22 กันยายน 2557 ช่อง 3.ประวิทย์ เตรียมฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครองสู้ "จอดำ" เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอาจตามมาด้วยการฟ้องร้องทางแพ่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับความเสียหาย
ประเด็นหลัก
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นถึงทางออกในการแก้ปัญหา "ช่อง 3 แอนะล็อก" หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีคำสั่งให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการแพร่ภาพในวันที่ 28 กันยายน 2557 เนื่องจากช่อง 3 แอนะล็อกสิ้นสุดการถูกคุ้มครองการเป็นโทรทัศน์ทั่วไป (ฟรีทีวี) ทำให้ผู้ชมทั่วประเทศ ซึ่ง 70% ของครัวเรือนทั้งหมด รับชมรายการของช่อง 3 แอนะล็อกด้วยจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้อง "จอดำ" ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาจอดำขึ้นมาจริง ๆ ช่อง 3 คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยื่นขอความคุ้มครองจากศาลปกครองกลาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอาจตามมาด้วยการฟ้องร้องทางแพ่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับความเสียหาย
นายจงสุข จรุงวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ กสท.ควรเลื่อนประกาศ "จอดำ" ออกไปก่อน จนกว่าช่อง 3 และ กสท. จะหาทางออกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วประเทศ
______________________________
ช่อง3จ่อพึ่งศาลปกครองสู้"จอดำ" เจรจา"กสท."ไม่คืบออกอากาศคู่ขนานเจอทางตัน
ช่อง 3 ประกาศก้อง ขอศาลปกครองกลางคุ้มครองหาก 28 กันยาฯนี้ต้อง "จอดำ" จริง ๆ ระบุส่งผลปั่นป่วนไปทั่ว ทั้งคนดู ผู้ผลิตรายการ เอเยนซี่ "ประวิทย์ มาลีนนท์" รับคิดพร้อมฟ้องแพ่งเพิ่ม แจงแนวทางออกอากาศคู่ขนานยังไร้คำตอบ
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นถึงทางออกในการแก้ปัญหา "ช่อง 3 แอนะล็อก" หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีคำสั่งให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการแพร่ภาพในวันที่ 28 กันยายน 2557 เนื่องจากช่อง 3 แอนะล็อกสิ้นสุดการถูกคุ้มครองการเป็นโทรทัศน์ทั่วไป (ฟรีทีวี) ทำให้ผู้ชมทั่วประเทศ ซึ่ง 70% ของครัวเรือนทั้งหมด รับชมรายการของช่อง 3 แอนะล็อกด้วยจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้อง "จอดำ" ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาจอดำขึ้นมาจริง ๆ ช่อง 3 คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยื่นขอความคุ้มครองจากศาลปกครองกลาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอาจตามมาด้วยการฟ้องร้องทางแพ่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับความเสียหาย
"ผลจากคำสั่งของ กสท.ส่งผลกระทบต่อช่อง 3 แอนะล็อก อย่างกว้างขวาง ผู้ชมเกิดคำถามว่าต่อไปจะติดตามดูช่อง 3 ได้อย่างไร ผู้ผลิตรายการเกิดความไม่มั่นใจ รวมถึงเอเยนซี่โฆษณาที่ไม่สามารถวางแผนงานการวางสื่อในอนาคตได้ ซึ่งได้ให้ความมั่นใจว่าจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้"
นาย ประวิทย์อธิบายถึงสาเหตุที่ไม่สามารถออกอากาศแบบคู่ขนานตามที่ กสท.ต้องการ เนื่องจากผู้ดำเนินการช่อง 3 แอนะล็อก และทีวีดิจิทัลอีก 3 ช่อง เป็นคนละนิติบุคคล ทำให้มีปัญหาทางกฎหมาย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์รายการตามมา
การนำช่อง 3 แอนะล็อก ไปออกอากาศทางช่อง 33 HD ตามความต้องการของ กสท. โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนนำคูปองไปแลกซื้อกล่องรับสัญญาณ ทีวีดิจิทัล ยังทำให้ช่อง 3 สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ เท่ากับต้องสูญเสียช่อง 33 HD ไปโดยปริยาย
เจ้าของ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาช่อง 3 เหมือนผู้ถูกกระทำ และยังไม่เคยเจรจากับ กสท.ในประเด็นการออกอากาศแบบคู่ขนานตามที่เคยเป็นข่าวแต่อย่างใด
"ที่เข้าไปทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเข้าไปยื่นหนังสือถึง กสทช.เพื่อให้ทบทวนมติ ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน เป็นการสอบถามความชัดเจนจาก กสท.ว่า ที่บอกจะให้ออกอากาศแบบคู่ขนานนั้นจะให้ทำอย่างไร เป็นการขอคำอธิบายเท่านั้น" นายประวิทย์กล่าว
นายจงสุข จรุงวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ กสท.ควรเลื่อนประกาศ "จอดำ" ออกไปก่อน จนกว่าช่อง 3 และ กสท. จะหาทางออกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วประเทศ
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวด้วยว่า ตัวเลขการขายโฆษณาของดิจิทัลทีวีภายใต้การดำเนินงานของช่อง 3 ทั้ง 3 ช่อง คือ ช่อง 3 เอชดี (33) ช่อง 3 เอสดี (28) และช่องแฟมิลี่ (13) มีรายได้รวมกันเพียงเดือนละ 10 ล้านบาทเท่านั้น แต่มีรายจ่ายสูงถึง 100 ล้าน ทำให้ขาดทุนในปีแรกแน่ ๆ 1,000 ล้าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่บริษัทเข้าใจดี และยอมรับได้ว่าธุรกิจโทรทัศน์มักเริ่มต้นด้วยสภาพเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หจก.มหาสารครามเคเบิลทีวี, หจก.เจมส์เคเบิลทีวีเน็ตเวิร์ค, บริษัท CTH Bangkok จำกัด, หจก.เจเคเบิลทีวี และบริษัท -ICT จำกัด มอบหมายให้ทนายความยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งกรรมการ กสท.ที่มีมติให้ผู้ให้บริการทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการนำรายการของช่อง 3 แอนะล็อก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการให้ได้รับความเสียหาย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1411277329
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นถึงทางออกในการแก้ปัญหา "ช่อง 3 แอนะล็อก" หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีคำสั่งให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการแพร่ภาพในวันที่ 28 กันยายน 2557 เนื่องจากช่อง 3 แอนะล็อกสิ้นสุดการถูกคุ้มครองการเป็นโทรทัศน์ทั่วไป (ฟรีทีวี) ทำให้ผู้ชมทั่วประเทศ ซึ่ง 70% ของครัวเรือนทั้งหมด รับชมรายการของช่อง 3 แอนะล็อกด้วยจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้อง "จอดำ" ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาจอดำขึ้นมาจริง ๆ ช่อง 3 คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยื่นขอความคุ้มครองจากศาลปกครองกลาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอาจตามมาด้วยการฟ้องร้องทางแพ่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับความเสียหาย
นายจงสุข จรุงวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ กสท.ควรเลื่อนประกาศ "จอดำ" ออกไปก่อน จนกว่าช่อง 3 และ กสท. จะหาทางออกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วประเทศ
______________________________
ช่อง3จ่อพึ่งศาลปกครองสู้"จอดำ" เจรจา"กสท."ไม่คืบออกอากาศคู่ขนานเจอทางตัน
ช่อง 3 ประกาศก้อง ขอศาลปกครองกลางคุ้มครองหาก 28 กันยาฯนี้ต้อง "จอดำ" จริง ๆ ระบุส่งผลปั่นป่วนไปทั่ว ทั้งคนดู ผู้ผลิตรายการ เอเยนซี่ "ประวิทย์ มาลีนนท์" รับคิดพร้อมฟ้องแพ่งเพิ่ม แจงแนวทางออกอากาศคู่ขนานยังไร้คำตอบ
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นถึงทางออกในการแก้ปัญหา "ช่อง 3 แอนะล็อก" หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีคำสั่งให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยุติการแพร่ภาพในวันที่ 28 กันยายน 2557 เนื่องจากช่อง 3 แอนะล็อกสิ้นสุดการถูกคุ้มครองการเป็นโทรทัศน์ทั่วไป (ฟรีทีวี) ทำให้ผู้ชมทั่วประเทศ ซึ่ง 70% ของครัวเรือนทั้งหมด รับชมรายการของช่อง 3 แอนะล็อกด้วยจานดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้อง "จอดำ" ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาจอดำขึ้นมาจริง ๆ ช่อง 3 คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยื่นขอความคุ้มครองจากศาลปกครองกลาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และอาจตามมาด้วยการฟ้องร้องทางแพ่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับความเสียหาย
"ผลจากคำสั่งของ กสท.ส่งผลกระทบต่อช่อง 3 แอนะล็อก อย่างกว้างขวาง ผู้ชมเกิดคำถามว่าต่อไปจะติดตามดูช่อง 3 ได้อย่างไร ผู้ผลิตรายการเกิดความไม่มั่นใจ รวมถึงเอเยนซี่โฆษณาที่ไม่สามารถวางแผนงานการวางสื่อในอนาคตได้ ซึ่งได้ให้ความมั่นใจว่าจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้"
นาย ประวิทย์อธิบายถึงสาเหตุที่ไม่สามารถออกอากาศแบบคู่ขนานตามที่ กสท.ต้องการ เนื่องจากผู้ดำเนินการช่อง 3 แอนะล็อก และทีวีดิจิทัลอีก 3 ช่อง เป็นคนละนิติบุคคล ทำให้มีปัญหาทางกฎหมาย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์รายการตามมา
การนำช่อง 3 แอนะล็อก ไปออกอากาศทางช่อง 33 HD ตามความต้องการของ กสท. โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนนำคูปองไปแลกซื้อกล่องรับสัญญาณ ทีวีดิจิทัล ยังทำให้ช่อง 3 สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ เท่ากับต้องสูญเสียช่อง 33 HD ไปโดยปริยาย
เจ้าของ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาช่อง 3 เหมือนผู้ถูกกระทำ และยังไม่เคยเจรจากับ กสท.ในประเด็นการออกอากาศแบบคู่ขนานตามที่เคยเป็นข่าวแต่อย่างใด
"ที่เข้าไปทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเข้าไปยื่นหนังสือถึง กสทช.เพื่อให้ทบทวนมติ ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ 17 กันยายน เป็นการสอบถามความชัดเจนจาก กสท.ว่า ที่บอกจะให้ออกอากาศแบบคู่ขนานนั้นจะให้ทำอย่างไร เป็นการขอคำอธิบายเท่านั้น" นายประวิทย์กล่าว
นายจงสุข จรุงวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวว่า แนวทางที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้ กสท.ควรเลื่อนประกาศ "จอดำ" ออกไปก่อน จนกว่าช่อง 3 และ กสท. จะหาทางออกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วประเทศ
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กล่าวด้วยว่า ตัวเลขการขายโฆษณาของดิจิทัลทีวีภายใต้การดำเนินงานของช่อง 3 ทั้ง 3 ช่อง คือ ช่อง 3 เอชดี (33) ช่อง 3 เอสดี (28) และช่องแฟมิลี่ (13) มีรายได้รวมกันเพียงเดือนละ 10 ล้านบาทเท่านั้น แต่มีรายจ่ายสูงถึง 100 ล้าน ทำให้ขาดทุนในปีแรกแน่ ๆ 1,000 ล้าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่บริษัทเข้าใจดี และยอมรับได้ว่าธุรกิจโทรทัศน์มักเริ่มต้นด้วยสภาพเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หจก.มหาสารครามเคเบิลทีวี, หจก.เจมส์เคเบิลทีวีเน็ตเวิร์ค, บริษัท CTH Bangkok จำกัด, หจก.เจเคเบิลทีวี และบริษัท -ICT จำกัด มอบหมายให้ทนายความยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งกรรมการ กสท.ที่มีมติให้ผู้ให้บริการทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการนำรายการของช่อง 3 แอนะล็อก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการให้ได้รับความเสียหาย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1411277329
ไม่มีความคิดเห็น: