Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 มกราคม 2557 (เกาะติดประมูลDigital TV) เลขาธิการกสทช.ฐากร ชี้ (รายรับใบอนุญาตDigital TVงวดแรกราว 11,000 ล้านบาท) ส่งผลให้คูปองเครื่องรับจะปรับราคาจาก690บาทเป็น1,000-1,100บาท


ประเด็นหลัก


ส่วนความคืบหน้าการนำเงินของกองทุน กทปส. ไปใช้ออกคูปองเงินให้แก่คนไทยทั้ง 22 ล้านครัวเรือน เบื้องต้นจะหารือเพิ่มเติมกับกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในแนวทางการสนับสนุนค่าอุปกรณ์ จากเดิมที่กำหนดให้อุดหนุนได้ระหว่างเครื่องทีวี.ที่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้โดยตรง และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่ง กทปส. ต้องการให้เพิ่มในส่วนเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์เข้าไปด้วย เนื่องจากในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งอาจมีความจำเป็นในการใช้เสาอากาศรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ส่วนจะเพิ่มจำนวนมูลค่าคูปองจาก690 บาท หรือไม่ ต้องให้บอร์ด กสท. เป็นฝ่ายเสนอแนวนโยบาย

“แม้จากการสำรวจพบว่าราคาค่ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท และคนทั่วไปเห็นว่าการที่ กสทช. เตรียมออกคูปอง 690 บาท ซึ่งน้อยกว่าราคาเฉลี่ย ทั้งที่ กสทช. ได้เงินจากการประมูลทีวีดิจิตอล จำนวนมากนั้น เห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องหารือกันอีกครั้งถึงจำนวนราคาที่เหมาะสมสอดรับกับราคาตลาดด้วยเช่นกัน แต่เบื้องต้นเห็นว่าราคาเฉลี่ย 1,000-1,100 บาท เกิดจากการที่ กสทช. ได้อนุมัติให้จำหน่ายอุปกรณ์ไปราวแสนกล่องเท่านั้น แต่เมื่อออกคูปองให้แก่ 22 ล้านครัวเรือน บริษัทผลิตอุปกรณ์ในตลาดต้องทำเพิ่มมาจำหน่ายในตลาดกว่า 20 ล้านกล่องแน่นอน อาจส่งผลให้ราคาอุปกรณ์ต่ำลงก็เป็นได้” นายฐากรกล่าว

______________________________________

กทปส.ทุนหนาเงินสะพัด2.6หมื่นล.

รับอานิสงส์จากประมูลทีวีดิจิตอล

ตั้งงบแจกสนับสนุนโครงการเพิ่ม

กสทช.รับอานิสงส์จากทีวีดิจิตอล หนุนเงินกองทุนกทปส.แตะ 2.6 หมื่นล้านบาท เตรียมตั้งงบแจกสนับสนุนโครงการอีก618 ล้านบาท พร้อมหารือกสท.ปรับเกณฑ์แจกคูปอง 22 ล้านครัวเรือนช่วยค่าอุปกรณ์ให้ครอบคลุมถึงเสาอากาศทีวี. เหตุพื้นที่ห่างไกลยังจำเป็นต้องใช้

พล.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เปิดเผยในพิธีลงนามรับเงินจัดสรรกองทุนครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 ว่า กทปส. จัดตั้งขึ้นตาม มาตราที่ 52 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553

โดยการมอบเงินครั้งแรกมีจำนวนทั้งสิ้น 32 ล้านบาท ให้แก่ 10 โครงการจาก 8 หน่วยงานที่ดำเนินการร้องขอเงินสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์มา ทั้งนี้หลักในการพิจารณาการมอบเงินประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1.บริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2.วิจัยกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 3.การพัฒนาบุคลากร ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 4.งานด้านคุ้มครองผู้บริโภค และ 5.จัดทำสื่อปลอดภัยและสื่อสร้างสรรค์

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และเลขานุการ กทปส. กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุน กทปส. มีเงินทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท เพิ่มจากเมื่อสิ้นปี 2555 จำนวน 5,000 เงินที่เพิ่มเข้ามาเป็นรายได้ประจำมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโทรคมนาคม 3.75% จากรายได้รวมต่อปีที่ผู้ประกอบการต้องนำจ่ายเข้ากองทุน กทปส. โดยในปี 2557 คาดว่ากองทุน กทปส. จะมีเงินทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มาจากเงินค้างเดิมในปี 2556 จำนวน 10,000ล้านบาท เงินนำจ่ายเข้ากองทุนจากกิจการโทรคมนาคมราว 5,000 ล้านบาทเงินจากการจ่ายค่าใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ หรือทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง ในงวดแรก จำนวน 11,000 ล้านบาทและค่าปรับในกรณีต่างๆที่จะเกิดขึ้น

โดยในปี 2557 กทปส. มีแผนตั้งงบมอบเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ จำนวน618 ล้านบาท แบ่งเป็นงบปี 2557 โดยตรง 500 ล้านบาท และที่ยกยอดมาจากปี 2556 จำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งเงินในจำนวนดังกล่าวไม่รวมเงินที่ กทปส. นำจากกองทุนไปใช้ออกคูปองเงินสนุนค่าอุปกรณ์เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากทีวีอนาล็อกไปสู่ทีวีดิจิตอลให้แก่คนไทย 22 ล้านครัวเรือน คาดว่าจะประกาศเชิญให้ผู้ที่ต้องการขอเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ในปี 2557 ได้ราวปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายฐากรกล่าวว่าสำหรับเงินที่ได้จากการค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดแรกราว 11,000 ล้านบาท จะเข้าในช่วงปลายเดือน
กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากตามกำหนดการจ่ายเงินประมูลงวดแรก ผู้ประกอบการต้องดำเนินการภายหลังได้รับหนังสือแจ้ง 30 วัน ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ทำการออกหนังสือให้ทั้ง 17 บริษัทที่ชนะการประมูล เมื่อวันที่ 12 มกราคม ส่งผลให้ผู้ชนะการประมูลทั้งหมดต้องชำระเงินประมูลงวดแรกภายไม่เกินวันที่ 15 กุมภาพันธ์

ส่วนความคืบหน้าการนำเงินของกองทุน กทปส. ไปใช้ออกคูปองเงินให้แก่คนไทยทั้ง 22 ล้านครัวเรือน เบื้องต้นจะหารือเพิ่มเติมกับกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในแนวทางการสนับสนุนค่าอุปกรณ์ จากเดิมที่กำหนดให้อุดหนุนได้ระหว่างเครื่องทีวี.ที่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้โดยตรง และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่ง กทปส. ต้องการให้เพิ่มในส่วนเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์เข้าไปด้วย เนื่องจากในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งอาจมีความจำเป็นในการใช้เสาอากาศรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ส่วนจะเพิ่มจำนวนมูลค่าคูปองจาก690 บาท หรือไม่ ต้องให้บอร์ด กสท. เป็นฝ่ายเสนอแนวนโยบาย

“แม้จากการสำรวจพบว่าราคาค่ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท และคนทั่วไปเห็นว่าการที่ กสทช. เตรียมออกคูปอง 690 บาท ซึ่งน้อยกว่าราคาเฉลี่ย ทั้งที่ กสทช. ได้เงินจากการประมูลทีวีดิจิตอล จำนวนมากนั้น เห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องหารือกันอีกครั้งถึงจำนวนราคาที่เหมาะสมสอดรับกับราคาตลาดด้วยเช่นกัน แต่เบื้องต้นเห็นว่าราคาเฉลี่ย 1,000-1,100 บาท เกิดจากการที่ กสทช. ได้อนุมัติให้จำหน่ายอุปกรณ์ไปราวแสนกล่องเท่านั้น แต่เมื่อออกคูปองให้แก่ 22 ล้านครัวเรือน บริษัทผลิตอุปกรณ์ในตลาดต้องทำเพิ่มมาจำหน่ายในตลาดกว่า 20 ล้านกล่องแน่นอน อาจส่งผลให้ราคาอุปกรณ์ต่ำลงก็เป็นได้” นายฐากรกล่าว

http://www.naewna.com/business/88130



________________________________________

เงินทะลักเข้ากองทุนกสทช. อานิสงส์ 'ทีวีดิจิทัล'


"ทีวีดิจิทัล"ขึ้นแท่นเป็นขุมทรัพย์สำคัญของ กสทช.ในปีนี้ คาดว่าจะมีเงินไหลเข้าสู่กองทุนสำหรับพัฒนาอุตฯบรอดแคสต์ และอุตฯโทรคมของประเทศมหาศาล



ล่าสุด กสทช.ได้เตรียมตั้งงบแจกสนับสนุนโครงการต่างๆ 618 ล้านบาท พร้อมเซ็นเอ็มโอยูดูแลสิทธิผู้บริโภค

พล.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เปิดเผยในพิธีลงนามรับเงินจัดสรรกองทุนครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 ว่า กทปส.จัดตั้งขึ้นตามมาตราที่ 52 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553

การมอบเงินครั้งแรกนี้ ได้มอบเงินทั้งสิ้นราว 32 ล้านบาท ให้ 10 โครงการจาก 8 หน่วยงานที่ดำเนินการร้องขอเงินสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์มา หลักพิจารณาการมอบเงินมี 5 ด้าน ได้แก่ 1.บริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2.วิจัยกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 3.พัฒนาบุคลากรในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 4.คุ้มครองผู้บริโภค และ 5.ทำสื่อปลอดภัยและสื่อสร้างสรรค์

คาดปีนี้กองทุนฯมีเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และเลขานุการ กทปส. กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุน กทปส. มีเงินทั้งสิ้นราว 10,000 ล้านบาท เพิ่มจากเมื่อสิ้นปี 2555 จำนวน 5,000 เงินที่เพิ่มราว 5,000 ล้านบาท เป็นรายได้ประจำมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโทรคมนาคม 3.75% จากรายได้รวมต่อปีที่ผู้ประกอบการต้องนำจ่ายเข้ากองทุน กทปส. ปีนี้คาดว่ากองทุน กทปส. จะมีเงินทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท เป็นเงินค้างเดิมในปี 2556 จำนวน 10,000 ล้านบาท เงินนำจ่ายเข้ากองทุนจากกิจการโทรคมนาคมราว 5,000 ล้านบาท เงินจากการจ่ายค่าใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ หรือทีวีดิจิทัล ทั้ง 24 ช่อง ในงวดแรก จำนวน 11,000 ล้านบาท และค่าปรับในกรณีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

ปีนี้ กทปส. มีแผนตั้งงบมอบเงินสนับสนุนโครงการต่างจำนวน 618 ล้านบาท เป็นงบปี 2557 โดยตรง 500 ล้านบาท และที่ยกยอดมาจากปี 2556 จำนวน 118 ล้านบาท เงินจำนวนดังกล่าวไม่รวมเงินที่ กทปส. นำจากกองทุนไปใช้ออกคูปองค่าอุปกรณ์เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากทีวีอนาล็อกไปสู่ทีวีดิจิทัลให้คนไทย 22 ล้านครัวเรือน คาดจะประกาศเชิญให้ผู้ต้องการขอเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ได้ราวปลายเดือนก.พ.นี้

รับเงินประมูลทีวีดิจิทัลหมื่นล้านบาท

สำหรับเงินที่ได้จากการค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัลงวดแรก ราว 11,000 ล้านบาท จะเข้าปลายเดือนก.พ.นี้ ตามกำหนดการจ่ายเงินประมูลงวดแรก ผู้ประกอบการต้องดำเนินการหลังได้รับหนังสือแจ้ง 30 วัน ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือให้ 17 บริษัทชนะประมูล เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ชนะประมูลต้องชำระเงินประมูลงวดแรกไม่เกิน 15 ก.พ.

ส่วนความคืบหน้าการนำเงินกองทุน กทปส.ไปใช้ออกคูปองให้คนไทย 22 ล้านครัวเรือน เบื้องต้น กทปส.จะหารือเพิ่มเติมกับกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในแนวทางสนับสนุนค่าอุปกรณ์ จากเดิมกำหนดให้อุดหนุนได้ระหว่างเครื่องทีวีที่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิทัลได้โดยตรง และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล ซึ่ง กทปส.ต้องการให้เพิ่มในส่วนเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์ด้วย เนื่องจากในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งอาจมีความจำเป็นในการใช้เสาอากาศรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ส่วนการเพิ่มจำนวนมูลค่าคูปองจาก 690 บาทหรือไม่ ต้องให้บอร์ดกสท.เสนอแนวนโยบาย

นอกจากนี้ กสทช.ยังได้ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ดังนี้ 1.แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิและการใช้บริการโทรคมนาคมของประชาชน 2.ส่งเสริมสนับสนุนและเพิ่มพูนขีดความสามารถเครือข่ายภาคประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิที่ได้รับ 3.เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน 4.ทบทวนและการแก้ไขบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทุกระยะหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหน่วยงานทั้งสองจะร่วมมือประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล 5.ยกเลิกบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหน่วยงานทั้งสองสามารถทำได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวันแต่การยกเลิกบันทึก

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20140130/559762/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5.html

`____________________________________________________________

กสทช.ชี้เงินทุน กทปส.มีสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท


       ประธาน กสทช.ระบุปี 2557 กทปส.จะมีเงินสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาท ด้าน “ฐากร” ชี้เงินมาจากการประมูลทีวีดิจิตอลและเงินคงค้างปี 2556 คาดปลายเดือน ก.พ.สามารถประกาศเงื่อนไขการขอรับเงินจากกองทุน หลังแจก 32 ล้านบาทให้ 10 โครงการแรก พร้อมเตรียมแจกอีก 618 ล้านบาทในปีนี้
     
       พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวในพิธีลงนามรับเงินจัดสรรกองทุนครั้งที่ 1 ประจำปี 2556 ว่า กทปส.จัดตั้งขึ้นตามมาตราที่ 52 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งในการมอบเงินครั้งแรกนี้มีการมอบเงินจำนวนทั้งสิ้นราว 32 ล้านบาทให้แก่ 10 โครงการจาก 8 หน่วยงานที่ดำเนินการร้องขอเงินสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์มา
     
       โดยหลักในการพิจารณาการมอบเงินประกอบด้วย 5 ด้าน ได้แก่ 1. บริหารกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2. วิจัยกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 3. การพัฒนาบุคลากรในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 4. งานด้านคุ้มครองผู้บริโภค และ 5. จัดทำสื่อปลอดภัยและสื่อสร้างสรรค์
     
       ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และเลขานุการ กทปส. กล่าวว่า ในปี 2557 คาดว่ากองทุน กทปส.จะมีเงินทั้งสิ้นราว 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มาจากเงินค้างเดิมในปี 2556 จำนวน 10,000 ล้านบาท เงินนำจ่ายเข้ากองทุนจากกิจการโทรคมนาคมราว 5,000 ล้านบาท เงินจากการจ่ายค่าใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ หรือทีวีดิจิตอล ทั้ง 24 ช่องในงวดแรก จำนวน 11,000 ล้านบาท และค่าปรับในกรณีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
     
       ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุน กทปส.มีเงินทั้งสิ้นราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากเมื่อสิ้นปี 2555 จำนวน 5,000 ล้านบาท โดยจำนวนเงินที่เพิ่มมาราว 5,000 ล้านบาทเป็นรายได้ประจำมาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโทรคมนาคมจำนวน 3.75% จากรายได้รวมต่อปีที่ผู้ประกอบการต้องนำจ่ายเข้ากองทุน กทปส.
     
       นอกจากนี้ ในปี 2557 กทปส.มีแผนตั้งงบมอบเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ จำนวน 618 ล้านบาท แบ่งเป็นงบปี 2557 โดยตรงจำนวน 500 ล้านบาท และที่ยกยอดมาจากปี 2556 จำนวน 118 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวไม่รวมเงินที่ กทปส.นำจากกองทุนไปใช้ออกคูปองเงินสนับสนุนค่าอุปกรณ์เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากทีวีแอนะล็อกไปสู่ทีวีดิจิตอลให้แก่คนไทย 22 ล้านครัวเรือน
     
       “เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถทำประกาศเชิญให้ผู้ที่ต้องการขอเงินสนับสนุนโครงการต่างๆ ในปี 2557 ได้ราวปลายเดือน ก.พ.นี้”
     
       นายฐากรกล่าวว่า ส่วนเงินที่ได้จากค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดแรกราว 11,000 ล้านบาทจะเข้ามาในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ เนื่องจากตามกำหนดการจ่ายเงินประมูลงวดแรกผู้ประกอบการต้องดำเนินการภายหลังได้รับหนังสือแจ้ง 30 วัน ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ทำการออกหนังสือให้บริษัทที่ชนะการประมูลเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ชนะการประมูลทั้งหมดต้องชำระเงินประมูลงวดแรกภายในไม่เกินวันที่ 15 ก.พ.
     
       สำหรับความคืบหน้าการนำเงินของกองทุน กทปส.ไปใช้ออกคูปองเงินให้แก่คนไทยทั้ง 22 ล้านครัวเรือน เบื้องต้น กทปส.จะหารือเพิ่มเติมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในแนวทางการสนับสนุนค่าอุปกรณ์ จากเดิมที่กำหนดให้สามารถอุดหนุนได้ระหว่างเครื่องทีวีที่สามารถรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้โดยตรง และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่ง กทปส.ต้องการให้เพิ่มในส่วนเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์เข้าไปด้วย เนื่องจากในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งอาจมีความจำเป็นในการใช้เสาอากาศรับสัญญาณด้วยเช่นกัน ส่วนจะให้มีการเพิ่มจำนวนมูลค่าคูปองจาก 690 บาทหรือไม่ ต้องให้บอร์ด กสท.เป็นฝ่ายเสนอแนวนโยบาย
     
       “อย่างไรก็ดี จากการสำรวจพบว่าราคาค่ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท และคนทั่วไปเห็นว่าการที่ กสทช.เตรียมออกคูปองจำนวน 690 บาท ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าราคาเฉลี่ย ทั้งที่ กสทช.ได้เงินจากการประมูลทีวีดิจิตอลเป็นจำนวนที่สูงมาก ดังนั้นจึงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวต้องหารือกันอีกครั้งถึงจำนวนราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับราคาตลาดด้วย”
     
       ส่วนสาเหตุที่ราคาเฉลี่ยกล่องรับสัญญาณอยู่ที่ 1,000-1,100 บาท เกิดจากการที่ กสทช.ได้อนุมัติให้จำหน่ายอุปกรณ์ไปราว 1 แสนกล่องเท่านั้น แต่เมื่อออกคูปองให้แก่ 22 ล้านครัวเรือน บริษัทผลิตอุปกรณ์ในตลาดต้องทำเพิ่มมาจำหน่ายในตลาดกว่า 20 ล้านกล่องแน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาอุปกรณ์ในตลาดลดต่ำลงในที่สุด
     

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000011398


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.