24 มิถุนายน 2557 ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ รุ่น "G3" คาดหวังยอดขายมากกว่ารุ่น G2 ถึง 3 เท่า 3 น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือเป็น 15%
ประเด็นหลัก
ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ รุ่น "G3" คาดหวังยอดขายมากกว่ารุ่น G2 ถึง 3 เท่า โดยใช้งบประมาณการตลาดมากขึ้น 2-3 เท่า และเครื่องรุ่นนี้มีหลายฟังก์ชั่นเด่น เช่น มีกล้องเลเซอร์ออโตโฟกัสรุ่นแรก จึงจับภาพได้แม้ในที่มีแสงน้อย ด้วยการวัดระยะห่างระหว่างกล้องและคนหรือวัตถุด้วยแสงเลเซอร์, หน้าจอ Quad HD เป็นต้น และตั้งเป้ายอดขายไม่น้อยกว่า 150,000 เครื่อง หลังจากในประเทศเกาหลีขายได้ 150,000 เครื่อง ภายใน 10 วัน ส่วนรุ่น G2 ยังทำตลาดอยู่เช่นกัน และเปิดให้อัพเดตฟีเจอร์ Knock Code ตั้งค่าปลดล็อกด้วยการเคาะที่หน้าจอที่มีในรุ่น G3 ด้วย
"การ เปิดตัว G3 น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือเป็น 15% จากปัจจุบันมีสัดส่วนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ 40% เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 30% เครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงาน 20% และโทรศัพท์มือถือ 10% คาดหวังว่าภายใน 3 ปีโทรศัพท์มือถือแอลจีจะมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 10% ในกลุ่มสมาร์ทโฟน ราคา 15,000-20,000 บาท"
______________________________________
แอลจีเร่งทำตลาดครึ่งปีหลัง ปั๊มยอดขายรับมู้ดจับจ่ายฟื้น
"แอลจี" เดินหน้าโหมตลาดครึ่งปีหลังเต็มสูบหลังเชื่อมั่นฟื้นปลุกมู้ดจับจ่าย ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง "G3" นำร่องปั๊มยอดขายสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ขยับสัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือเป็น 15% มั่นใจอานิสงส์ทีวีดิจิทัลดันยอดขายรวมโต 10%
นายเจค ควอน ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทจะพยายามเจาะตลาดในกลุ่มโทรศัพท์มือถือที่มีระดับราคา 15,000-20,000 บาทมากขึ้นนับตั้งแต่การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น Optimus G และ G2 ทำให้ในไตรมาส 1 ปีนี้มีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้เป็นอันดับ 3 ที่ 8% เนื่องจากไม่สามารถโฟกัสไปยังโทรศัพท์มือถือทุกกลุ่มราคาได้
โดยจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มสินค้าดังกล่าวต่อเนื่อง ตั้งเป้าทำให้ส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากเดิมสัดส่วนยอดขายมาจากไฮเอนด์และระดับกลาง 50% เท่ากัน แต่ในสิ้นปีจะเปลี่ยนเป็น 60% และ 40% ตามลำดับ
ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ รุ่น "G3" คาดหวังยอดขายมากกว่ารุ่น G2 ถึง 3 เท่า โดยใช้งบประมาณการตลาดมากขึ้น 2-3 เท่า และเครื่องรุ่นนี้มีหลายฟังก์ชั่นเด่น เช่น มีกล้องเลเซอร์ออโตโฟกัสรุ่นแรก จึงจับภาพได้แม้ในที่มีแสงน้อย ด้วยการวัดระยะห่างระหว่างกล้องและคนหรือวัตถุด้วยแสงเลเซอร์, หน้าจอ Quad HD เป็นต้น และตั้งเป้ายอดขายไม่น้อยกว่า 150,000 เครื่อง หลังจากในประเทศเกาหลีขายได้ 150,000 เครื่อง ภายใน 10 วัน ส่วนรุ่น G2 ยังทำตลาดอยู่เช่นกัน และเปิดให้อัพเดตฟีเจอร์ Knock Code ตั้งค่าปลดล็อกด้วยการเคาะที่หน้าจอที่มีในรุ่น G3 ด้วย
"การเปิดตัว G3 น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากโทรศัพท์มือถือเป็น 15% จากปัจจุบันมีสัดส่วนจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ 40% เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 30% เครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงาน 20% และโทรศัพท์มือถือ 10% คาดหวังว่าภายใน 3 ปีโทรศัพท์มือถือแอลจีจะมีมาร์เก็ตแชร์กว่า 10% ในกลุ่มสมาร์ทโฟน ราคา 15,000-20,000 บาท"
ด้านนายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการบริษัทเดียวกันกล่าวว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของแอลจีกระเตื้องขึ้นหลังรัฐประหาร จากอารมณ์ในการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ดีขึ้น มีความเชื่อมั่นในการใช้เงินมากขึ้น แม้ยอดขายโทรทัศน์จะติดลบเล็กน้อย แต่จากนี้จะดีขึ้น เช่นกันกับตลาดสมาร์ทโฟนที่ยังมีความต้องการจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภาพรวมจะเติบโตเกิน 10% โดยบริษัทจะโฟกัสการทำการตลาดในครึ่งปีหลังมากขึ้น มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาอีกรวม 15 รุ่น ทั้งแก็ดเจตเพื่อสุขภาพ, แท็บเลต 1-2 รุ่น, โทรทัศน์ 42 รุ่น หลังออกไปแล้ว 25 รุ่นในครึ่งปีแรก คาดว่าอานิสงส์จากทีวีดิจิทัลทำให้ยอดขายโทรทัศน์ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น หลังฟุตบอลโลกช่วยดึงขึ้นมาได้บ้าง
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403517642
ไม่มีความคิดเห็น: