากับทางพันธมิตรอยู่ แต่คาดว่าค่าสมาชิกน่าจะอยู่ราคาเรตเดิมคือระหว่าง 300-350 บาทต่อเดือน ไม่ปรับเพิ่ม พร้อมทั้งมองว่าแพ็กเกจนี้จะช่วยให้ฐานของจำนวนผู้ชมเครือข่ายเคเบิลของสมัชชาฯเพิ่มขึ้นอีก 10% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณกว่า 6 แสนราย จากจำนวนผู้ชมเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทยที่มีประมาณ 1.2 ล้านรายเท่านั้น
นอกจากนี้เอซีโอยังมุ่งเน้นการพัฒนาคอนเทนต์ การพัฒนากล่องรับสัญญาณ OTT หรือ Over The Top และการพัฒนาเครือข่ายเน็ตเวิร์กต่างๆ เพื่อรองรับการเป็นระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันเอซีโอยังให้สิทธิ์การแจกกล่องแก่ผู้ประกอบการก่อนเพราะจะช่วยให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น โดยเบื้องต้นได้เตรียมกล่องไว้แล้วกว่า 6 แสนกล่อง โดยกล่องมีราคาต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 1.2 พันบาทต่อกล่อง อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลรายได้ผู้ชมที่เข้ามาพบว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีรายได้มาจากสมาชิกประมาณ 30% และอีก 70% ที่เหลือมาจากโฮมช็อปปิง ขณะที่ประเทศไทยกว่า 70% ยังคงเป็นรายได้หลักที่มาจากสมาชิกคนดู
______________________________________
เคเบิลฯจับมือทรูท้าชนCTH
สมัชชาเครือข่ายเคเบิลฯ ผนึกทรูและบิ๊กพันธมิตรคลอดแพ็กเกจ "ซูเปอร์แพ็ก 140 ช่อง" ฉุดลูกค้าแข่งซีทีเอช ลั่นเพิ่มความแข็งแกร่งรับเกิดทีวีดิจิตอล พร้อมทุ่มงบกว่าหมื่นล้านบาทยกระดับกล่องรับสัญญาณ ,ห้องส่ง และเน็ตเวิร์ก ให้ทันสมัยใน 3 เดือน ขณะที่ทรู วิชั่นส์ สั่งลุยทุกแพลตฟอร์ม ล่าสุดขนคอนเทนต์ทรูฟิล์มเอเชีย ดันเรตติ้ง
ณัฐชัย อักษรดิษฐ์ณัฐชัย อักษรดิษฐ์ นายณัฐชัย อักษรดิษฐ์ รองประธานกลุ่มสมัชชาเครือข่ายผู้ประกอบการเคเบิลทีวีอย่างยั่งยืน หรือ เอโอซี เปิดเผยว่า เอซีโอร่วมมือกับ 5 พันธมิตรคอนเทนต์รายใหญ่ ได้แก่ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท ทริปเปิลที เน็ตเวิร์ค จำกัด , บริษัท เน็กซ์สเตป จำกัด , บริษัท แสนสุขเน็ตเวิร์ค จำกัด และ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เพื่อหาคอนเทนต์ที่หลากหลายมาตอบโจทย์ผู้ชม และออกแพ็กเกจใหม่ "ซูเปอร์แพ็ก 140 ช่อง" ซึ่งมีช่องรายการกว่า 140 ช่อง แบ่งเป็นรายการเรตติ้งสูง 61 ช่อง และรายการจากฟรีทูแอร์อีก 79 ช่อง นอกจากนี้ยังมีช่องของทรู วิชั่นส์อีกกว่า 30 ช่อง
"คอนเทนต์ที่มาร่วมดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ทุกกลุ่ม ทั้งนี้เอซีโอเป็นแค่ตัวกลางในการเชื่อมระหว่าง 5 พันธมิตรกับผู้ประกอบการเท่านั้น ขณะเดียวกันในขณะนี้เอซีโอได้มีผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่น ที่เซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการนี้แล้วกว่า 203 ราย ซึ่งผู้ที่เข้ามาร่วมต่างเล็งเห็นว่าข้อตกลงนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นมีอำนาจบริหารควบคุมธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มที่ และสามารถดำเนินการฐานสมาชิกของตัวเองได้ พร้อมทั้งรวมถึงเรื่องการออกบิลด้วยตัวเอง"
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนระบบการออกอากาศทีวีจากอะนาล็อกสู่ดิจิตอลที่จะเกิดในปลายปีตามทิศทางของกสทช. นั้นเชื่อว่าจะทำให้ตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นหากผู้ประกอบการไม่พัฒนาตัวเองอาจทำให้ล้มหายตายจากไปจากธุรกิจได้ ดังนั้นเอซีโอจึงรวมกลุ่มดังกล่าวเพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในเชิงธุรกิจด้านต่างๆ เช่น การซื้ออุปกรณ์การลงทุนในระบบดิจิตอล การนำเสนอการลงระบบHead End ที่มีคุณภาพ และการสั่งซื้ออุปกรณ์กล่องรับสัญญาณ
โดยเอซีโอคาดว่า 3 เดือนหลังจากนี้จะผลักดันให้ผู้ประกอบการเคเบิลพัฒนาเทคโนโลยีทั้ง 3 ด้านให้ทันสมัย และคาดว่าในช่วงการเปลี่ยนถ่ายระบบการแพร่สัญญาณภาพจากอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลนั้นผู้ประกอบการเคเบิลจะใช้งบประมาณการลงทุนพัฒนาโดยรวมไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในขณะนี้มีผู้ประกอบการกว่า 10 ราย จากผู้ประกอบการทั้งหมด 203 ราย เปลี่ยนระบบเข้าสู่ดิจิตอลแล้ว
สำหรับราคาแพ็กเกจดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสรุปราคากับทางพันธมิตรอยู่ แต่คาดว่าค่าสมาชิกน่าจะอยู่ราคาเรตเดิมคือระหว่าง 300-350 บาทต่อเดือน ไม่ปรับเพิ่ม พร้อมทั้งมองว่าแพ็กเกจนี้จะช่วยให้ฐานของจำนวนผู้ชมเครือข่ายเคเบิลของสมัชชาฯเพิ่มขึ้นอีก 10% จากเดิมที่มีอยู่ประมาณกว่า 6 แสนราย จากจำนวนผู้ชมเคเบิลทีวีทั่วประเทศไทยที่มีประมาณ 1.2 ล้านรายเท่านั้น
นอกจากนี้เอซีโอยังมุ่งเน้นการพัฒนาคอนเทนต์ การพัฒนากล่องรับสัญญาณ OTT หรือ Over The Top และการพัฒนาเครือข่ายเน็ตเวิร์กต่างๆ เพื่อรองรับการเป็นระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันเอซีโอยังให้สิทธิ์การแจกกล่องแก่ผู้ประกอบการก่อนเพราะจะช่วยให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น โดยเบื้องต้นได้เตรียมกล่องไว้แล้วกว่า 6 แสนกล่อง โดยกล่องมีราคาต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 1.2 พันบาทต่อกล่อง อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลรายได้ผู้ชมที่เข้ามาพบว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีรายได้มาจากสมาชิกประมาณ 30% และอีก 70% ที่เหลือมาจากโฮมช็อปปิง ขณะที่ประเทศไทยกว่า 70% ยังคงเป็นรายได้หลักที่มาจากสมาชิกคนดู
ด้านนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า กว่า 2 ปีแล้วที่บริษัทเริ่มขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ให้กับผู้ประกอบการต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีคอนเทนต์ที่เรียกเรตติ้งได้จำนวนมาก เช่น ทรูฟิล์มเอเชีย เป็นต้น ซึ่งการร่วมมือกับเอซีโอครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะช่วยผลักดันเรตติ้ง และขยายฐานกลุ่มคนดูให้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมได้ ทั้งนี้บริษัทได้แบ่งขายลิขสิทธิ์ช่องรายการครั้งนี้กว่า 30 ช่อง แบ่งเป็นช่องเอชดี 1 ช่อง และในอนาคตบริษัทมีแผนจะเพิ่มช่องให้มากขึ้นอีก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=192651:cth&catid=106:-marketing&Itemid=456
ไม่มีความคิดเห็น: