25 กุมภาพันธ์ 2557 SONY เปิดตัว “สมาร์ทแบนด์ (SmartBand SWR10)” ลงตลาดโลก 60 ประเทศพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนปีนี้
ประเด็นหลัก
หลังจากเปิดตัวในงาน CES ไปแล้วเมื่อช่วงมกราคมที่ผ่านมา “โซนี่” เตรียมนำอุปกรณ์วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายรูปแบบคล้ายสายรัดข้อมือในชื่อ “สมาร์ทแบนด์ (SmartBand SWR10)” ลงตลาดโลก 60 ประเทศพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนปีนี้
สำหรับ “สมาร์ทแบนด์” ถือเป็นอุปกรณ์ในการตรวจจับและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายผู้ใช้ผ่านเซ็นเซอร์ที่เรียกว่า Sony Core ที่มีลักษณะเหมือนแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กฝังอยู่ในสายรัดข้อมือ Wristband สามารถถอดออกได้เพื่อชาร์จไฟผ่าน MicroUSB
ในส่วนการทำงาน Sony Core จะทำหน้าที่ในการตรวจจับและวิเคราะห์ประมวลผลการเคลื่อนไหวของเรา จากนั้นระบบจะส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth 4.0 Low Energy หรือ NFC ไปยังสมาร์ทโฟน ซึ่งสมาร์ทโฟนของผู้ใช้จำเป็นต้องมีแอปพลิเคชัน Lifelog ที่ทางโซนี่จะเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงเดือนมีนาคมนี้เช่นกัน
______________________________________
โซนี่สมาร์ทแบนด์ เตรียมลุยตลาดคนรักสุขภาพไทยช่วงเมษายนนี้
หลังจากเปิดตัวในงาน CES ไปแล้วเมื่อช่วงมกราคมที่ผ่านมา “โซนี่” เตรียมนำอุปกรณ์วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายรูปแบบคล้ายสายรัดข้อมือในชื่อ “สมาร์ทแบนด์ (SmartBand SWR10)” ลงตลาดโลก 60 ประเทศพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนปีนี้
สำหรับ “สมาร์ทแบนด์” ถือเป็นอุปกรณ์ในการตรวจจับและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายผู้ใช้ผ่านเซ็นเซอร์ที่เรียกว่า Sony Core ที่มีลักษณะเหมือนแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กฝังอยู่ในสายรัดข้อมือ Wristband สามารถถอดออกได้เพื่อชาร์จไฟผ่าน MicroUSB
ในส่วนการทำงาน Sony Core จะทำหน้าที่ในการตรวจจับและวิเคราะห์ประมวลผลการเคลื่อนไหวของเรา จากนั้นระบบจะส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth 4.0 Low Energy หรือ NFC ไปยังสมาร์ทโฟน ซึ่งสมาร์ทโฟนของผู้ใช้จำเป็นต้องมีแอปพลิเคชัน Lifelog ที่ทางโซนี่จะเปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงเดือนมีนาคมนี้เช่นกัน
นอกจากนั้น สมาร์ทแบนด์ยังสามารถใช้สั่งเล่นเพลงและเป็นนาฬิกาปลุกได้ในตัว โดยผู้ใช้สามารถสวมใส่สมาร์ทแบนด์ได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำหรือฝุ่นเพราะตัวสมาร์ทแบนด์ถูกออกแบบมาให้ป้องกันสิ่งเหล่านี้บนมาตรฐาน IP58 อยู่แล้ว
ส่วนการทำงานของแอปฯ Lifelog ที่จำเป็นต้องติดตั้งควบคู่กับการใช้งานสมาร์ทแบนด์ เพราะแอปฯ นี้จะนำข้อมูลจากสมาร์ทแบนด์มาแยกข้อมูลตามประเภทของกิจกรรมที่ทำเช่น นอนหลับไปกี่ชั่วโมง เดินไปกี่ก้าว เผาผลาญพลังงานไปเท่าใดไปถึงความสามารถในการบอกว่าวันหนึ่งเราเดินทางโดยรถยนต์ จักรยานหรือขนส่งสาธารณะ ฟังเพลง ชมคลิปวิดีโอ เล่นโซเชียลไปนานกี่ชั่วโมงและยังสามารถบันทึกช่วงเวลาที่ประทับใจผ่านระบบ Life Bookmark key อีกด้วย
สำหรับราคาทางโซนี่ยังไม่เปิดเผย แต่สมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับกับสมาร์ทแบนด์ได้นั้นจะต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4 ขึ้นไปและต้องรองรับ Bluetooth 4 Low Energy
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000021993
ไม่มีความคิดเห็น: