22 ตุลาคม 2557 ช่อง3และเคเบิ้ลถอนฟ้องกสทช. หลัง ไม่ได้รับผลประทบอีกต่อไป เนื่องจากสามารถดูผ่านดาวเทียมและเคเบิลจะดูช่อง 3 ได้ที่ช่อง 43
ประเด็นหลัก
วานนี้ (21 ต.ค.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายรังสิกร อุปพงศ์ ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภท เคเบิลทีวี 6 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาสารคามเคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก ห้างหุ้นส่วนจำกัดเจมส์เคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก บริษัท ซีทีเอช แบงค์คอก จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคเบิลทีวีบริษัท ไอซีที จำกัด และบริษัท ซีทีเอส เคเบิล ทีวีจำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า ใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาเพิกถอนคำสั่ง กรรมการ กสท.ที่มีมติ ให้ผู้ให้บริการดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการเผยแพร่ออกอากาศสัญญาณ รายการของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบอะนาล็อกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้ได้รับความเสียหาย ใหม่อีกครั้ง หลังได้เลื่อนการไต่สวนมาจากวันที่ 9 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในการไต่สวนครั้งนี้ ฝ่ายผู้ร้อง ได้มี นายธีรพล กาญจนากาศ ทนายความผู้รับมอบอำนาจและคณะฝ่ายกฎหมาย และนายเมธินทร์ สมนึก กรรมการและที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ได้แจ้งต่อศาลขอถอนฟ้อง เนื่องจาก กสท.ได้อนุญาตให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนาน ระหว่างโครงข่ายอนาล็อก กับโครงข่ายดิจิตอล ทำให้ลูกค้าของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทเคเบิลทีวี 6 บริษัท ไม่ได้รับผลประทบอีกต่อไป เนื่องจากสามารถดูผ่านดาวเทียมและเคเบิลจะดูช่อง 3 ได้ที่ช่อง 43
______________________________
ช่อง3-เคเบิ้ลถอนฟ้องกสทช. หลังมีการออกอากาศคู่ขนาน
วานนี้ (21 ต.ค.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายรังสิกร อุปพงศ์ ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภท เคเบิลทีวี 6 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาสารคามเคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก ห้างหุ้นส่วนจำกัดเจมส์เคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก บริษัท ซีทีเอช แบงค์คอก จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคเบิลทีวีบริษัท ไอซีที จำกัด และบริษัท ซีทีเอส เคเบิล ทีวีจำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า ใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาเพิกถอนคำสั่ง กรรมการ กสท.ที่มีมติ ให้ผู้ให้บริการดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการเผยแพร่ออกอากาศสัญญาณ รายการของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบอะนาล็อกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้ได้รับความเสียหาย ใหม่อีกครั้ง หลังได้เลื่อนการไต่สวนมาจากวันที่ 9 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในการไต่สวนครั้งนี้ ฝ่ายผู้ร้อง ได้มี นายธีรพล กาญจนากาศ ทนายความผู้รับมอบอำนาจและคณะฝ่ายกฎหมาย และนายเมธินทร์ สมนึก กรรมการและที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ได้แจ้งต่อศาลขอถอนฟ้อง เนื่องจาก กสท.ได้อนุญาตให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนาน ระหว่างโครงข่ายอนาล็อก กับโครงข่ายดิจิตอล ทำให้ลูกค้าของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทเคเบิลทีวี 6 บริษัท ไม่ได้รับผลประทบอีกต่อไป เนื่องจากสามารถดูผ่านดาวเทียมและเคเบิลจะดูช่อง 3 ได้ที่ช่อง 43
ขณะที่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวภายหลังเข้าไต่สวนว่า เรื่องนี้จบลงด้วยดี เพราะนอกจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวี จะแจ้งความจำนงถอนฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้ว นอกจากนี้ ทางศาลได้แจ้งรายงานกระบวนการพิจารณาให้ทราบว่า ในคดีที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยื่นฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) และ กสท. ได้ยุติแล้ว เนื่องจากบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง เมื่อวันที่16 ต.ค. และในวันที่ 17 ต.ค. คณะตุลาการเจ้าของคดีดังกล่าว ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากข้อพิพาทระหว่าง บริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กับ สำนักงาน กสทช. ,กสทช. และ กสท.ได้ยุติลง จากการที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และ กสทช.ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ต่อศาลในการไต่สวน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนทั่วไปให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ของบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ต่อไปได้ทั้งสองระบบโดยไม่ได้รับผลกระทบหรือมีภาระเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ฟ้องดำเนินคดีอาญา กสทช. และกสท. รวมถึงคดีที่ฟ้องร้องดำเนินคดีตน ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยังอยู่กระบวนการพิจารณาของศาล ยังไม่มีการถอนฟ้อง
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121382&Keyword=%A1%CA%B7
วานนี้ (21 ต.ค.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายรังสิกร อุปพงศ์ ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภท เคเบิลทีวี 6 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาสารคามเคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก ห้างหุ้นส่วนจำกัดเจมส์เคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก บริษัท ซีทีเอช แบงค์คอก จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคเบิลทีวีบริษัท ไอซีที จำกัด และบริษัท ซีทีเอส เคเบิล ทีวีจำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า ใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาเพิกถอนคำสั่ง กรรมการ กสท.ที่มีมติ ให้ผู้ให้บริการดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการเผยแพร่ออกอากาศสัญญาณ รายการของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบอะนาล็อกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้ได้รับความเสียหาย ใหม่อีกครั้ง หลังได้เลื่อนการไต่สวนมาจากวันที่ 9 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในการไต่สวนครั้งนี้ ฝ่ายผู้ร้อง ได้มี นายธีรพล กาญจนากาศ ทนายความผู้รับมอบอำนาจและคณะฝ่ายกฎหมาย และนายเมธินทร์ สมนึก กรรมการและที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ได้แจ้งต่อศาลขอถอนฟ้อง เนื่องจาก กสท.ได้อนุญาตให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนาน ระหว่างโครงข่ายอนาล็อก กับโครงข่ายดิจิตอล ทำให้ลูกค้าของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทเคเบิลทีวี 6 บริษัท ไม่ได้รับผลประทบอีกต่อไป เนื่องจากสามารถดูผ่านดาวเทียมและเคเบิลจะดูช่อง 3 ได้ที่ช่อง 43
______________________________
ช่อง3-เคเบิ้ลถอนฟ้องกสทช. หลังมีการออกอากาศคู่ขนาน
วานนี้ (21 ต.ค.) องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายรังสิกร อุปพงศ์ ตุลาการเจ้าของสำนวนได้นัดไต่สวนคดีที่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภท เคเบิลทีวี 6 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด มหาสารคามเคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก ห้างหุ้นส่วนจำกัดเจมส์เคเบิลทีวี เน็ตเวิร์ก บริษัท ซีทีเอช แบงค์คอก จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจเคเบิลทีวีบริษัท ไอซีที จำกัด และบริษัท ซีทีเอส เคเบิล ทีวีจำกัด ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ว่า ใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลปกครองกลาง พิจารณาเพิกถอนคำสั่ง กรรมการ กสท.ที่มีมติ ให้ผู้ให้บริการดาวเทียม และเคเบิลทีวี ยุติการเผยแพร่ออกอากาศสัญญาณ รายการของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระบบอะนาล็อกภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมติดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ทำให้ได้รับความเสียหาย ใหม่อีกครั้ง หลังได้เลื่อนการไต่สวนมาจากวันที่ 9 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ในการไต่สวนครั้งนี้ ฝ่ายผู้ร้อง ได้มี นายธีรพล กาญจนากาศ ทนายความผู้รับมอบอำนาจและคณะฝ่ายกฎหมาย และนายเมธินทร์ สมนึก กรรมการและที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช เคเบิล ทีวี จำกัด ได้แจ้งต่อศาลขอถอนฟ้อง เนื่องจาก กสท.ได้อนุญาตให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนาน ระหว่างโครงข่ายอนาล็อก กับโครงข่ายดิจิตอล ทำให้ลูกค้าของผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ประเภทเคเบิลทีวี 6 บริษัท ไม่ได้รับผลประทบอีกต่อไป เนื่องจากสามารถดูผ่านดาวเทียมและเคเบิลจะดูช่อง 3 ได้ที่ช่อง 43
ขณะที่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวภายหลังเข้าไต่สวนว่า เรื่องนี้จบลงด้วยดี เพราะนอกจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวี จะแจ้งความจำนงถอนฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้ว นอกจากนี้ ทางศาลได้แจ้งรายงานกระบวนการพิจารณาให้ทราบว่า ในคดีที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยื่นฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) และ กสท. ได้ยุติแล้ว เนื่องจากบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง เมื่อวันที่16 ต.ค. และในวันที่ 17 ต.ค. คณะตุลาการเจ้าของคดีดังกล่าว ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากข้อพิพาทระหว่าง บริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด กับ สำนักงาน กสทช. ,กสทช. และ กสท.ได้ยุติลง จากการที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด และ กสทช.ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ต่อศาลในการไต่สวน เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนทั่วไปให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ของบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ต่อไปได้ทั้งสองระบบโดยไม่ได้รับผลกระทบหรือมีภาระเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีที่บริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ฟ้องดำเนินคดีอาญา กสทช. และกสท. รวมถึงคดีที่ฟ้องร้องดำเนินคดีตน ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยังอยู่กระบวนการพิจารณาของศาล ยังไม่มีการถอนฟ้อง
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121382&Keyword=%A1%CA%B7
ไม่มีความคิดเห็น: