Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

05 กันยายน 2557 THAITV.สุภาพ ต้องการให้ กสท.ดำเนินการต่อช่อง 3 ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันกับช่อง 7 ช่อง 9 และThai PBS จะเกิดผลกระทบคูปองที่ กสทช.แจกจะไม่มีคนนำไปแลกกล่องเซ็ต ท็อปบ็อกซ์ เพราะคนดูไม่สามารถดูช่อง 3 ระบบอะนาล็อกผ่านกล่องได้

ประเด็นหลัก


       ด้าน นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้บริหารไทยทีวี กล่าวว่า ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลกว่า 20 ช่อง ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับช่อง 3 โดยตรง แต่ต้องการให้ กสท.ดำเนินการต่อช่อง 3 ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันกับช่อง 7 ช่อง 9 และไทยพีบีเอส เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบ 2 ประการ คือ ประการแรก คูปองที่ กสทช.แจกจะไม่มีคนนำไปแลกกล่องเซ็ต ท็อปบ็อกซ์ หรือทีวีที่รับสัญญาณดิจิตอล เพราะคนดูไม่สามารถดูช่อง 3 ระบบอะนาล็อกผ่านกล่อง หรือทีวีในระบบดังกล่าวได้ อีกประการหนึ่งคือ กระบวนการเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกไปสู่ดิจิตอลก็จะมีปัญหา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ช่อง 3 ออกอากาศแบบคู่ขนาน คือ รายการของช่อง 3 ทั้งระบบอะนาล็อก และดิจิตอลต้องมีเนื้อหาเหมือนกัน
   
       ส่วนประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 27 ที่ช่อง 3 กล่าวอ้างนั้น เป็นการประกาศออกมาคนละเจตนารมณ์กัน การประกาศดังกล่าวออกมาหลังจากที่ คสช.ประกาศงดการเผยแพร่ของสถานีโทรทัศน์เป็นการชั่วคราว
   
       “ตนเองรู้สึกประหลาดใจมากที่ กสท.ต้องส่งหนังสือสอบถาม คสช.ด้วย และ คสช.ก็ออกมาให้ข่าวแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คสช.เป็นหน้าที่การตัดสินใจของ กสทช.มากกว่า ถ้าช่อง 3 จะออกแบบคู่ขนานก็ต้องลดโฆษณาจาก 10 นาทีของระบบอะนาล็อกเป็น 6 นาที ตามกฎของระบบดิจิตอล ส่วนประกาศของ คสช.ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องมัสแคร์รี ของ กสท. ดังนั้น จึงเข้าใจว่าช่อง 3 ต้องการรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองมากกว่า” นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐทีวี) กล่าว


______________________________




กสท.ยังไม่ลงดาบช่อง 3 ยื้อเวลาขอเอาเรื่องเข้าที่ประชุมอีกครั้ง 8 ก.ย.



กสท.ยึกยักไม่เอาจริงช่อง 3 ใจดีให้กลับไปหาแนวทางการแก้ปัญหามาเสนอ กสท.ใหม่ เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุม กสท.อีกครั้งในวันที่ 8 ก.ย. โดยขณะนี้ช่อง 3 ยังสามารถออกอากาศได้ตามปกติบนระบบเคเบิล และดาวเทียม “นที” ยันไม่ต้องถาม คสช.เรื่องประกาศฉบับที่ 27 แล้ว
     
       พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวภายหลังการหารือระหว่างผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล และบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ช่อง 3) ว่า กสท.จะไม่ส่งหนังสือสอบถามไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว แต่จะให้โอกาสช่อง 3 กลับไปหาแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อส่งกลับมายัง กสท.อีกครั้งหนึ่ง โดย กสท.จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 8 ก.ย. นี้ ซึ่งระหว่างนี้ช่อง 3 ยังคงสามารถออกอากาศได้ตามปกติทั้งระบบดาวเทียม และเคเบิลทีวี จนกว่าจะมีคำสั่งจาก กสท. ออกมา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในการรับชมต่อประชาชนโดยรวม
     
       ด้าน นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้บริหารไทยทีวี กล่าวว่า ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลกว่า 20 ช่อง ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับช่อง 3 โดยตรง แต่ต้องการให้ กสท.ดำเนินการต่อช่อง 3 ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันกับช่อง 7 ช่อง 9 และไทยพีบีเอส เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบ 2 ประการ คือ ประการแรก คูปองที่ กสทช.แจกจะไม่มีคนนำไปแลกกล่องเซ็ต ท็อปบ็อกซ์ หรือทีวีที่รับสัญญาณดิจิตอล เพราะคนดูไม่สามารถดูช่อง 3 ระบบอะนาล็อกผ่านกล่อง หรือทีวีในระบบดังกล่าวได้ อีกประการหนึ่งคือ กระบวนการเปลี่ยนผ่านจากอะนาล็อกไปสู่ดิจิตอลก็จะมีปัญหา ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ช่อง 3 ออกอากาศแบบคู่ขนาน คือ รายการของช่อง 3 ทั้งระบบอะนาล็อก และดิจิตอลต้องมีเนื้อหาเหมือนกัน
     
       ส่วนประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 27 ที่ช่อง 3 กล่าวอ้างนั้น เป็นการประกาศออกมาคนละเจตนารมณ์กัน การประกาศดังกล่าวออกมาหลังจากที่ คสช.ประกาศงดการเผยแพร่ของสถานีโทรทัศน์เป็นการชั่วคราว
     
       “ตนเองรู้สึกประหลาดใจมากที่ กสท.ต้องส่งหนังสือสอบถาม คสช.ด้วย และ คสช.ก็ออกมาให้ข่าวแล้วว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คสช.เป็นหน้าที่การตัดสินใจของ กสทช.มากกว่า ถ้าช่อง 3 จะออกแบบคู่ขนานก็ต้องลดโฆษณาจาก 10 นาทีของระบบอะนาล็อกเป็น 6 นาที ตามกฎของระบบดิจิตอล ส่วนประกาศของ คสช.ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องมัสแคร์รี ของ กสท. ดังนั้น จึงเข้าใจว่าช่อง 3 ต้องการรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนเองมากกว่า” นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ เจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐทีวี) กล่าว
     
       ขณะที่ นายพลชัย วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท ระบุว่า ช่อง 3 ควรอยู่ภายใต้สัญญา และกติกาใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งในฐานะคู่สัญญาสัมปทานกับช่อง 9 นั้น ที่ผ่านมาถือว่าช่อง 3 เป็นคู่สัญญาที่ดีมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดสัญญา และกติกาใหม่ ช่อง 3 ควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด วันนี้การระดมความเห็นน่าจะมีทางออกที่ดี และในฐานะผู้ประกอบการเข้าใจถึงเจตนารมย์ของ กสทช. ที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ความจริงสัญญาสัมปทานสามารถแก้ไขได้ โดยช่อง 3 ต้องเข้ามาเจรจา และช่อง 9 ก็ยินดีเจรจาด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาแต่อย่างใด และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานกับช่อง 3 การเป็นคู่แข่งขันกันไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นพันธมิตรกัน
     
       นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหารช่องเนชั่น ระบุว่า ต้องการให้ กสท.เป็นเจ้าภาพในการหาทางออกร่วมกัน โดยการเชิญผู้ประกอบการโครงข่ายดิจิตอลมาหารือด้วย เนื่องจากขณะนี้โครงข่ายยังไม่เรียบร้อย ส่วนประเด็นช่อง 3 อะนาล็อก น่าจะมีทางออกร่วมกันได้ หากช่อง 3 นำผังรายการมาออกอากาศคู่ขนาน ก็จะทำให้ผู้ประกอบการทุกรายเดินไปพร้อมกันได้ มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียม และไม่ควรดึงประกาศฉบับ 27 ของ คสช.มาเกี่ยวข้อง และทาง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช.ระบุชัดเจนว่า ไม่ควรดึง คสช.เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ทางออกมองว่า ช่อง 3 ควรไปขอใบอนุญาตออกอากาศคู่ขนานตามกฎมัสแครี จึงต้องการให้ กสท.ยึดและทำตามประกาศเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557
     
       ***เตรียมทบทวนค่าชดเชยอาร์เอส
     
       นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายเงินเยียวยาเรื่องบอลโลกให้แก่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวว่าขณะนี้ได้ให้คณะอนุกรรมการของ กสทช.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของวงเงินการเยียวยาเรื่องบอลโลกให้แก่ อาร์เอส กลับไปทบทวนวงเงินที่เสนอไว้ 220 ล้านบาทอีกครั้ง เพราะเป็นวงเงินที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ กสทช.อนุมัติไปก่อนหน้านั้นที่วงเงินไม่เกิน 427 ล้านบาท
     
       สำหรับสาเหตุที่การเสนอวงเงินดังกล่าวไม่ตรงกันนั้นมาจากคณะอนุกรรมการใช้กรอบในการพิจารณาไม่ตรงกับ กสทช. ยกตัวอย่างเช่น การพิจารณาเรื่องการชดเชยค่ากล่อง ที่ กสทช.คิดที่ราคาขายไปยังผู้บริโภค แต่คณะอนุกรรมการกลับพิจารณาชดเชยแค่ราคาต้นทุนของกล่อง เป็นต้น จึงทำให้วงเงินในการชดเชยไม่ตรงกัน เรื่องดังกล่าว กสทช.ได้สั่งให้คณะอนุกรรมการกลับพิจารณาวงเงินใหม่ก่อนที่จะนำเรื่องเข้าประชุมบอร์ด กสทช.ในวันที่ 17 ก.ย. นี้
     
       “เรากำลังเร่งรัดเรื่องนี้อยู่ เพราะทางอาร์เอสก็สอบถามมาโดยตลอด เพราะผมก็กลัวถูกฟ้องเหมือนกัน”


http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101194

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.