Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

04 สิงหาคม 2556 Huawei ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 5% ภายใน 3 ปี เปิดช่องทางจำหน่ายจะเริ่มจากร้านเจ มาร์ท และทีจีโฟน !!! (ยอมรับปีที่แล้วเราไม่ได้ทำตลาดเองจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก )


ประเด็นหลัก


แต่ในครึ่งหลังของปี 2556 จะมีการลงทุนกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐด้านการตลาด เช่น จัดอีเวนต์ต่าง ๆ รวมถึงเตรียมเปิดแฟลกชิปสโตร์ในไตรมาสสุดท้ายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูมีมากกว่าแค่เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน ขณะที่ช่องทางจำหน่ายจะเริ่มจากร้านเจ มาร์ท และทีจีโฟน ส่วนช่องทางของโอเปอเรเตอร์เริ่มกับเอไอเอสก่อน รวมถึงอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ด้วย

ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Ascend P6 บางที่สุดในโลกหรือหนา 6.18 มม. ซีพียูควอดคอร์ความเร็ว 1.5 GHz ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 หน้าจอ 4.7 นิ้ว กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล

กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ราคา 13,990 บาท และรุ่น Ascend Mate หน้าจอ 6.1 นิ้ว ซีพียูควอดคอร์ความเร็ว 1.5 GHz แอนดรอยด์ 4.1 กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ราคา 13,590 บาท

"ปีที่แล้วเราไม่ได้ทำตลาดเองจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ใน 2 ล้านเครื่อง มี 10% เท่านั้นที่เป็นสมาร์ทโฟน ปีนี้จะลงมาโฟกัสเองเมื่อเทียบสเป็กแล้วสู้คู่แข่งอย่างซัมซุงและไอโฟนได้ ทำให้คาดว่า 2 ล้านเครื่องที่จะจำหน่ายปีนี้จะเป็นสมาร์ทโฟนทั้งหมด จากนี้ไปจะมีรุ่นราคาเริ่มต้น ด้วย เพื่อทำให้มีส่วนแบ่ง 5% ภายใน 3 ปี และติด 5 อันดับแรกในไทย"


______________________________________





"หัวเว่ย"บุกตลาดเต็มรูปแบบเปิดศึกสมาร์ทโฟนชิงแชร์5%


"หัวเว่ย" ประกาศเปิดเกมรุกตลาดไทยเต็มรูปแบบ ทั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมและสมาร์ทดีไวซ์ ตั้งเป้ารักษาการเติบโตในแง่รายได้ในปีนี้อย่างน้อย 10% มั่นใจโอกาสธุรกิจเพียบหลังค่ายมือถือเร่งวางโครงข่าย 3G พร้อมทุ่ม 2.5 ล้านเหรียญบุกตลาดสมาร์ทโฟน ท้าชน "ซัมซุง-แอปเปิล" ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 5% ภายใน 3 ปี

นายเฉิน รุ่ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยเพิ่งเปิดบริการระบบ 3G บนคลื่น 2.1 GHz ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป ทำให้ทุกโอเปอเรเตอร์ต่างเร่งขยายโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศให้ได้เร็วที่สุด เพื่อสามารถบริการได้ดีขึ้นจึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ทำให้จากนี้ไปจะเร่งเข้าไปเจรจาธุรกิจกับโอเปอเรเตอร์ เพื่อนำเสนออุปกรณ์โทรคมนาคมของบริษัท โดยเน้นเรื่องประสิทธิภาพและประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีมานานกว่า 25 ปี

ปัจจุบันทุกโอเปอเรเตอร์ในประเทศไทย ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยไม่ว่าจะเป็นเอไอเอส, ดีแทค, ทรู, กสท โทรคมนาคม และทีโอที การเข้าไปเจรจาธุรกิจจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทำได้ทันที อีกทั้งบริษัทพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของโอเปอเรเตอร์ คาดว่าในภาพรวมจะผลักดันให้รายได้ในปีนี้เติบโตใกล้เคียง 10%

"เราเข้ามาเมืองไทยตั้งแต่ปี 2542 และเริ่มตั้งบริษัทจริงจังปี 2544 ช่วงแรกที่เข้ามาก็ไม่ใช่ว่าจะใช้เรื่องราคาที่ต่ำกว่าจึงเปิดตลาดได้ แต่เพราะอุปกรณ์มีประสิทธิภาพไม่อย่างนั้นทั่วโลกคงไม่ใช้อุปกรณ์ของเราทำให้การเติบโตด้านรายได้เพิ่มขึ้นรวดเร็ว"

ด้านนายโทมัส หลิว กรรมการผู้จัดการ บริษัทหัวเว่ย ดีไวซ์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า ที่ผ่านมาหัวเว่ยเน้นผลิตเครื่องตามคำสั่งจากองค์กรต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า ODM (Original Design Manufacturer) แต่ปัจจุบันหันมาสร้างแบรนด์และเน้นทำตลาดเองโดยเฉพาะ "สมาร์ทโฟน" เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทั้งด้านอุปกรณ์โทรคมนาคม รวมถึงโรงงานผลิตที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่จะเริ่มสร้างแบรนด์และทำตลาดเอง จากที่ผ่านมาทำตลาดผ่านผู้แทนจำหน่าย

แต่ในครึ่งหลังของปี 2556 จะมีการลงทุนกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐด้านการตลาด เช่น จัดอีเวนต์ต่าง ๆ รวมถึงเตรียมเปิดแฟลกชิปสโตร์ในไตรมาสสุดท้ายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูมีมากกว่าแค่เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน ขณะที่ช่องทางจำหน่ายจะเริ่มจากร้านเจ มาร์ท และทีจีโฟน ส่วนช่องทางของโอเปอเรเตอร์เริ่มกับเอไอเอสก่อน รวมถึงอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ด้วย

ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Ascend P6 บางที่สุดในโลกหรือหนา 6.18 มม. ซีพียูควอดคอร์ความเร็ว 1.5 GHz ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 หน้าจอ 4.7 นิ้ว กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล

กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ราคา 13,990 บาท และรุ่น Ascend Mate หน้าจอ 6.1 นิ้ว ซีพียูควอดคอร์ความเร็ว 1.5 GHz แอนดรอยด์ 4.1 กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ราคา 13,590 บาท

"ปีที่แล้วเราไม่ได้ทำตลาดเองจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก ใน 2 ล้านเครื่อง มี 10% เท่านั้นที่เป็นสมาร์ทโฟน ปีนี้จะลงมาโฟกัสเองเมื่อเทียบสเป็กแล้วสู้คู่แข่งอย่างซัมซุงและไอโฟนได้ ทำให้คาดว่า 2 ล้านเครื่องที่จะจำหน่ายปีนี้จะเป็นสมาร์ทโฟนทั้งหมด จากนี้ไปจะมีรุ่นราคาเริ่มต้น ด้วย เพื่อทำให้มีส่วนแบ่ง 5% ภายใน 3 ปี และติด 5 อันดับแรกในไทย"

"หัวเว่ย" มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในตลาด 10 รุ่น ตั้งแต่ 3,000-13,990 บาท คาดว่าตลาดรวมสมาร์ทโฟนปีนี้จะมียอดขาย 10-12 ล้าน อีก 2 ปีจะมีกว่า 15 ล้านเครื่อง

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1375527709

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.