05 กันยายน 2557 ภูมิชาย.MATCHING ใช้งบลงทุนราว 900 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างสตูดิโอใหม่ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร แบ่งเป็น การก่อสร้างสตูดิโอประมาณ 700 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "มูฟวี่ทาวน์ สตูดิโอ"
ประเด็นหลัก
ด้านนายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทใช้งบลงทุนราว 900 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างสตูดิโอใหม่ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร แบ่งเป็น การก่อสร้างสตูดิโอประมาณ 700 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "มูฟวี่ทาวน์ สตูดิโอ" บนพื้นที่ 2 พันไร่ จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังรวมไปถึงการเกิดทีวีดิจิตอลที่จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทต่อปี
ส่วนเงินลงทุนอีกจำนวน 200 ล้านบาทนั้น จะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมองว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีบริษัทต่างๆที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำไม่ต่ำกว่า 700 เรื่อง ส่งผลให้รายได้ในกลุ่มนี้เติบโตกว่า 20-30%
นอกจากนี้บริษัทยังได้ตรียมเงินลงทุนอีกประมาณกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเพิ่มบุคลากรในส่วนของการผลิตรายการ อีกทั้งในอนาคตบริษัทมีแผนร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ที่ประเทศเมียนมาร์ ในการให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจากปัจจัยด้านต่างๆที่จะลงทุนนั้นจะส่งผลให้แม็ทชิ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์และละคร ไม่ใช่แค่เพียงคอนเทนต์โพรไวเดอร์เท่านั้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% และรายการทีวี หนังสือ และอีเวนต์ 40% ซึ่งสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 20-30% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 700 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปี 2559 โดยโครงสร้างธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% รายการทีวี 20% ธุรกิจเช่าสตูดิโอ 5% และอื่นๆ เช่น หนังสือ อีเวนต์ 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
______________________________
แห่ลงทุนรับ'ทีวีดิจิตอล' บูม
ธุรกิจคอนเทนต์ โพรไวเดอร์คึกคัก "เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์" วางงบ 150 ล้านบาทสร้าง 3 สตูดิโอแห่งใหม่ย่านเหม่งจ๋าย รองรับรายการในช่องทีวีดิจิตอล ด้านแม็ทชิ่งทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาทยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานการถ่ายทำภาพยนตร์ใหม่หมด หวังปูทางรับงานเช่าวัสดุถ่ายทำภาพยนตร์ มั่นใจปีนี้โต 20-30% พร้อมโกยรายได้กว่า 1 พันล้านบาทในปี 2559
วราวุธ เจนธนากุลวราวุธ เจนธนากุลนายวราวุธ เจนธนากุล ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ผู้ผลิตรายการวาไรตี อาทิ ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์, เกมเนรมิต ฯลฯ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัททุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท ลงทุนก่อสร้างสตูดิโอ 3 แห่งบนพื้นที่ 9 ไร่เศษ ย่านเหม่งจ๋าย เพื่อรองรับการขยายงานการผลิตที่เพิ่ม จากที่เคยผลิตรายการอยู่ประมาณ 3-4 รายการ แต่ปัจจุบันได้เพิ่มอัตราการผลิตเป็น 8-10 รายการ เนื่องจากมีช่องทีวีดิจิตอลรายใหม่เพิ่มเข้ามา เช่น ไทยรัฐทีวี และช่อง 3 SD (ความคมชัดปกติ) เป็นต้น
"การก่อสร้างสตูดิโอครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสหนึ่งปีหน้า ซึ่งนอกจากสตูดิโอแล้ว บริษัทยังมีแผนตั้งออฟฟิศใกล้เคียงในบริเวณเดียวกัน ซึ่งการขยายงานครั้งนี้เพื่อรองรับการผลิตงานคอนเทนต์ที่มากขึ้น" ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ฯ กล่าวและว่า
ทั้งนี้บริษัทมองว่าการเข้ามาของทีวีดิจิตอลส่งผลให้ธุรกิจโปรดักชันเฮาส์ หรือผู้ผลิตรายการเติบโตขึ้นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาได้มีองค์กรรายเล็กเปิดตัวเพิ่มขึ้น และมีบางรายที่ปิดตัวลง ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าการที่ธุรกิจนี้จะเติบโตได้และอยู่ได้ยาวนาน นอกจากเรื่องเงินทุนแล้วในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์การทำงานก็เป็นเรื่องจำเป็น
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดคอนเทนต์ในประเทศไทยที่น่าจับตาขณะนี้คือผู้ประกอบการจะหันมาผลิตโลคัลคอนเทนต์มากขึ้น เนื่องจากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ดังทั่วโลกคนไทยได้ไปกว้านซื้อมาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การผลิตโลคัลคอนเทนต์ สิ่งที่ผู้ผลิตต้องให้ความสนใจคือการทำรายการให้เป็นรูปแบบสากลเพื่อต่อยอดขายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศในอนาคตได้
นอกจากนี้ในยุคทีวีดิจิตอลเพิ่งเริ่มต้นผู้ผลิตรายการส่วนใหญ่จะเน้นการผลิตโลคัลคอนเทนต์ก่อน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ และไม่เสี่ยงต่อเรื่องรายได้โฆษณามากนัก ขณะที่คอนเทนต์ฟอร์แมตต่างประเทศปัจจุบันมีราคาสูงเพิ่มขึ้นทุกปี
นายวราวุธยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนในด้านคอนเทนต์ราว 20 ล้านบาท จากเดิมในปีก่อนที่ใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งคอนเทนต์ส่วนใหญ่ของบริษัทจะเน้นการผลิตเอง มากกว่าการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 200 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีรายได้ 250 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ด้านนายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทใช้งบลงทุนราว 900 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างสตูดิโอใหม่ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร แบ่งเป็น การก่อสร้างสตูดิโอประมาณ 700 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "มูฟวี่ทาวน์ สตูดิโอ" บนพื้นที่ 2 พันไร่ จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังรวมไปถึงการเกิดทีวีดิจิตอลที่จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทต่อปี
ส่วนเงินลงทุนอีกจำนวน 200 ล้านบาทนั้น จะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมองว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีบริษัทต่างๆที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำไม่ต่ำกว่า 700 เรื่อง ส่งผลให้รายได้ในกลุ่มนี้เติบโตกว่า 20-30%
นอกจากนี้บริษัทยังได้ตรียมเงินลงทุนอีกประมาณกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเพิ่มบุคลากรในส่วนของการผลิตรายการ อีกทั้งในอนาคตบริษัทมีแผนร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ที่ประเทศเมียนมาร์ ในการให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจากปัจจัยด้านต่างๆที่จะลงทุนนั้นจะส่งผลให้แม็ทชิ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์และละคร ไม่ใช่แค่เพียงคอนเทนต์โพรไวเดอร์เท่านั้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% และรายการทีวี หนังสือ และอีเวนต์ 40% ซึ่งสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 20-30% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 700 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปี 2559 โดยโครงสร้างธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% รายการทีวี 20% ธุรกิจเช่าสตูดิโอ 5% และอื่นๆ เช่น หนังสือ อีเวนต์ 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245003:2014-09-02-08-02-39&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456#.VAlbPktAeuw
ด้านนายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทใช้งบลงทุนราว 900 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างสตูดิโอใหม่ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร แบ่งเป็น การก่อสร้างสตูดิโอประมาณ 700 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "มูฟวี่ทาวน์ สตูดิโอ" บนพื้นที่ 2 พันไร่ จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังรวมไปถึงการเกิดทีวีดิจิตอลที่จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทต่อปี
ส่วนเงินลงทุนอีกจำนวน 200 ล้านบาทนั้น จะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมองว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีบริษัทต่างๆที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำไม่ต่ำกว่า 700 เรื่อง ส่งผลให้รายได้ในกลุ่มนี้เติบโตกว่า 20-30%
นอกจากนี้บริษัทยังได้ตรียมเงินลงทุนอีกประมาณกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเพิ่มบุคลากรในส่วนของการผลิตรายการ อีกทั้งในอนาคตบริษัทมีแผนร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ที่ประเทศเมียนมาร์ ในการให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจากปัจจัยด้านต่างๆที่จะลงทุนนั้นจะส่งผลให้แม็ทชิ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์และละคร ไม่ใช่แค่เพียงคอนเทนต์โพรไวเดอร์เท่านั้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% และรายการทีวี หนังสือ และอีเวนต์ 40% ซึ่งสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 20-30% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 700 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปี 2559 โดยโครงสร้างธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% รายการทีวี 20% ธุรกิจเช่าสตูดิโอ 5% และอื่นๆ เช่น หนังสือ อีเวนต์ 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
______________________________
แห่ลงทุนรับ'ทีวีดิจิตอล' บูม
ธุรกิจคอนเทนต์ โพรไวเดอร์คึกคัก "เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์" วางงบ 150 ล้านบาทสร้าง 3 สตูดิโอแห่งใหม่ย่านเหม่งจ๋าย รองรับรายการในช่องทีวีดิจิตอล ด้านแม็ทชิ่งทุ่มงบกว่า 900 ล้านบาทยกเครื่องโครงสร้างพื้นฐานการถ่ายทำภาพยนตร์ใหม่หมด หวังปูทางรับงานเช่าวัสดุถ่ายทำภาพยนตร์ มั่นใจปีนี้โต 20-30% พร้อมโกยรายได้กว่า 1 พันล้านบาทในปี 2559
วราวุธ เจนธนากุลวราวุธ เจนธนากุลนายวราวุธ เจนธนากุล ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ผู้ผลิตรายการวาไรตี อาทิ ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์, เกมเนรมิต ฯลฯ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัททุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท ลงทุนก่อสร้างสตูดิโอ 3 แห่งบนพื้นที่ 9 ไร่เศษ ย่านเหม่งจ๋าย เพื่อรองรับการขยายงานการผลิตที่เพิ่ม จากที่เคยผลิตรายการอยู่ประมาณ 3-4 รายการ แต่ปัจจุบันได้เพิ่มอัตราการผลิตเป็น 8-10 รายการ เนื่องจากมีช่องทีวีดิจิตอลรายใหม่เพิ่มเข้ามา เช่น ไทยรัฐทีวี และช่อง 3 SD (ความคมชัดปกติ) เป็นต้น
"การก่อสร้างสตูดิโอครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสหนึ่งปีหน้า ซึ่งนอกจากสตูดิโอแล้ว บริษัทยังมีแผนตั้งออฟฟิศใกล้เคียงในบริเวณเดียวกัน ซึ่งการขยายงานครั้งนี้เพื่อรองรับการผลิตงานคอนเทนต์ที่มากขึ้น" ประธานกรรมการ บริษัท เซ้นส์ฯ กล่าวและว่า
ทั้งนี้บริษัทมองว่าการเข้ามาของทีวีดิจิตอลส่งผลให้ธุรกิจโปรดักชันเฮาส์ หรือผู้ผลิตรายการเติบโตขึ้นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาได้มีองค์กรรายเล็กเปิดตัวเพิ่มขึ้น และมีบางรายที่ปิดตัวลง ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าการที่ธุรกิจนี้จะเติบโตได้และอยู่ได้ยาวนาน นอกจากเรื่องเงินทุนแล้วในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์การทำงานก็เป็นเรื่องจำเป็น
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดคอนเทนต์ในประเทศไทยที่น่าจับตาขณะนี้คือผู้ประกอบการจะหันมาผลิตโลคัลคอนเทนต์มากขึ้น เนื่องจากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ดังทั่วโลกคนไทยได้ไปกว้านซื้อมาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การผลิตโลคัลคอนเทนต์ สิ่งที่ผู้ผลิตต้องให้ความสนใจคือการทำรายการให้เป็นรูปแบบสากลเพื่อต่อยอดขายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศในอนาคตได้
นอกจากนี้ในยุคทีวีดิจิตอลเพิ่งเริ่มต้นผู้ผลิตรายการส่วนใหญ่จะเน้นการผลิตโลคัลคอนเทนต์ก่อน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำ และไม่เสี่ยงต่อเรื่องรายได้โฆษณามากนัก ขณะที่คอนเทนต์ฟอร์แมตต่างประเทศปัจจุบันมีราคาสูงเพิ่มขึ้นทุกปี
นายวราวุธยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมใช้งบลงทุนในด้านคอนเทนต์ราว 20 ล้านบาท จากเดิมในปีก่อนที่ใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งคอนเทนต์ส่วนใหญ่ของบริษัทจะเน้นการผลิตเอง มากกว่าการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 200 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีรายได้ 250 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ด้านนายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทใช้งบลงทุนราว 900 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างสตูดิโอใหม่ และระบบโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร แบ่งเป็น การก่อสร้างสตูดิโอประมาณ 700 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "มูฟวี่ทาวน์ สตูดิโอ" บนพื้นที่ 2 พันไร่ จังหวัดสมุทรปราการ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังรวมไปถึงการเกิดทีวีดิจิตอลที่จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาทต่อปี
ส่วนเงินลงทุนอีกจำนวน 200 ล้านบาทนั้น จะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมองว่าช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยมีบริษัทต่างๆที่เข้ามาติดต่อเพื่อขอเช่าอุปกรณ์การถ่ายทำไม่ต่ำกว่า 700 เรื่อง ส่งผลให้รายได้ในกลุ่มนี้เติบโตกว่า 20-30%
นอกจากนี้บริษัทยังได้ตรียมเงินลงทุนอีกประมาณกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเพิ่มบุคลากรในส่วนของการผลิตรายการ อีกทั้งในอนาคตบริษัทมีแผนร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ที่ประเทศเมียนมาร์ ในการให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์เพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจากปัจจัยด้านต่างๆที่จะลงทุนนั้นจะส่งผลให้แม็ทชิ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจถ่ายทำภาพยนตร์และละคร ไม่ใช่แค่เพียงคอนเทนต์โพรไวเดอร์เท่านั้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีรายได้มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% และรายการทีวี หนังสือ และอีเวนต์ 40% ซึ่งสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 20-30% หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 700 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปี 2559 โดยโครงสร้างธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจเช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ 60% รายการทีวี 20% ธุรกิจเช่าสตูดิโอ 5% และอื่นๆ เช่น หนังสือ อีเวนต์ 15%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=245003:2014-09-02-08-02-39&catid=107:2009-02-08-11-34-25&Itemid=456#.VAlbPktAeuw
ไม่มีความคิดเห็น: