21 ตุลาคม 2557 ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Apple ประกาศวางจำหน่ายลอตที่ 2 ในอีก 20 ประเทศ แต่กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยรวมอยู่เลย เหตุเพราะ กสทช.
ประเด็นหลัก
ซัมซุงมักส่งผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบออกสู่ตลาดเสมอ
โกรธเคืองอันใด ไฉนกัน? ส่งขาย iPhone ลอต 2 ไร้ชื่อไทย
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Apple ประกาศวางจำหน่ายลอตที่ 2 ในอีก 20 ประเทศ แต่กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยรวมอยู่เลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีเสียงลืออย่างหนาหูว่า iPhone 6 อาจจะเข้าไทยเร็วกว่าทุกปีไม่แน่อาจจะเป็นลอตแรกพร้อมอเมริกา
ธันยวัชร์ มองว่า อาจสืบเนื่องมาจากกรณีที่ กสทช. ได้มีหนังสือผ่านการรับรองมาตรฐานอุปกรณ์ iPhone รุ่น A1586 และ A1524 พร้อมกับเปิดเผยชื่อของรุ่นดังกล่าวนี้ว่า iPhone 6 แต่ภายหลัง ผู้บริหารของ Apple ได้เข้าพบ กสทช. เพื่อชี้แจงว่า การที่กสทช. ให้ชื่อไปว่า เป็น iPhone 6 นั้น ทาง Apple ยังไม่กำหนดแน่ชัดว่า จะเป็นชื่อ iPhone 6 หรือไม่
ขณะเดียวกัน ถือได้ว่า Apple คือ บริษัทที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการปกปิดสเปก และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ กสทช.เป็นหน่วยงานราชการ จึงต้องมีกระบวนการรับรองมาตรฐานที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทราบ
“จากสาเหตุนี้อาจทำให้ นโยบายของ Apple มีปัญหาได้ ดังนั้น ทาง Apple จึงต้องออกมาแก้เกี้ยว โดยใช้วิธีลงโทษแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้” ธันยวัชร์ วิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล
______________________________
'Samsung' เปิดเกมเร็วตัดหน้า 'iPhone 6' ระยะเผาขน! โชว์หมัดต่อหมัด...ใครเจ๋ง?
เมื่อนาทีที่ Apple Inc. ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีสัญชาติอเมริกันเข็นผลิตภัณฑ์ใหม่เอี่ยมอย่าง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch ออกสู่ตลาด ย่อมทำให้แบรนด์ที่ได้รับการยกย่องว่าเติบโตเร็วที่สุดอย่าง Samsung เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวไปตามๆ กัน
กระนั้นฝั่ง Samsung จึงไม่รอช้า รีบผุดไอเดียเรียกลูกค้าด้วยการออกแคมเปญชนิดที่อวดสรรพคุณได้ว่า แรงสุดในกาแล็กซี่ เพราะออกอาการใจใหญ่จัดให้ พร้อมชูโปรโมชั่นเด็ด ซื้อ 1 แถม 1 เมื่อซื้อ Galaxy S5 ฟรี Tab 3 Lite (3G) และเมื่อซื้อ Galaxy Note 3 (3G) หรือซื้อ Samsung Galaxy Note 3 (LTE) ฟรี Tab 3 Lite (Wi-Fi)
ข้อเสนอร้อนแรงจากซัมซุง
เมื่อ iPhone vs Samsung คู่แข่งในสนามสมาร์ทโฟนมาเจอกัน ต่างฝ่ายต่างก็ต้องงัดกลเม็ด ไม้เด็ดไม้โดนออกมาขับเคี่ยว เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างถึงที่สุด และนั่นก็แน่นอนว่า ในเกมส์ทุกเกมส์ย่อมมีผู้ได้เปรียบและเสียเปรียบอยู่ในเกมนั้นๆเสมอ...แล้วหมากเกมนี้ล่ะ ใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ?
“ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์” ได้ร่วมสนทนา เฮฮาอย่างมีสาระกับนักการตลาดชื่อดัง ฉายา “ขาโหด” อย่างธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ถึงศึกไอทีสนามใหญ่ระหว่าง Apple และ Samsung ว่าใครกันแน่ คือเจ้าพ่อตลาดสมาร์ทโฟนตัวจริง?...ร่วมค้นหาคำตอบไปด้วยกัน!
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย
1 ฟรี 1 ตัดหน้าคู่แข่ง สกัดขาดาวรุ่งได้ (หรือ) ?
ในช่วงที่ Apple ยังไม่ผลิต iPhone 6 Plus ออกสู่ตลาดนั้น จึงทำให้ผู้ที่นิยมชมชอบสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ของ Samsung หรือกลุ่มที่ชอบการใช้งานผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ต่างเบนความสนใจไปที่ iPhone 6 Plus ทันที
ดังนั้น ทาง Samsung จึงไม่รอช้า เร่งออกข้อเสนอยื่นถึงมือผู้บริโภค พร้อมใส่โปรโมชั่นดุเด็ดเผ็ดร้อนซื้อ 1 แถม 1 เรียกส่วนแบ่งการตลาดในช่วงที่ Apple ยังไม่ส่ง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch เข้าไทย
ยักษ์ใหญ่ต่างงัดไม้เด็ดออกมาต่อสู้
หากว่า Samsung ไม่จัดโปรแรง ซื้อ 1 แถม 1 เช่นนี้ ก็จะต้องหันหน้าไปเรียกลูกค้าอีกวิธีหนึ่ง คือ การลดราคาชนิดที่ว่า ต่ำเตี้ยเรี่ยดินกว่า 5,000 - 6,000 บาท จนราคาจริงไปอยู่ที่ 16,000-19,000 บาท และแน่นอนว่า โปรโมชั่นข้างต้นนี้ย่อมไม่ได้เรียกไทยมุงไปได้ดีกว่า โปรซื้อ 1 แถม 1 เป็นแน่
“ก่อนหน้านี้ผมเลือกใช้ Samsung หน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งไม่ใหญ่โตจนเกินไปที่จะใช้โทรเข้าโทรออก พร้อมๆ กันกับทำงานผ่านโทรศัพท์ แต่สำหรับ iPhone 5 หน้าจอเล็กจนเกินไป ไม่คล่องแคล่ว ไม่ถนัดต่อการใช้งาน แต่เมื่อ Apple ออก iPhone 6 Plus มาแล้ว ผมก็พร้อมที่จะหันกลับไปใช้ตระกูล iPhone อีกครั้ง โดยไม่สนว่าจะต้องมีของแถมหรือไม่ และเชื่อว่าใครๆ หลายคนคงคิดตรงกันกับผม” นักการตลาดขาโหด พูดอย่างจริงจัง
iPhone vs Samsung...คุณว่าใคร คือ เจ้าตลาด?
หากเรานำมวยคู่เอกอย่าง Samsung และ Apple มาเทียบคู่ พร้อมๆ กับตั้งคำถามที่ว่า มวยคู่นี้ใครเป็นต่อ ใครเป็นรอง?...ย่อมได้คำตอบที่ว่า มวยคู่นี้จัดได้ว่า สูสี พอฟัดพอเหวี่ยง เนื่องจาก iPhone ตึตลาดผู้บริโคระดับ Hi-Class (หรือกลุ่มที่พยายามจะ Hi-Class ก็ตามที) โดยพุ่งเป้าตั้งแต่ระดับกลาง ไปจนถึง ระดับสูง กล่าวคือ ขายความพรีเมี่ยมมากกว่าขายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ซัมซุงเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ส่วน Samsung คล้ายคลึงกับ Nokia ณ จุดที่แบรนด์ทั้งสองต่างฟุ่งเป้าไปที่ตลาดทุกเพศ ทุกวัย หลากรุ่น หลายราคา ดังนั้น Samsung จึงสามารถครองตลาดผู้คนได้ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูง มิใช่แค่เพียงเหล่า Hi-Class เท่านั้น
ทว่า คำว่า “เจ้าตลาด” ย่อมจะหมายถึงแบรนด์ที่ผู้คนต่างเฝ้ารอและให้ความสนใจเมื่อจะออกผลิตภัณฑ์ใดๆ มาสักครั้งหนึ่ง บางครั้งแบรนด์เหล่านี้เปลี่ยนแค่สีของสินค้า ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างท่วมท้น อีกทั้ง ยังไม่จำเป็นจะต้องต่อเติมเสริมฟังก์ชั่นแบบล้ำยุคก่อนชาวบ้านชาวเมือง แต่เพียงแค่เลือกที่จะใส่ฟังก์ชั่นล้ำสมัยก็ต่อเมื่อถึงเวลาอันเหมาะเจาะ เพื่อสร้างความน่าค้นหาต่อสาธารณชนได้โดยง่าย...แล้วในมุมมองของคุณล่ะ iPhone vs Samsung คุณคิดว่าใคร คือ เจ้าตลาดตัวจริง?
ซัมซุงมักส่งผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบออกสู่ตลาดเสมอ
โกรธเคืองอันใด ไฉนกัน? ส่งขาย iPhone ลอต 2 ไร้ชื่อไทย
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Apple ประกาศวางจำหน่ายลอตที่ 2 ในอีก 20 ประเทศ แต่กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยรวมอยู่เลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีเสียงลืออย่างหนาหูว่า iPhone 6 อาจจะเข้าไทยเร็วกว่าทุกปีไม่แน่อาจจะเป็นลอตแรกพร้อมอเมริกา
ธันยวัชร์ มองว่า อาจสืบเนื่องมาจากกรณีที่ กสทช. ได้มีหนังสือผ่านการรับรองมาตรฐานอุปกรณ์ iPhone รุ่น A1586 และ A1524 พร้อมกับเปิดเผยชื่อของรุ่นดังกล่าวนี้ว่า iPhone 6 แต่ภายหลัง ผู้บริหารของ Apple ได้เข้าพบ กสทช. เพื่อชี้แจงว่า การที่กสทช. ให้ชื่อไปว่า เป็น iPhone 6 นั้น ทาง Apple ยังไม่กำหนดแน่ชัดว่า จะเป็นชื่อ iPhone 6 หรือไม่
ขณะเดียวกัน ถือได้ว่า Apple คือ บริษัทที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการปกปิดสเปก และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ กสทช.เป็นหน่วยงานราชการ จึงต้องมีกระบวนการรับรองมาตรฐานที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทราบ
“จากสาเหตุนี้อาจทำให้ นโยบายของ Apple มีปัญหาได้ ดังนั้น ทาง Apple จึงต้องออกมาแก้เกี้ยว โดยใช้วิธีลงโทษแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้” ธันยวัชร์ วิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล
Apple แบรนด์สุดแกร่ง
Apple ในวันที่ไร้เงา สตีฟ จ็อบส์ จะก้าวไกล หรือ ไถลลง ?
วิวัฒนาการของ Apple นั้น นับได้ว่าเป็นการเติบโตอย่างมั่นคง หากย้อนไปในช่วงแรกเริ่ม จะพบว่า ซีอีโอในตำนานอย่าง สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) นั้น มีความโดดเด่นกว่าตัวองค์กร แต่เมื่อเวลาเริ่มหมุนเวียนเปลี่ยนไป Apple เริ่มเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น ผู้คนต่างหันมาโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์มากกว่าตัวซีอีโอ ฉะนั้น จึงเป็นเครื่องสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า Apple ได้กลายเป็นแบรนด์ที่ล้มยาก บารมีแกร่งกล้าไปเสียแล้ว
มิหนำซ้ำ Apple ยังสามารถเจาะส่วนแบ่งทางการตลาดได้เกือบทุกอณู โดยแบ่งตามการรับเอาผลิตภัณฑ์ใหม่มาใช้เป็น step ง่ายๆ ได้ดังนี้
1. กลุ่มล้ำสมัย (Innovators) พวกแรกที่จะรับเอาผลิตภัณฑ์ใหม่ไปใช้ โดยไม่ต้องการโฆษณามาก กลุ่มนี้มีอยู่ 5%
2. กลุ่มนำสมัย (Early Adopters) มักจะเป็นผู้ที่ต้องการเป็นผู้นำทางความคิดและชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กลุ่มนี้มีอยู่ 13%
(หากผลิตภัณฑ์ใดๆ เจาะตลาดได้เพียง 2 กลุ่มนี้เท่านั้น ถือว่าไปไม่รอด)
รุกเจาะตลาด
3. กลุ่มทันสมัย (Majority) มีความคิดสุขุม รอบคอบ แต่ชอบซื้อก่อนคนส่วนใหญ่ในสังคม กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
(หากผลิตภัณฑ์ใดๆ เจาะตลาดได้ถึง 3 กลุ่มนี้ ถือว่ารุ่ง)
4. กลุ่มตามสมัย (Late Majority) ชอบสงสัย ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และจะไม่ยอมซื้อจนกว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมจะซื้อแล้ว กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
5. กลุ่มล้าสมัย (Laggards) หัวโบราณ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ จะซื้อเมื่อคนอื่นๆ ซื้อกันจนเป็นเรื่องธรรมดา มักเป็นพวกมาอายุและฐานะทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
เราต้องฉลาดกว่าวัตถุ มิใช่ให้วัตถุมาฉลาดกว่าเรา
ไม่ว่าจะ Apple หรือ Samsung ต่างก็มียุทธวิธีเรียกลูกค้าในแบบฉบับของตัวเอง แต่เราในฐานะผู้บริโภค อย่ามัวแต่ฟุ้งเฟ้อ เสพวัตถุนิยม และตกเป็นเหยื่อทางการตลาดของค่ายยักษ์ แบรนด์ดังทั้ง 2 นี้ได้โดยง่าย...เพราะเทคโนโลยีแค่ใช้ได้นั้นไม่พอ แต่ต้องใช้ให้เป็น！
http://www.thairath.co.th/content/450672
ซัมซุงมักส่งผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบออกสู่ตลาดเสมอ
โกรธเคืองอันใด ไฉนกัน? ส่งขาย iPhone ลอต 2 ไร้ชื่อไทย
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Apple ประกาศวางจำหน่ายลอตที่ 2 ในอีก 20 ประเทศ แต่กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยรวมอยู่เลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีเสียงลืออย่างหนาหูว่า iPhone 6 อาจจะเข้าไทยเร็วกว่าทุกปีไม่แน่อาจจะเป็นลอตแรกพร้อมอเมริกา
ธันยวัชร์ มองว่า อาจสืบเนื่องมาจากกรณีที่ กสทช. ได้มีหนังสือผ่านการรับรองมาตรฐานอุปกรณ์ iPhone รุ่น A1586 และ A1524 พร้อมกับเปิดเผยชื่อของรุ่นดังกล่าวนี้ว่า iPhone 6 แต่ภายหลัง ผู้บริหารของ Apple ได้เข้าพบ กสทช. เพื่อชี้แจงว่า การที่กสทช. ให้ชื่อไปว่า เป็น iPhone 6 นั้น ทาง Apple ยังไม่กำหนดแน่ชัดว่า จะเป็นชื่อ iPhone 6 หรือไม่
ขณะเดียวกัน ถือได้ว่า Apple คือ บริษัทที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการปกปิดสเปก และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ กสทช.เป็นหน่วยงานราชการ จึงต้องมีกระบวนการรับรองมาตรฐานที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทราบ
“จากสาเหตุนี้อาจทำให้ นโยบายของ Apple มีปัญหาได้ ดังนั้น ทาง Apple จึงต้องออกมาแก้เกี้ยว โดยใช้วิธีลงโทษแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้” ธันยวัชร์ วิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล
______________________________
'Samsung' เปิดเกมเร็วตัดหน้า 'iPhone 6' ระยะเผาขน! โชว์หมัดต่อหมัด...ใครเจ๋ง?
เมื่อนาทีที่ Apple Inc. ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีสัญชาติอเมริกันเข็นผลิตภัณฑ์ใหม่เอี่ยมอย่าง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch ออกสู่ตลาด ย่อมทำให้แบรนด์ที่ได้รับการยกย่องว่าเติบโตเร็วที่สุดอย่าง Samsung เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวไปตามๆ กัน
กระนั้นฝั่ง Samsung จึงไม่รอช้า รีบผุดไอเดียเรียกลูกค้าด้วยการออกแคมเปญชนิดที่อวดสรรพคุณได้ว่า แรงสุดในกาแล็กซี่ เพราะออกอาการใจใหญ่จัดให้ พร้อมชูโปรโมชั่นเด็ด ซื้อ 1 แถม 1 เมื่อซื้อ Galaxy S5 ฟรี Tab 3 Lite (3G) และเมื่อซื้อ Galaxy Note 3 (3G) หรือซื้อ Samsung Galaxy Note 3 (LTE) ฟรี Tab 3 Lite (Wi-Fi)
ข้อเสนอร้อนแรงจากซัมซุง
เมื่อ iPhone vs Samsung คู่แข่งในสนามสมาร์ทโฟนมาเจอกัน ต่างฝ่ายต่างก็ต้องงัดกลเม็ด ไม้เด็ดไม้โดนออกมาขับเคี่ยว เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างถึงที่สุด และนั่นก็แน่นอนว่า ในเกมส์ทุกเกมส์ย่อมมีผู้ได้เปรียบและเสียเปรียบอยู่ในเกมนั้นๆเสมอ...แล้วหมากเกมนี้ล่ะ ใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ?
“ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์” ได้ร่วมสนทนา เฮฮาอย่างมีสาระกับนักการตลาดชื่อดัง ฉายา “ขาโหด” อย่างธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ถึงศึกไอทีสนามใหญ่ระหว่าง Apple และ Samsung ว่าใครกันแน่ คือเจ้าพ่อตลาดสมาร์ทโฟนตัวจริง?...ร่วมค้นหาคำตอบไปด้วยกัน!
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย
1 ฟรี 1 ตัดหน้าคู่แข่ง สกัดขาดาวรุ่งได้ (หรือ) ?
ในช่วงที่ Apple ยังไม่ผลิต iPhone 6 Plus ออกสู่ตลาดนั้น จึงทำให้ผู้ที่นิยมชมชอบสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ของ Samsung หรือกลุ่มที่ชอบการใช้งานผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ต่างเบนความสนใจไปที่ iPhone 6 Plus ทันที
ดังนั้น ทาง Samsung จึงไม่รอช้า เร่งออกข้อเสนอยื่นถึงมือผู้บริโภค พร้อมใส่โปรโมชั่นดุเด็ดเผ็ดร้อนซื้อ 1 แถม 1 เรียกส่วนแบ่งการตลาดในช่วงที่ Apple ยังไม่ส่ง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch เข้าไทย
ยักษ์ใหญ่ต่างงัดไม้เด็ดออกมาต่อสู้
หากว่า Samsung ไม่จัดโปรแรง ซื้อ 1 แถม 1 เช่นนี้ ก็จะต้องหันหน้าไปเรียกลูกค้าอีกวิธีหนึ่ง คือ การลดราคาชนิดที่ว่า ต่ำเตี้ยเรี่ยดินกว่า 5,000 - 6,000 บาท จนราคาจริงไปอยู่ที่ 16,000-19,000 บาท และแน่นอนว่า โปรโมชั่นข้างต้นนี้ย่อมไม่ได้เรียกไทยมุงไปได้ดีกว่า โปรซื้อ 1 แถม 1 เป็นแน่
“ก่อนหน้านี้ผมเลือกใช้ Samsung หน้าจอ 5.5 นิ้ว ซึ่งไม่ใหญ่โตจนเกินไปที่จะใช้โทรเข้าโทรออก พร้อมๆ กันกับทำงานผ่านโทรศัพท์ แต่สำหรับ iPhone 5 หน้าจอเล็กจนเกินไป ไม่คล่องแคล่ว ไม่ถนัดต่อการใช้งาน แต่เมื่อ Apple ออก iPhone 6 Plus มาแล้ว ผมก็พร้อมที่จะหันกลับไปใช้ตระกูล iPhone อีกครั้ง โดยไม่สนว่าจะต้องมีของแถมหรือไม่ และเชื่อว่าใครๆ หลายคนคงคิดตรงกันกับผม” นักการตลาดขาโหด พูดอย่างจริงจัง
iPhone vs Samsung...คุณว่าใคร คือ เจ้าตลาด?
หากเรานำมวยคู่เอกอย่าง Samsung และ Apple มาเทียบคู่ พร้อมๆ กับตั้งคำถามที่ว่า มวยคู่นี้ใครเป็นต่อ ใครเป็นรอง?...ย่อมได้คำตอบที่ว่า มวยคู่นี้จัดได้ว่า สูสี พอฟัดพอเหวี่ยง เนื่องจาก iPhone ตึตลาดผู้บริโคระดับ Hi-Class (หรือกลุ่มที่พยายามจะ Hi-Class ก็ตามที) โดยพุ่งเป้าตั้งแต่ระดับกลาง ไปจนถึง ระดับสูง กล่าวคือ ขายความพรีเมี่ยมมากกว่าขายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
ซัมซุงเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ส่วน Samsung คล้ายคลึงกับ Nokia ณ จุดที่แบรนด์ทั้งสองต่างฟุ่งเป้าไปที่ตลาดทุกเพศ ทุกวัย หลากรุ่น หลายราคา ดังนั้น Samsung จึงสามารถครองตลาดผู้คนได้ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูง มิใช่แค่เพียงเหล่า Hi-Class เท่านั้น
ทว่า คำว่า “เจ้าตลาด” ย่อมจะหมายถึงแบรนด์ที่ผู้คนต่างเฝ้ารอและให้ความสนใจเมื่อจะออกผลิตภัณฑ์ใดๆ มาสักครั้งหนึ่ง บางครั้งแบรนด์เหล่านี้เปลี่ยนแค่สีของสินค้า ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างท่วมท้น อีกทั้ง ยังไม่จำเป็นจะต้องต่อเติมเสริมฟังก์ชั่นแบบล้ำยุคก่อนชาวบ้านชาวเมือง แต่เพียงแค่เลือกที่จะใส่ฟังก์ชั่นล้ำสมัยก็ต่อเมื่อถึงเวลาอันเหมาะเจาะ เพื่อสร้างความน่าค้นหาต่อสาธารณชนได้โดยง่าย...แล้วในมุมมองของคุณล่ะ iPhone vs Samsung คุณคิดว่าใคร คือ เจ้าตลาดตัวจริง?
ซัมซุงมักส่งผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบออกสู่ตลาดเสมอ
โกรธเคืองอันใด ไฉนกัน? ส่งขาย iPhone ลอต 2 ไร้ชื่อไทย
ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดังวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Apple ประกาศวางจำหน่ายลอตที่ 2 ในอีก 20 ประเทศ แต่กลับไม่มีชื่อของประเทศไทยรวมอยู่เลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มีเสียงลืออย่างหนาหูว่า iPhone 6 อาจจะเข้าไทยเร็วกว่าทุกปีไม่แน่อาจจะเป็นลอตแรกพร้อมอเมริกา
ธันยวัชร์ มองว่า อาจสืบเนื่องมาจากกรณีที่ กสทช. ได้มีหนังสือผ่านการรับรองมาตรฐานอุปกรณ์ iPhone รุ่น A1586 และ A1524 พร้อมกับเปิดเผยชื่อของรุ่นดังกล่าวนี้ว่า iPhone 6 แต่ภายหลัง ผู้บริหารของ Apple ได้เข้าพบ กสทช. เพื่อชี้แจงว่า การที่กสทช. ให้ชื่อไปว่า เป็น iPhone 6 นั้น ทาง Apple ยังไม่กำหนดแน่ชัดว่า จะเป็นชื่อ iPhone 6 หรือไม่
ขณะเดียวกัน ถือได้ว่า Apple คือ บริษัทที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการปกปิดสเปก และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ กสทช.เป็นหน่วยงานราชการ จึงต้องมีกระบวนการรับรองมาตรฐานที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทราบ
“จากสาเหตุนี้อาจทำให้ นโยบายของ Apple มีปัญหาได้ ดังนั้น ทาง Apple จึงต้องออกมาแก้เกี้ยว โดยใช้วิธีลงโทษแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้” ธันยวัชร์ วิเคราะห์อย่างสมเหตุสมผล
Apple แบรนด์สุดแกร่ง
Apple ในวันที่ไร้เงา สตีฟ จ็อบส์ จะก้าวไกล หรือ ไถลลง ?
วิวัฒนาการของ Apple นั้น นับได้ว่าเป็นการเติบโตอย่างมั่นคง หากย้อนไปในช่วงแรกเริ่ม จะพบว่า ซีอีโอในตำนานอย่าง สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) นั้น มีความโดดเด่นกว่าตัวองค์กร แต่เมื่อเวลาเริ่มหมุนเวียนเปลี่ยนไป Apple เริ่มเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น ผู้คนต่างหันมาโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์มากกว่าตัวซีอีโอ ฉะนั้น จึงเป็นเครื่องสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า Apple ได้กลายเป็นแบรนด์ที่ล้มยาก บารมีแกร่งกล้าไปเสียแล้ว
มิหนำซ้ำ Apple ยังสามารถเจาะส่วนแบ่งทางการตลาดได้เกือบทุกอณู โดยแบ่งตามการรับเอาผลิตภัณฑ์ใหม่มาใช้เป็น step ง่ายๆ ได้ดังนี้
1. กลุ่มล้ำสมัย (Innovators) พวกแรกที่จะรับเอาผลิตภัณฑ์ใหม่ไปใช้ โดยไม่ต้องการโฆษณามาก กลุ่มนี้มีอยู่ 5%
2. กลุ่มนำสมัย (Early Adopters) มักจะเป็นผู้ที่ต้องการเป็นผู้นำทางความคิดและชอบมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กลุ่มนี้มีอยู่ 13%
(หากผลิตภัณฑ์ใดๆ เจาะตลาดได้เพียง 2 กลุ่มนี้เท่านั้น ถือว่าไปไม่รอด)
รุกเจาะตลาด
3. กลุ่มทันสมัย (Majority) มีความคิดสุขุม รอบคอบ แต่ชอบซื้อก่อนคนส่วนใหญ่ในสังคม กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
(หากผลิตภัณฑ์ใดๆ เจาะตลาดได้ถึง 3 กลุ่มนี้ ถือว่ารุ่ง)
4. กลุ่มตามสมัย (Late Majority) ชอบสงสัย ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และจะไม่ยอมซื้อจนกว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมจะซื้อแล้ว กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
5. กลุ่มล้าสมัย (Laggards) หัวโบราณ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ จะซื้อเมื่อคนอื่นๆ ซื้อกันจนเป็นเรื่องธรรมดา มักเป็นพวกมาอายุและฐานะทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ กลุ่มนี้มีอยู่ 25%
เราต้องฉลาดกว่าวัตถุ มิใช่ให้วัตถุมาฉลาดกว่าเรา
ไม่ว่าจะ Apple หรือ Samsung ต่างก็มียุทธวิธีเรียกลูกค้าในแบบฉบับของตัวเอง แต่เราในฐานะผู้บริโภค อย่ามัวแต่ฟุ้งเฟ้อ เสพวัตถุนิยม และตกเป็นเหยื่อทางการตลาดของค่ายยักษ์ แบรนด์ดังทั้ง 2 นี้ได้โดยง่าย...เพราะเทคโนโลยีแค่ใช้ได้นั้นไม่พอ แต่ต้องใช้ให้เป็น！
http://www.thairath.co.th/content/450672
ไม่มีความคิดเห็น: