04 สิงหาคม 2556 Lenovo ลุยตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในไทย!! ชี้ความสำเร็จเดิมคือ ขายสมาร์ทโฟนได้ถึง 50 ล้านเครื่อง//จีน 10 ล้านเครื่อง//อินโดนีเซียก็ขายได้กว่า 1 ล้านเครื่อง
ประเด็นหลัก
นายลี ฮายสมิท นักวิเคราะห์ด้านการแข่งขันธุรกิจเวิลด์ไวด์ ประจำเลอโนโว กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในอนาคตเลอโนโวจะเริ่มรุกตลาดของกลุ่มพีซีพลัส (สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) มากขึ้น จากการที่ตลาดพีซีมีอัตราการเติบโตที่ตกลงไป แม้ว่าเลอโนโวครองความเป็นอันดับ 1 อยู่ในกลุ่มของพีซี แต่ในพีซีพลัส เลอโนโวอยู่อันดับที่ 3 โดยคาดว่าในอนาคตเลอโนโวจะสามารถขายสมาร์ทโฟนได้ถึง 50 ล้านเครื่อง ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียก็ขายได้กว่า 1 ล้านเครื่อง และในประเทศจีนก็อีกหลาย 10 ล้านเครื่อง จึงคาดว่าตัวเลขดังกล่าวมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ ขณะเดียวกันตลาดสมาร์ททีวีมองว่ายังไม่ค่อยมีการเติบโตมากเท่าไรนักในตอนนี้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเลอโนโวจะมีออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน เพราะตลาดทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์รวมกันแล้วใหญ่กว่าตลาดรวมของพีซี ขณะเดียวกันตลาดสมาร์ททีวีมองว่ายังไม่ค่อยมีการเติบโตมากเท่าไรนัก แต่คาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีการเติบโตของตลาดได้อีก และคงจะได้เห็นสมาร์ททีวีของหลายบริษัทเปิดตัวมาให้เห็นกัน
______________________________________
เลอโนโวหันจับตลาดสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต
นายลี ฮายสมิท นักวิเคราะห์ด้านการแข่งขันธุรกิจเวิลด์ไวด์ ประจำเลอโนโว กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในอนาคตเลอโนโวจะเริ่มรุกตลาดของกลุ่มพีซีพลัส (สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) มากขึ้น จากการที่ตลาดพีซีมีอัตราการเติบโตที่ตกลงไป แม้ว่าเลอโนโวครองความเป็นอันดับ 1 อยู่ในกลุ่มของพีซี แต่ในพีซีพลัส เลอโนโวอยู่อันดับที่ 3 โดยคาดว่าในอนาคตเลอโนโวจะสามารถขายสมาร์ทโฟนได้ถึง 50 ล้านเครื่อง ซึ่งในประเทศอินโดนีเซียก็ขายได้กว่า 1 ล้านเครื่อง และในประเทศจีนก็อีกหลาย 10 ล้านเครื่อง จึงคาดว่าตัวเลขดังกล่าวมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ ขณะเดียวกันตลาดสมาร์ททีวีมองว่ายังไม่ค่อยมีการเติบโตมากเท่าไรนักในตอนนี้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเลอโนโวจะมีออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน เพราะตลาดทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์รวมกันแล้วใหญ่กว่าตลาดรวมของพีซี ขณะเดียวกันตลาดสมาร์ททีวีมองว่ายังไม่ค่อยมีการเติบโตมากเท่าไรนัก แต่คาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีการเติบโตของตลาดได้อีก และคงจะได้เห็นสมาร์ททีวีของหลายบริษัทเปิดตัวมาให้เห็นกัน
เอเชียทีคเล็งสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก
นายฐวัฒน์ สมมะโนพัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกในประเทศไทย โดยในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนไปในพื้นที่ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำและบนฝั่ง รองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่จะขยายตัวตามภูมิภาคมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า จะเห็นการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในโครงการริมน้ำเจ้าพระยา โดยในขณะนี้มีการลงทุนก่อสร้างห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์จากกลุ่มสยามพิวรรธน์ ส่วนการลงทุนในปัจจุบันนั้น บริษัทเตรียมขยายการลงทุนโครงการเอเชียทีคในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยที่ดินกว่า 22 ไร่บนถนนเจริญนคร โดยในเบื้องต้นจะยังคงแนวคิดในการเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง ที่อิงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของพื้นที่เดิมเอาไว้ และเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคนกรุงเทพฯ และฝั่งธนที่สามารถส่งเสริมกันและกันได้ ส่วนมูลค่าที่ดินบนถนนเจริญนคร ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และคาดว่ามูลค่าโครงการน่าจะอยู่ในหลักพันล้านบาท
http://www.thaipost.net/news/030813/77300
ไม่มีความคิดเห็น: