Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 มกราคม 2557 Jaymart เตรียมส่งบ.เจเอเอส แอสเซ็ท ปีนี้เตรียมเปิดศูนย์จำหน่ายมือถือ "ไอที จังค์ชั่น" จะเพิ่มเป็น 62 แห่ง เน้นกระจายไปที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่และต่างจังหวัด เพิ่มจากปีก่อน 10 แห่ง


ประเด็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัทในเครือ คือ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ทำธุรกิจบริหารจัดการหนี้สิน โดยบริษัทได้ซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 13,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีหนี้สินที่ต้องจัดการ 43,000 ล้านบาท และรับบริหารจัดการหนี้ให้องค์กรอื่น ๆ อีก 15,000 ล้านบาท ทำให้มีหนี้สินที่จะสร้างรายได้ให้บริษัท 58,000 ล้านบาท

อีกบริษัทคือ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ทจำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารพื้นที่ขายโทรศัพท์มือถือ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยนางสาวนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่า ปีนี้ศูนย์จำหน่ายมือถือ "ไอที จังค์ชั่น" จะเพิ่มเป็น 62 แห่ง เน้นกระจายไปที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่และต่างจังหวัด เพิ่มจากปีก่อน 10 แห่ง เมื่อรวมพื้นที่จำหน่ายมากกว่า 13,000 ตร.ม. มีผู้เช่าพื้นที่กว่า 1,900 ราย เพิ่มจากปีก่อน 500 ราย ทั้งมีธุรกิจใหม่ คือ "เจ มาร์เก็ต" ร่วมกับกลุ่มบิ๊กซีขยายสาขา ให้เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าเหมือนตลาดสดที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมี 1 แห่ง และกลางปีนี้จะเพิ่มอีก 1 แห่ง รวมถึง "เดอะ แจส" คอมมิวนิตี้มอลล์ที่เปิดสาขาแรกในปลายปีนี้ที่วังหิน และสาขา 2 ที่ลาดปลาเค้าปี 2558 และในปลายปีนี้จะมีการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อนำเม็ดเงินที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจ คาดว่าจะมีรายได้ 470 ล้านบาท



______________________________________

"เจมาร์ท" เร่งสปีดเพิ่มพื้นที่ขาย ใช้ CRM ดึงลูกค้าชิงมาร์เก็ตแชร์


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"เจมาร์ท" เร่งสปีดยึดค้าปลีกโทรศัพท์มือถือเร่งขยายสาขาอีก 45 แห่งเพิ่มพื้นที่เช่า พร้อมอัดฉีดเงินจัดอีเวนต์ถี่ยิบ ตั้งเป้าปั๊มรายได้โต 40% เกาะกระแสตลาดสมาร์ทโฟนสุดบูม

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท กล่าวว่า ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการเร่งของโอเปอเรเตอร์ที่ต้องการให้ผู้บริโภคย้ายไปใช้โครงข่ายใหม่ รวมถึงความต้องการในการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น คาดว่ายอดขายรวมจะมีถึง 25 ล้านเครื่องหรืออาจมากกว่านั้น แม้จะมีปัจจัยลบจากปัญหาต่าง ๆ

ขณะที่ปีที่แล้ว ตลาดรวมมียอดขาย ประมาณ 20 ล้านเครื่อง เป็นสมาร์ทโฟนกว่า 60% ที่เหลือเป็นฟีเจอร์โฟนซึ่งมีแนวโน้มลดลงตลอด ทำให้ธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์มือถือแข่งกันหนักแน่นอน เพราะแต่ละเจ้าต้องสร้างจุดเด่นเพื่อดึงให้ลูกค้าเข้ามาซื้อ

ในปี 2557 บริษัทจะใช้การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CSR) อย่างจริงจังผ่านการออกบัตรสมาชิก "เอ็นจอย การ์ด" เพื่อให้ลูกค้าสะสมแต้มนำมาลดราคาซื้อสินค้าต่าง ๆ รวมกับบัตร "โมบาย พลัส" ที่เพิ่มระยะเวลาการประกัน และมีสิทธิ์นำเครื่องเก่ามาขายในราคามากกว่าตลาด ซึ่งกลยุทธ์นี้เริ่มมาตั้งแต่ปีก่อน มีลูกค้าที่มีบัตรแล้ว 1.3 แสนราย นอกจากสร้างความภักดีในแบรนด์แล้วยังได้ข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ด้วย

ส่วนแผนการขยายสาขาจะเพิ่มอีก45 แห่ง เป็น 300 แห่ง และปรับปรุงหน้าร้านเดิมให้เป็นรูปแบบใหม่ ใช้งบประมาณ 252 ล้านบาท และเพิ่มการจัดอีเวนต์ตามห้างสรรพสินค้า จากปีที่แล้ว 25 ครั้ง เพิ่มเป็น 35 ครั้ง เน้นต่างจังหวัดมากขึ้น ใช้เงิน 85 ล้านบาท และอีก 14 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ รวมเงินลงทุนทั้งหมดในปีนี้จะอยู่ที่ 430 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มี 360 ล้านบาท

บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ที่ 12,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้ 9,000 ล้านบาท 40% จากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 1.7 ล้านเครื่อง มากที่สุดเมื่อเทียบกับร้านค้าปลีกโทรศัพท์ด้วยกัน เพิ่มจาก 1.27 ล้านเครื่องเมื่อปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นสมาร์ทโฟนกว่า 70% ที่เหลือเป็นฟีเจอร์โฟน

"การบริหารสต๊อกเป็นเรื่องที่สำคัญในเวลานี้ ถ้าไม่จัดการให้ดีโอกาสที่สินค้าจะขายออกไม่ทัน ราคาตกก็สูง เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว เราจะใช้นโยบายให้แต่ละสาขาต้องจำหน่ายสินค้าออก 70% ภายใน 30 วันหลังสั่งของจากศูนย์กระจายสินค้า และ 30 วันถัดไปต้องขาย 20% และ 10% ที่เหลือให้หมด"

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บริษัทในเครือ คือ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ทำธุรกิจบริหารจัดการหนี้สิน โดยบริษัทได้ซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 13,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีหนี้สินที่ต้องจัดการ 43,000 ล้านบาท และรับบริหารจัดการหนี้ให้องค์กรอื่น ๆ อีก 15,000 ล้านบาท ทำให้มีหนี้สินที่จะสร้างรายได้ให้บริษัท 58,000 ล้านบาท

อีกบริษัทคือ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ทจำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารพื้นที่ขายโทรศัพท์มือถือ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยนางสาวนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่า ปีนี้ศูนย์จำหน่ายมือถือ "ไอที จังค์ชั่น" จะเพิ่มเป็น 62 แห่ง เน้นกระจายไปที่ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่และต่างจังหวัด เพิ่มจากปีก่อน 10 แห่ง เมื่อรวมพื้นที่จำหน่ายมากกว่า 13,000 ตร.ม. มีผู้เช่าพื้นที่กว่า 1,900 ราย เพิ่มจากปีก่อน 500 ราย ทั้งมีธุรกิจใหม่ คือ "เจ มาร์เก็ต" ร่วมกับกลุ่มบิ๊กซีขยายสาขา ให้เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าเหมือนตลาดสดที่มีคุณภาพ ปัจจุบันมี 1 แห่ง และกลางปีนี้จะเพิ่มอีก 1 แห่ง รวมถึง "เดอะ แจส" คอมมิวนิตี้มอลล์ที่เปิดสาขาแรกในปลายปีนี้ที่วังหิน และสาขา 2 ที่ลาดปลาเค้าปี 2558 และในปลายปีนี้จะมีการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อนำเม็ดเงินที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจ คาดว่าจะมีรายได้ 470 ล้านบาท

สำหรับรายได้รวมของกลุ่มเจมาร์ทในปีนี้จะอยู่ที่ 13,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 35%


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1389754964

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.