Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

23 กุมภาพันธ์ 2557 (ยังไม่กระทบ!!) กสทช.รายงานยอดย้ายค่าย ศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2557 เพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมาย (ส้มหล่นไป DTAC 70% TRUE 30%) Reuters รายงาน AIS ส่ง SMS สกัดการย้ายค่ายทัดที


ประเด็นหลัก



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ที่ศูนย์บริการลูกค้าดีแทค สยามพารากอน ประชาชนได้แห่มาสมัครเครือข่ายดีแทคหลังจากชำระบิลสุดท้ายของเครือข่ายเดิมกันอย่างคึกคัก ขณะที่ศูนย์เทเลวิซติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ลูกค้าหลายรายก็เดินทางมาชำระบิลงวดสุดท้ายก่อนย้ายไปค่ายอื่น


วันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2557 พบว่า มีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน โดยเป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30% ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป


       ส่งผลให้ทางค่ายต้องส่งข้อความ SMS ไปยังลูกค้าทันที เพื่อแจ้งว่าทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตรแล้ว “AIS ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และไม่ได้เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับฝ่ายไหน นอกจากนี้ ดร.ทักษิณ และครอบครัวได้ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2006 และตั้งแต่นั้นมาทางตระกูลชินวัตร และ AIS ไม่มีความข้องเกี่ยวกัน” AIS แถลงผ่าน SMS






______________________________________








ดีแทคส้มหล่น ประชาชนแห่ย้ายค่าย



altผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ที่ศูนย์บริการลูกค้าดีแทค สยามพารากอน ประชาชนได้แห่มาสมัครเครือข่ายดีแทคหลังจากชำระบิลสุดท้ายของเครือข่ายเดิมกันอย่างคึกคัก ขณะที่ศูนย์เทเลวิซติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ลูกค้าหลายรายก็เดินทางมาชำระบิลงวดสุดท้ายก่อนย้ายไปค่ายอื่น

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=219953:2014-02-22-09-50-03&catid=143:2011-01-26-05-35-57&Itemid=597#.UwnOKPSSwcs

_______________________


กสทช.ติดตามการย้ายค่ายมือถือ



กสทช.ติดตามการย้ายค่ายมือถือ หลังกปปส.รณรงค์คืนซิมโทรศัพท์ค่ายเอไอเอส



นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนยกเลิกการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)นั้น กสทช.ได้ติดตามสถานการณ์การย้ายค่ายระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง

แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการย้ายค่ายมากน้อยเพียงใด เนื่องจากติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งผู้ให้บริการจะดำเนินการย้ายค่ายเฉพาะวันทำการจันทร์-ศุกร์เท่านั้น

ทั้งนี้ การย้ายค่ายแต่ใช้เบอร์เดิมนั้น ผู้ให้บริการจะสามารถดำเนินการได้ไม่เกิน 60,000 หมายเลข/วัน ซึ่งลูกค้าจะเสียค่าบริการ 29 บาท แต่หากย้ายค่ายแล้วเปิดใช้เบอร์ใหม่จะไม่มีข้อจำกัดปริมาณหมายเลขสำหรับการบริการต่อวัน

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20140222/564920/%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%8A.%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD.html

__________________________


1  +1  +2  facebook-icon  twitter-icon  showgallery


22 ก.พ.57 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ด้วยมีการสอบถามเป็นจำนวนมากทั้งจากสื่อมวลชน และประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเชิญชวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายเอไอเอสให้โอนย้ายเครือข่ายนั้น สำนักงาน กสทช. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม จากข้อมูลพบว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา อัตราการโอนย้ายเครือข่ายของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีปริมาณปกติอยู่ที่ 700 เลขหมายต่อวัน แต่พอถึงวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. 2557 พบว่า มีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน โดยเป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30% ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป

http://www.naewna.com/business/91841

_________________________


กสทช.สรุปย้ายค่ายจาก AIS 2วัน ไปใช้ดีแทค70% ทรู30%

       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า ด้วยมีการสอบถามเป็นจำนวนมากทั้งจากสื่อมวลชน และประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเชิญชวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายเอไอเอสให้โอนย้ายเครือข่ายนั้น สำนักงาน กสทช. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด เพื่อมิให่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม จากข้อมูลพบว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา อัตราการโอนย้ายเครือข่ายของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีปริมาณปกติอยู่ที่ 700 เลขหมายต่อวัน แต่พอถึงวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่ามีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน โดยเป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30%
        ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและจะรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000021033&Keyword=%a1%ca%b7

____________________________


พิษการเมืองถล่มเอไอเอส แห่ย้ายค่ายเท่าตัว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


มรสุมการเมืองถล่มค่ายมือถือยักษ์ใหญ่เอไอเอส คนแห่โอนย้ายเพิ่มเท่าตัว เฉลี่ยวันละ 1,400 เลขหมาย ดีแทครับส้มหล่น 70% ทรู 30%



นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กล่าวว่า จากข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา อัตราการโอนย้ายเครือข่ายของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีปริมาณปกติ อยู่ที่ 700 เลขหมายต่อวัน แต่พอถึงวันศุกร์ที่ 21 ก.พ. พบว่ามีการโอนย้ายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1,400 เลขหมายต่อวัน

ทั้งนี้ เป็นการโอนย้ายเลขหมายไปอยู่เครือข่ายดีแทค 70% ทรู 30% จากนั้นสำนักงาน กสทช.จะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อระวังไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม

ผลกระทบที่เกิดขึ้นมาจากมาตรการกดดันธุรกิจในเครือชินวัตร ของกปปส. ผ่านการเชิญชวนให้มวลชนย้ายค่ายมือถือจากเอเอเอสเป็นค่ายอื่นนั้นแทน

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20140223/564939/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7.html


___________________________________



รอยเตอร์รายงาน ผู้ประท้วงแห่คืน “ซิมโทรศัพท์ ค่าย AIS” แบนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชิน


รอยเตอร์รายงาน ผู้ประท้วงแห่คืน “ซิมโทรศัพท์ ค่าย AIS” แบนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชิน

       รอยเตอร์/ASTVManager - เมื่อวานนี้ (22) มีผู้ประท้วงหลายรายได้ทำตามข้อเรียกร้องของสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำการประท้วงกลุ่ม กปปส.ที่ต้องการให้คว่ำบาตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร โดยการคืนซิมโทรศัพท์มือถือค่าย AIS
     
       ผู้ประท้วงกลุ่ม กปปส.ได้ปิดถนนสายหลักทำการประท้วง พร้อมตั้งเวที เต็นท์ และสิ่งกีดขวางป้องกันการถูกสลายม็อบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และหยุดอิทธิพลของทักษิณ ชินวัตร พี่ชายเศรษฐีพันล้านของยิ่งลักษณ์ ที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ถูกทำรัฐประหาร ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่าทักษิณเป็นผู้มีอำนาจสั่งการตัวจริงในรัฐบาลของน้องสาว
     
       ในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ การประท้วง กปปส.พุ่งเป้าไปที่ธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับตระกูลชินวัตร ส่งผลให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ร่วงหนัก และในวันเสาร์ (22) มีผู้ประท้วงหลายคนได้ตอบรับการเรียกร้องจากผู้นำการประท้วง สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องการให้ยกเลิกสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร โดยการคืนซิมโทรศัพท์มือถือของค่าย AIS ให้กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งค่ายมือถือแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดความมั่งคั่งของครอบครัวชินวัตร
     
       ส่งผลให้ทางค่ายต้องส่งข้อความ SMS ไปยังลูกค้าทันที เพื่อแจ้งว่าทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตรแล้ว “AIS ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง และไม่ได้เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับฝ่ายไหน นอกจากนี้ ดร.ทักษิณ และครอบครัวได้ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2006 และตั้งแต่นั้นมาทางตระกูลชินวัตร และ AIS ไม่มีความข้องเกี่ยวกัน” AIS แถลงผ่าน SMS
     
       อุ่นจิตร วงสัมพันธ์ วัย 65 ปี ยืนต่อแถวที่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อส่งคืนซิมโทรศัพท์มือถือของเธอเอง “ดิฉันคิดว่าสัญญาณโทรศัพท์แย่ และดิฉันต้องการที่จะเปลี่ยนค่ายเพราะบริษัท AIS ร่ำรวยมากเกินไป” อุ่นจิตร ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ และเมื่อทางรอยเตอร์ได้แสดงข้อความ SMS จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ให้ดู อุ่นจิตร กล่าวว่า “ดิฉันไม่เชื่อถือพวกเขาอีกต่อไป ดิฉันได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกใช้บริการโทรศัพท์ของค่ายนี้แล้ว”
     
       เหล่าผู้สนับสนุนยิ่งลักษณ์ต่างประณามยุทธศาสตร์การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของกลุ่มม็อบ กปปส.ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากที่การประท้วงที่เริ่มต้นตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2013 ได้ส่งผลต่ออัตราการเติบทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯลดลงเป็นอย่างมาก
     
       “และสิ่งที่เราไม่ชอบในขณะนี้คือ การที่ผู้ประท้วงม็อบ กปปส.มีเป้าหมายเพื่อที่จะคุกคามบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ นี่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลแต่อย่างใด” ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ และเสริมต่อว่า “การเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้เปลี่ยนมาทำลายธุรกิจแทนที่จะเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์”

รอยเตอร์รายงาน ผู้ประท้วงแห่คืน “ซิมโทรศัพท์ ค่าย AIS” แบนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชิน

       ซึ่งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เป็นผู้สนับสนุนหลักของทักษิณที่มีฐานใหญ่อยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนั้น จะมีการประชุมตัวแทนจากทั่วประเทศในวันนี้ (23) ที่ จ.นครราชสีมา
     
       เป็นเพราะโครงการประชานิยมเพื่อชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ได้ส่งให้ยิ่งลักษณ์สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ในปี 2011 แต่ทว่าโครงการประชานิยมเหล่านี้ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้มีข้าวจำนวนมากกองอยู่ในยุ้งฉางที่มีข่าวฉาวทุจริต ทำให้ต่างชาติยกเลิกดีลการซื้อ และสภาพข้าวที่คุณภาพต่ำที่มีหลักฐานเป็นภาพกองข้าวในสต๊อกของรัฐที่ขึ้นราถูกเผยแพร่ไปทั่ว และโครงการนี้ที่ขาดทุนมาตลอด ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องดิ้นรนหาแหล่งเงินเพื่อนำมาจ่ายคืนให้กับชาวนาที่ร่วมโครงการอยู่ในขณะนี้
     
       ในสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ประท้วงราว 500 คน ได้รวมตัวอยู่หน้าสำนักงานบริษัท SC Assetของตระกูลชินวัตร พร้อมกับโบกธงชาติและเป่านกหวีด โดยก่อนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ยิ่งลักษณ์เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารบริษัท SC Asset มาก่อน
     
       และเพราะเหตุต่างๆ ส่งผลให้หุ้นของ SC Asset ร่วงไป 10% ตั้งแต่วันพุธ (19) ที่ผ่านมา และรวมไปถึงหุ้นของบริษัทผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ M-Link Asia Corp ที่เชื่อมโยงกับครอบครัวตระกูลชินวัตรร่วงไป 12%
     
       นอกจากนี้ ธิดา ยังเปิดเผยว่า การเดินขบวนที่จะมีขึ้นในวันนี้ (23) อยู่ในแผนการที่จะทำให้ประชาธิปไตยของประเทศกลับคืนมา หลังจากที่ฝ่ายค้านบอยคอตและขัดขวางการเลือกตั้ง ทำให้ประเทศต้องเป็นอัมพาตภายใต้รัฐบาลรักษาการ แต่ธิดาปัดว่าไม่มีแผนใดที่จะทำให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น
     
       “หากทาง นปช.ต้องการที่จะปะทะ เราคงจะลงมือทำไปนานแล้ว และเราคงไม่ต้องรอมาจนถึงทุกวันนี้” ธิดา กล่าวยืนยัน
     
       ในวันอังคารที่ผ่านมา (18) มีตำรวจปราบจลาจล 1 นาย และผู้ประท้วง 4 ราย เสียชีวิตหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเข้าสลายการชุมนุมใกล้กับทำเนียบรัฐบาล และมีผู้เสียชีวิตอีก 6 รายด้วยระเบิดมือในวันศุกร์ (21) และล่าสุดในคืนวันเสาร์ (22) ผู้ชุมนุม กปปส.ที่ จ.ตราด เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 39 ราย ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กวัยเพียง 5 ปี หลังจากที่ถูกกราดยิงและโยนระเบิดจากลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่ายที่อยู่บนรถกระบะ 2 คัน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000021146

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.