Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 ตุลาคม 2557 กสทช.เศรษฐพงค์ ยังคงเยียวยาผู้ใช้มือถือ AIS GSM 1800 และ TRUEMOVE 2G ต่อไป คาดว่าจะประมูล 4G ได้ประมาณปลายปี 58

ประเด็นหลัก



ทั้งนี้ สัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ใช้คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปตั้งแต่ 16 ก.ย.2556 ที่ผ่านมา และได้มีการตั้งคณะทำงานกำหนดหลักเกณฑ์ และการตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้ว โดยยึดหลักการว่ารัฐจะต้องไม่เสียประโยชน์จากประกาศฉบับดังกล่าว และยังคงคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้มือถือบนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง จากเดิมใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ปี และสิ้นสุดในเดือน ก.ย.57 แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เลื่อนการประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปอีก 1 ปี โดยคาดว่าจะประมูลได้ประมาณปลายปี 58 และในระหว่างรอการประมูลต้องเยียวยาผู้ใช้มือถือต่อไปด้วย มิให้ได้รับผลกระทบต่อแต่อย่างใด ซึ่ง กสทช.ก็ต้องคุ้มครองผู้ใช้บริการมือถืออย่างต่อเนื่อง

______________________________




ลุ้น กทค.นำส่งรายได้แผ่นดิน


พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า ภายในเดือน ธ.ค.57 นี้ จะประกาศหลักเกณฑ์การคำนวณรายได้และรายจ่าย ตามประกาศมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ.2556

ทั้งนี้ สัญญาสัมปทานระหว่างบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ใช้คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปตั้งแต่ 16 ก.ย.2556 ที่ผ่านมา และได้มีการตั้งคณะทำงานกำหนดหลักเกณฑ์ และการตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้ว โดยยึดหลักการว่ารัฐจะต้องไม่เสียประโยชน์จากประกาศฉบับดังกล่าว และยังคงคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้มือถือบนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง จากเดิมใช้งานต่อเนื่องได้ 1 ปี และสิ้นสุดในเดือน ก.ย.57 แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เลื่อนการประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปอีก 1 ปี โดยคาดว่าจะประมูลได้ประมาณปลายปี 58 และในระหว่างรอการประมูลต้องเยียวยาผู้ใช้มือถือต่อไปด้วย มิให้ได้รับผลกระทบต่อแต่อย่างใด ซึ่ง กสทช.ก็ต้องคุ้มครองผู้ใช้บริการมือถืออย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งรายได้ ได้มีการประชุมหารือกันหลายครั้ง และได้รายงานให้ที่ประชุมบอร์ด กทค.รับทราบความคืบหน้าทุกครั้ง ในเบื้องต้น ได้มีการคำนวณและตรวจสอบรายได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.56-มิ.ย.57พบว่า ทรูมูฟมีรายได้รวม 3,544 ล้านบาท นำส่งรัฐเป็นรายได้แผ่นดิน 991 ล้านบาท คิดเป็น 27.97% ส่วนของดิจิตอลโฟน มีรายได้ รวม 1,154 ล้านบาท คิดเป็นการนำรายได้ส่งรัฐ 633 ล้านบาท คิดเป็น 54.86% ฉะนั้นจึงต้องมาพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งถึงการนำรายได้ส่งรัฐเหตุใดทรูมูฟ และดิจิตอลโฟน จึงมีความแตกต่างกัน และบอร์ด กทค.จะต้องเป็นผู้พิจารณาอนุมัติเพื่อนำรายได้ดังกล่าวเป็นเงินรายได้นำส่งแผ่นดิน.


http://www.thairath.co.th/content/457864

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.