08 สิงหาคม 2556 กสทช.กดดัน PSI สุด!! ห้ามเคเบิลทีวี–ทีวีดาวเทียม 752 ช่องรายการ ออกอากาศโครงข่ายเถื่อน!! บีบ PSI ยื่นเท่านั้นไม่ใช้ให้บ.ลูกยื่นแทน
ประเด็นหลัก
พ.อ.ดร.นที กล่าวว่า ขณะนี้ กสท. ตรวจพบว่า บริษัท พีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายรายใหญ่ ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่ได้ให้บริษัท โพลี บรอดคาสติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกและไม่ได้เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายจริง มายื่นขอใบอนุญาต แต่ผู้ที่ให้บริการโครงข่ายจริง คือ บริษัท โพลี เทเลมีเดีย ถือเป็นการเลี่ยงเงื่อนไขของผู้รับใบอนุญาต โดย กสท.จะให้เวลาพีเอสไอ 2 สัปดาห์นับจากวันที่ 5 ส.ค. 2556 เพื่อยื่นขอรับใบอนุญาต หากไม่เข้ามายื่นตามเวลาที่กำหนดช่องรายการที่อยู่บนโครงข่ายพีเอสไอจะจอดำทันที และหากฝ่าฝืนนำไปออกบนโครงข่ายที่ไม่ได้รับใบอนุญาต จะพิจารณาไม่ต่อใบอนุญาต
______________________________________
กสท.ห้ามช่องรายการออกอากาศบนโครงข่ายเถื่อน
กสท.ระบุช่องรายการเคเบิลทีวี–ทีวีดาวเทียม 752 ช่องรายการ ต้องออกอากาศบนโครงข่ายที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น เร่งกำจัดโครงข่ายเถื่อน สั่ง พีเอสไอ มายื่นขอใบอนุญาต ก่อนเกิดจอดำ
พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ผู้รับใบอนุญาตช่องรายการในกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (เคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม) จำนวน 752 ช่องรายการ ต้องออกอากาศช่องรายการผ่านโครงข่ายที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสท.เท่านั้น ผู้ประกอบการช่องรายการดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ www.nbtc.go.th
พ.อ.ดร.นที กล่าวว่า ขณะนี้ กสท. ตรวจพบว่า บริษัท พีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายรายใหญ่ ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่ได้ให้บริษัท โพลี บรอดคาสติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทลูกและไม่ได้เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายจริง มายื่นขอใบอนุญาต แต่ผู้ที่ให้บริการโครงข่ายจริง คือ บริษัท โพลี เทเลมีเดีย ถือเป็นการเลี่ยงเงื่อนไขของผู้รับใบอนุญาต โดย กสท.จะให้เวลาพีเอสไอ 2 สัปดาห์นับจากวันที่ 5 ส.ค. 2556 เพื่อยื่นขอรับใบอนุญาต หากไม่เข้ามายื่นตามเวลาที่กำหนดช่องรายการที่อยู่บนโครงข่ายพีเอสไอจะจอดำทันที และหากฝ่าฝืนนำไปออกบนโครงข่ายที่ไม่ได้รับใบอนุญาต จะพิจารณาไม่ต่อใบอนุญาต
นอกจากนี้ กสท.ยังได้เตรียมทำ (ร่าง) หลักเกณฑ์การจัดลำดับบริการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมทำการตลาดและดึงดูดผู้ชม โดยสามารถจัดเรียง 10 ช่องแรก (ช่อง 1-10) ส่วนช่อง 11-46 เป็นช่องฟรีทีวีภาคพื้นดิน ซึ่งถือว่าเป็นหลักเกณฑ์ต่อเนื่องจากประกาศหลักเกณฑ์ การกำหนดหมวดหมู่และจัดลำดับบริการรายการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ พ.ศ. 2556 และจะนำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ.
http://www.dailynews.co.th/technology/224503
ไม่มีความคิดเห็น: