10 พฤษภาคม 2557 AIS คาดการสงครามราคา 3G ในอีก 3-4 ปีข้างหน้าการแข่งขันคงใกล้เคียงกับยุค 2G ที่ทุกค่ายโหมลดราคา และเปิดรูปแบบแพ็กเกจใหม่ ๆ เป็นจำนวนมาก

ประเด็นหลัก


"3-4 ปีข้างหน้าการแข่งขันคงใกล้เคียงกับยุค 2G ที่ทุกค่ายโหมลดราคา และเปิดรูปแบบแพ็กเกจใหม่ ๆ เป็นจำนวนมาก คราวนี้ก็คงเป็นการลดราคาดาต้าซึ่งไม่ดีต่อผู้ให้บริการทุกราย รวมถึงคุณภาพการใช้งานของผู้บริโภคด้วย ดังนั้น บริษัทต้องการให้ทุกค่ายหันมาพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่า ซึ่งเราเองมีทีมที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือฝ่ายบริการดิจิทัลที่ผมเป็นผู้ดูแลเพื่อเตรียมรับมือช่วงเรดโอเชี่ยนมาถึงเมื่อไรเราก็พร้อม"

______________________________________

"เอไอเอส" จัดหนักเพิ่มดีกรีบุกตลาด โหมแคมเปญดึงลูกค้าลุยฟื้นเชื่อมั่นแบรนด์เบอร์ 1


ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

"เอไอเอส" ประกาศชักธงรบเต็มสูบ เตรียมจัดหนักแคมเปญการตลาดทวงบัลลังก์เบอร์หนึ่งในใจผู้บริโภค หลังปูพรมโครงข่ายระบบ 3G ทั่วประเทศแล้ว พร้อมเดินหน้าระเบิดศึกชิงคลื่น 1800 MHz เพิ่มศักยภาพระบบให้บริการ 4G เสริม ระบุตลาดแค่ช่วงเริ่มเรดโอเชี่ยน รอ 3-4 ปีแข่งราคาหนัก หวั่นมีแต่ผลเสีย ย้ำเพิ่มโซลูชั่นให้ลูกค้าเวิร์กกว่า

นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เอไอเอสจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดมากขึ้น หลังจากปล่อยให้คู่แข่งนำตลาดไปก่อน เพราะได้ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายระบบโทรศัพท์มือถือ 3G ครอบคลุมทั่วประเทศเรียบร้อยแล้วจำนวนกว่า 20,000 สถานีฐาน ขณะที่ราคาของสมาร์ทโฟนก็ขยับลงมาโดยลำดับ จนผู้บริโภคส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งบริษัทจะแบ่งลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มลูกค้าทั่วไป และลูกค้าองค์กร ทั้ง 2 กลุ่มจะมีวิธีการทำตลาดแตกต่างกันไป แต่ดีกรีการรุกตลาดจะเพิ่มขึ้น

"เราจะเร่งเครื่องเต็มที่หลังปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าไปก่อน เพราะเขามีคลื่นเก่ามาให้บริการ 3G ได้ ต่างจากเราที่ความจุคลื่นจำกัดมาก ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ทำให้ช่วงนั้นต้องยอมรับว่าบริการอาจไม่ดีเท่าเดิม แต่ตอนนี้เราพร้อมแล้ว ประกอบกับปัจจัยภายนอกก็พร้อมเช่นกัน ทั้งราคาเครื่อง 3G และความต้องการใช้งานดาต้าของผู้บริโภคที่เติบโตเป็นเท่าตัว"

ปัจจุบันแม้ว่าบริษัทจะยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในแง่จำนวนผู้ใช้บริการ จากฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 40 ล้านเลขหมายแต่ในความคิดของลูกค้าต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งเหมือนในอดีต ซึ่งทีมงานการตลาดได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจว่าเครือข่ายการให้บริการของบริษัทมีความพร้อม และปรับความคิดลูกค้าให้กลับมามั่นใจได้อีกครั้งว่าเอไอเอสเป็นผู้นำในเรื่องโครงข่ายเหมือนยุค 2G อีกครั้ง

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะพยายามทำให้ได้เร็วที่สุดภายในปีนี้ เพราะในช่วงปลายปีนี้ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมจัดประมูลคลื่น 1800 MHz และบริษัทพร้อมเข้าประมูลเช่นกัน หากได้คลื่นดังกล่าวมาก็จะนำมาให้บริการระบบ 4G และทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายเดิมในการให้บริการได้ โดย 4G จะเป็นตัวเสริมบริการ 3G ได้เป็นอย่างดี เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และเพิ่มความแตกต่างให้บริษัท เพราะคู่แข่งใช้คลื่นความถี่เดิมมาให้บริการ 4G และอาจใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ส่วนการทำตลาดนั้น ในฝั่งผู้บริโภคบริษัทจะเดินหน้าจัดแคมเปญการตลาดหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้งานระบบ 3G เป็นหลัก โดยจะเริ่มขยับเข้าไปในพื้นที่ในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่มากขึ้น เพราะในบริเวณนั้นยังมีผู้ใช้งานที่ยังไม่เปลี่ยนมาเป็นระบบ 3G อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มโปรโมชั่นต่าง ๆ เช่น ให้ใช้บริการเฟซบุ๊กหรือไลน์ฟรี เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาทดลองใช้งาน ซึ่งหลังจากปล่อยโปรโมชั่นดังกล่าวออกไป ได้รับผลตอบรับที่ดี

สำหรับการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรจะเพิ่มความเข้มข้นเช่นกัน นอกจากให้ความมั่นใจเรื่องโครงข่ายแล้ว บริษัทจะมีการนำเสนอโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของแต่ละองค์กร เช่น การบริหารจัดการบริการโทรศัพท์มือถือ ทั้งขององค์กรและเครื่องที่พนักงานนำมาใช้งานเอง เป็นต้น

นายปรัธนากล่าวต่อว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือปัจจุบันโอเปอเรเตอร์เริ่มลดราคาแพ็กเกจดาต้าเพื่อจูงใจลูกค้าให้เปลี่ยนมาใช้งาน 3G มากขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับเป็นการแข่งขันที่รุนแรงมากนัก แม้จะมีคู่แข่งบางรายใช้แพ็กเกจค่าบริการราคาพิเศษผูกกับราคาเครื่องที่ถูกกว่าปกติออกมาจูงใจ เนื่องจากจำนวนการใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตยังมีแค่ 30% ของการใช้งานโทรศัพท์มือถือโดยรวมซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรประเทศไทย ทำให้โอกาสในตลาดยังมีเหลืออีกเยอะ แต่จากนี้ไป 3-4 ปีคนไทยน่าจะใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตเกือบครบ จะทำให้การแข่งขันรุนแรงกว่านี้อย่างแน่นอน

"3-4 ปีข้างหน้าการแข่งขันคงใกล้เคียงกับยุค 2G ที่ทุกค่ายโหมลดราคา และเปิดรูปแบบแพ็กเกจใหม่ ๆ เป็นจำนวนมาก คราวนี้ก็คงเป็นการลดราคาดาต้าซึ่งไม่ดีต่อผู้ให้บริการทุกราย รวมถึงคุณภาพการใช้งานของผู้บริโภคด้วย ดังนั้น บริษัทต้องการให้ทุกค่ายหันมาพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่า ซึ่งเราเองมีทีมที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือฝ่ายบริการดิจิทัลที่ผมเป็นผู้ดูแลเพื่อเตรียมรับมือช่วงเรดโอเชี่ยนมาถึงเมื่อไรเราก็พร้อม"


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1399621294