Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 มกราคม 2557 Microsoft พัฒนาลิฟต์อัจฉริยะ!! จำใบหน้าผู้ใช้และใช้แอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวในสมาร์ทโฟนเรียกลิฟต์ให้มารับผู้ใช้ได้จากระยะไกล


ประเด็นหลัก

ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นการประยุกต์ระบบลิฟต์อัจฉริยะนี้ให้ทำงานร่วมกับเครือข่ายข้อมูลหรือเซ็นเซอร์บนอุปกรณ์สวมใส่ได้หรือ wearable ซึ่งหากในอุปกรณ์นั้นมีการบันทึกตารางนัดหมายของผู้ใช้ ลิฟต์จะสามารถรอเพื่อรับตัวผู้ใช้ให้เดินทางไปยังสถานที่ที่ต้องการตามเวลาที่บันทึกไว้ โดยไม่ต้องกดปุ่มเรียกลิฟต์และรออย่างที่เคยเป็นมาตลอด
   
       นอกจากนี้ ลิฟต์ในอนาคตยังอาจทำงานได้มากกว่าปัจจุบัน เช่น ไม่เพียงส่งผู้ใช้ในชั้นที่ต้องการ แต่ลิฟต์อาจประเมินเวลาเพื่อวิ่งขึ้นมารับผู้ใช้กลับไปยังชั้นเดิมได้ รวมถึงลิฟต์อาจจะสามารถรับสัญญาณจากแอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวในสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเรียกลิฟต์ให้มารับผู้ใช้ได้จากระยะไกล
   


______________________________________
ทำไม Microsoft จึงพัฒนา”ลิฟต์อัจฉริยะ”?



ไม่เพียงรู้ได้เองว่าผู้ใช้ต้องการเดินทางไปชั้นไหน แต่ลิฟต์ในอนาคตอาจรับสัญญาณจากแอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวในสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเรียกลิฟต์ให้มารับผู้ใช้ได้จากระยะไกล

       หลังจากผู้บริหารไมโครซอฟท์ (Microsoft) ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการบลูมเบิร์กทีวี (Bloomberg Television) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าทีมวิจัยไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา “ลิฟต์อัจฉริยะ” ที่สามารถคาดเดาว่าผู้ใช้ต้องการเดินทางไปชั้นใดได้เอง คำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้อ่านหลายคนคือไมโครซอฟท์จะพัฒนาระบบลิฟต์ปัญญาประดิษฐ์นี้ไปเพื่ออะไร และมีแผนธุรกิจใดที่จะต่อยอดจากงานวิจัยนี้
     
       ปีเตอร์ ลี (Peter Lee) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของไมโครซอฟท์ (Microsoft Research) เปิดเผยรายละเอียดงานวิจัยล่าสุดของบริษัทว่าคือการพัฒนาระบบลิฟต์อัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (artificial intelligence) เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ต้องการเดินทางไปที่ใด โดยแม้ไมโครซอฟท์ยังไม่สามารถเผยแผนทำการตลาดระบบลิฟต์ไฮเทคในขณะนี้ แต่ทั้งหมดก็เป็นการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าแนวคิดนี้สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้
     
       สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกดนิ้วเพื่อบอกลิฟต์ว่าต้องการให้จอดที่ชั้นใดของอาคาร เนื่องจากลิฟต์สามารถคำนวณจากพฤติกรรมและประวัติการเดินทางของผู้ใช้ จุดนี้ไมโครซอฟท์ระบุว่าลิฟต์ไฮเทคนี้จะถูกติดตั้งไว้ก่อนเปิดใช้งานจริง 3 เดือน เพื่อให้ระบบเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ในอาคารก่อนจะเปิดให้บริการเต็มตัว
     
       ถามว่าลิฟต์จะต้องจดจำใบหน้าของผู้ใช้ในอาคารได้จริงหรือไม่ คำตอบคือจริง โดยจะเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้าที่เริ่มแพร่หลายในหลายอุปกรณ์ แต่จะไม่มีการเก็บข้อมูลตัวตนหรือบุคคลไว้ที่ลิฟต์เพื่อความปลอดภัย
     
       ในรายการบลูมเบิร์กทีวี ผู้บริหารไมโครซอฟท์ยกตัวอย่างช่วงเวลาพักกลางวันของสำนักงาน หากผู้ใช้รายหนึ่งเคยพูดไว้เมื่อวานนี้ว่าจะมารับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานที่ชั้น 2 ของอาคาร และลิฟต์สามารถตรวจจับได้ว่าผู้ใช้กำลังเดินทางมาขึ้นลิฟต์ ลิฟต์ตัวนี้จะฉลาดพอที่จะจอดให้ที่ชั้น 2 ของอาคาร ทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปพบเพื่อนร่วมงานในสถานที่ที่ต้องการได้โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
     
       หากจะมองข้ามช็อตเพื่อหาคำตอบว่าไมโครซอฟท์ต้องการต่อยอดธุรกิจอย่างไรกับการพัฒนาลิฟต์อัจฉริยะนี้ เราอาจต้องมองที่ความพยายามในการบริหารจัดการลิฟต์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยสิ่งที่ไมโครซอฟท์ย้ำชัดเจนคือระบบเรียนรู้หรือ learning system ใหม่ที่เจ้าพ่อวินโดวส์พัฒนาขึ้นนั้นสามารถควบคุมและจัดการเส้นทางเดินลิฟต์ล่วงหน้าได้ นี่เองที่จะนำไปสู่การพัฒนาระบบที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มเรียกลิฟต์และรอคอยอีกต่อไป
     
       การสาธิตของไมโครซอฟท์ทำให้เห็นว่า เพียงปล่อยให้ระบบเรียนรู้ของลิฟต์ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้ในอาคารเพียง 3 เดือน ลิฟต์ก็สามารถบริหารจัดการและควบคุมตัวเองได้อย่างไร้ปัญหา
     
       ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นการประยุกต์ระบบลิฟต์อัจฉริยะนี้ให้ทำงานร่วมกับเครือข่ายข้อมูลหรือเซ็นเซอร์บนอุปกรณ์สวมใส่ได้หรือ wearable ซึ่งหากในอุปกรณ์นั้นมีการบันทึกตารางนัดหมายของผู้ใช้ ลิฟต์จะสามารถรอเพื่อรับตัวผู้ใช้ให้เดินทางไปยังสถานที่ที่ต้องการตามเวลาที่บันทึกไว้ โดยไม่ต้องกดปุ่มเรียกลิฟต์และรออย่างที่เคยเป็นมาตลอด
     
       นอกจากนี้ ลิฟต์ในอนาคตยังอาจทำงานได้มากกว่าปัจจุบัน เช่น ไม่เพียงส่งผู้ใช้ในชั้นที่ต้องการ แต่ลิฟต์อาจประเมินเวลาเพื่อวิ่งขึ้นมารับผู้ใช้กลับไปยังชั้นเดิมได้ รวมถึงลิฟต์อาจจะสามารถรับสัญญาณจากแอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวในสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเรียกลิฟต์ให้มารับผู้ใช้ได้จากระยะไกล
     
       แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วใช่ไหมคะ

http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000008636

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.