Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

11 กุมภาพันธ์ 2557 LG ไทยตั้งเป้าเท่ากับบริษัทแม่ ชิงส่วนแบ่งตลาด 10% กลับคืนให้ได้ภายใน 2 ปี เชื่อปีนี้ จะมีฟีเจอร์โฟนราว 10% หรือ 2 ล้านเครื่องเท่านั้น ในขณะที่อีก 90% ที่เหลือ หรือ 18 ล้านเครื่อง


ประเด็นหลัก


   “ในช่วงครึ่งปีแรกแอลจีจะให้ความสำคัญต่อสมาร์ทโฟนในส่วนของไฮเอนด์ และระดับกลาง ที่จะมีเข้ามาทำตลาดเพิ่มราว 4-5 รุ่น ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังค่อยเข้ามาในกลุ่มระดับล่างเพื่อให้สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจังหวะเดียวกับที่โอเปอเรเตอร์เริ่มทำการย้ายลูกค้าจาก 2G ให้ไปใช้งาน 3G”
   
       นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดรวมโทรศัพท์ในปีนี้อาจจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนนี้จะมีฟีเจอร์โฟนราว 10% หรือ 2 ล้านเครื่องเท่านั้น ในขณะที่อีก 90% ที่เหลือ หรือ 18 ล้านเครื่องจะเป็นสมาร์ทโฟน ที่จะมาจากปัจจัยกลายไมเกรชันลูกค้าของโอเปอเรเตอร์





______________________________________

“แอลจี” เดินเครื่องกวาดตลาดสมาร์ทโฟนกลาง-บน




       “แอลจี” คาดปีนี้สมาร์ทโฟนอาจถึง 18 ล้านเครื่อง เชื่อไมเกรชันจะเริ่มเดือดในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อโอเปอเรเตอร์มีพื้นที่ให้บริการ 3G ครอบคลุมในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนแอลจียังรักษาเป้าหมายจากบริษัทแม่คือชิงส่วนแบ่งตลาด 10% กลับคืนให้ได้ภายใน 2 ปี
     
       นายอนุพันธ์ ภักดีศุภฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลยุทธ์หลักที่แอลจีจะเน้นในช่วงครึ่งปีแรกคือโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าสมาร์ทโฟนในระดับกลางบนเป็นหลัก หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมาทำได้ค่อนข้างดีในรุ่นไฮเอนด์ ที่ช่วยให้แอลจีสามารถกลับมายืนในตลาดสมาร์ทโฟนได้
     
       “ในช่วงครึ่งปีแรกแอลจีจะให้ความสำคัญต่อสมาร์ทโฟนในส่วนของไฮเอนด์ และระดับกลาง ที่จะมีเข้ามาทำตลาดเพิ่มราว 4-5 รุ่น ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังค่อยเข้ามาในกลุ่มระดับล่างเพื่อให้สามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจังหวะเดียวกับที่โอเปอเรเตอร์เริ่มทำการย้ายลูกค้าจาก 2G ให้ไปใช้งาน 3G”
     
       นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดรวมโทรศัพท์ในปีนี้อาจจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง ซึ่งเชื่อว่าในจำนวนนี้จะมีฟีเจอร์โฟนราว 10% หรือ 2 ล้านเครื่องเท่านั้น ในขณะที่อีก 90% ที่เหลือ หรือ 18 ล้านเครื่องจะเป็นสมาร์ทโฟน ที่จะมาจากปัจจัยกลายไมเกรชันลูกค้าของโอเปอเรเตอร์
     
       ขณะเดียวกันยังยอมรับว่า ที่ผ่านมาแอลจีมักตั้งราคาสินค้าสูงกว่าความเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น LG G2 ที่เปิดราคามาอยู่ที่ 19,900 บาท ก็สามารถทำยอดขายไปได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อปรับลดราคาลงมาเหลือ 17,900 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทางแอลจี ประเทศไทยมองว่าเป็นราคาที่ใช่ กำลังซื้อก็กลับเพิ่มมากขึ้น
     
       “แอลจีแทบไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง เพราะอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือยังเติบโตได้เรื่อยๆ แถมยังมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ก็หันมาใช้งานโทรศัพท์กัน และยังสอดรับกับการเติบโตของการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เติบโตขึ้นด้วย”
     
       อย่างไรก็ตาม แอลจีเตรียมเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสสมาร์ทโฟนจอโค้ง LG G Flex พร้อมเปิดให้จองภายในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2014 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 24,990 บาท
     
       ส่วนความคืบหน้าในการนำ LG Nexus 5 สีอื่นๆ ที่ทางกูเกิลเพิ่งเปิดตัวไปอย่างแดงอมส้ม หรือที่จะมีมาในอนาคตก็คิดว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายแน่นอน พร้อมๆ กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่นำนวัตกรรมใน G2 ที่อาจจะเป็น G2 Mini หรือ G Pro 2 มาตามหลัง G Pro Lite ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000014659

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.