23 ตุลาคม 2557 Samart.วัฒน์ชัย ระบุ กล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) บริษัทยังทำตลาดเสาอากาศด้วย โดยมีทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งเป็น เสาอากาศในอาคาร 2 รุ่น นอกอาคาร 5 รุ่น
ประเด็นหลัก
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากเริ่มทำตลาดกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว มียอดขาย 500,000-600,000 กล่อง จากสินค้า 2 รุ่น คือ Strong และ Strong Pro ราคา 1,350 บาท และ 1,450 บาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง มูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 20%
ล่าสุดเปิดตัวกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล 3 รุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดตั้งราคาเท่ากับมูลค่าคูปองส่วนลดที่ 690 บาท ได้แก่ Strong Black ที่กล่องมีปุ่มกดเปลี่ยนช่อง/เพิ่มเสียง และรุ่น Strong White และ Strong POP1 มีระบบเสียงดอลบี้ แตกต่างกันที่สีขาวกับสีดำ ทั้ง 3 รุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานของการรับชมทีวีดิจิทัล เช่น ค้นหาสัญญาณอัตโนมัติ, มีช่องเชื่อมต่อ USB เพื่อเล่นไฟล์มัลติมีเดียและตั้งเวลาอัดรายการได้
"วัดกันที่ยอดขายของเราเดินหน้าต่อเนื่อง และแบรนด์สามารถยังการันตีเรื่องคุณภาพได้ อีกเรื่องที่วัดได้ว่าเราเป็นผู้นำคือเราทำเรื่องขอสติ๊กเกอร์อนุญาตให้จำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์จาก กสทช.ไปแล้ว 9.6 แสนใบ ใบละ 1.50 บาท เพื่อเอามาแปะที่กล่อง และจะขอเพิ่มอีก 8 แสนใบ สำหรับติดที่กล่องรุ่นใหม่ ซึ่งในตลาดมีไม่ถึง 5 บริษัทที่ขอสติ๊กเกอร์มากขนาดนี้ กล่องของเราทุกรุ่นนำคูปองส่วนลด 690 บาท มาแลกซื้อได้หมด แต่บางรุ่นต้องเพิ่มเงินบ้าง"
นอกจากนี้ บริษัทยังทำตลาดเสาอากาศด้วย โดยมีทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งเป็น เสาอากาศในอาคาร 2 รุ่น นอกอาคาร 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 100-500 บาท ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้มากกว่า 2 ล้านชุด คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% และในปีหน้าจะมีสินค้ารุ่นใหม่ทั้งเซตท็อปบ็อกซ์และเสารับสัญญาณ รวมถึงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%ในเซตท็อปบ็อกซ์ และเสารับสัญญาณ 50%
______________________________
"สามารถ" สู้ศึกเซตท็อปบ็อกซ์ ยึดราคาคูปองรับแลกถึงบ้าน
ยักษ์ "สามารถ" เพิ่มดีกรีแข่งดุ ส่ง "เซตท็อปบ็อกซ์" ทีวีดิจิทัลลงตลาด 3 รุ่นรวดตั้งราคาเท่าคูปอง 690 บาท เร่งสปีดปั๊มยอดตามเป้าเดิม 2 ล้านกล่องภายในสิ้นปี โกยมาร์เก็ตแชร์ 20% พร้อมเปิดเกมเร็ว จัด "คาราวานรถ" เดินสายรับแลกคูปองถึงบ้าน ทั้งจับมือ "ดีแทค" อัดโปรโมชั่นลดค่าบริการ 50% นาน 1 ปีดันยอดขาย "ไอโมบาย IQ-DTV"
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากเริ่มทำตลาดกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว มียอดขาย 500,000-600,000 กล่อง จากสินค้า 2 รุ่น คือ Strong และ Strong Pro ราคา 1,350 บาท และ 1,450 บาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง มูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 20%
ล่าสุดเปิดตัวกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล 3 รุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดตั้งราคาเท่ากับมูลค่าคูปองส่วนลดที่ 690 บาท ได้แก่ Strong Black ที่กล่องมีปุ่มกดเปลี่ยนช่อง/เพิ่มเสียง และรุ่น Strong White และ Strong POP1 มีระบบเสียงดอลบี้ แตกต่างกันที่สีขาวกับสีดำ ทั้ง 3 รุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานของการรับชมทีวีดิจิทัล เช่น ค้นหาสัญญาณอัตโนมัติ, มีช่องเชื่อมต่อ USB เพื่อเล่นไฟล์มัลติมีเดียและตั้งเวลาอัดรายการได้
"วัดกันที่ยอดขายของเราเดินหน้าต่อเนื่อง และแบรนด์สามารถยังการันตีเรื่องคุณภาพได้ อีกเรื่องที่วัดได้ว่าเราเป็นผู้นำคือเราทำเรื่องขอสติ๊กเกอร์อนุญาตให้จำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์จาก กสทช.ไปแล้ว 9.6 แสนใบ ใบละ 1.50 บาท เพื่อเอามาแปะที่กล่อง และจะขอเพิ่มอีก 8 แสนใบ สำหรับติดที่กล่องรุ่นใหม่ ซึ่งในตลาดมีไม่ถึง 5 บริษัทที่ขอสติ๊กเกอร์มากขนาดนี้ กล่องของเราทุกรุ่นนำคูปองส่วนลด 690 บาท มาแลกซื้อได้หมด แต่บางรุ่นต้องเพิ่มเงินบ้าง"
นอกจากนี้ บริษัทยังทำตลาดเสาอากาศด้วย โดยมีทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งเป็น เสาอากาศในอาคาร 2 รุ่น นอกอาคาร 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 100-500 บาท ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้มากกว่า 2 ล้านชุด คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% และในปีหน้าจะมีสินค้ารุ่นใหม่ทั้งเซตท็อปบ็อกซ์และเสารับสัญญาณ รวมถึงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%ในเซตท็อปบ็อกซ์ และเสารับสัญญาณ 50%
สำหรับจุดจำหน่ายมีที่เทสโก้ โลตัส, โฮมโปร, เซเว่นอีเลฟเว่น และตัวแทนจำหน่ายของ "สามารถ" ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง
ด้าน นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด เสริมว่า ในประเทศไทยจะมีการจำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์ราว 10 ล้านกล่อง ส่วนเสารับสัญญาณอาจน้อยกว่าเล็กน้อย เพราะเสาสัญญาณเมื่อติดตั้งแล้วใช้ได้กับภาครับหลายเครื่อง แต่เซตท็อปบ็อกซ์ใช้ได้กับโทรทัศน์เครื่องเดียว คาดว่าการแข่งขันในตลาดเซตท็อปบ็อกซ์จะรุนแรงกว่า เพราะมีผู้เข้าโครงการถึง 42 บริษัท ส่วนเสาสัญญาณมีผู้ผลิตรายใหญ่ไม่ถึง 5 ราย
"ตลาดปีนี้คงแข่งกันที่ราคาและการทำโปรโมชั่น เพราะถ้าต้องการให้ผู้บริโภคซื้อได้ง่ายที่สุดก็ต้องทำราคาให้เท่ากับคูปอง ซึ่งเราก็ทำแต่โปรโมชั่นแถมเสาอากาศที่คู่แข่งหลายรายทำกันเยอะ เรายังไม่ทำเพราะไม่ทราบว่าคนที่ซื้อกล่องไปเอาไปติดที่ไหน ถ้าที่ต่างจังหวัด แต่แถมเสาในอาคารไปก็ใช้ไม่ได้ ถึงจะแถมเสาตามประเภทการใช้งานไปเลยก็มีผลกับการบริหารจัดการสต๊อก"
นายทวีคาดว่า เมื่อผู้บริโภคได้รับคูปองส่วนลด 690 บาทจาก กสทช.ครบแล้ว จะมี 80-90% นำมาแลกซื้อ ส่วนที่เหลือที่ไม่มาเพราะขาดความเข้าใจเรื่อง
การใช้งานหรืออาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากจุดรับแลก บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนดัดแปลงรถบรรทุกอเนกประสงค์ 4 ล้อ เพื่อเดินทางเป็นคาราวานไปหาผู้บริโภคในต่างจังหวัด โดยการไปแต่ละครั้งจะเตรียมสต๊อกไปราว 10,000 ชุด เพื่อให้ผู้บริโภคแลกซื้อได้ทันที
และเพื่อจูงใจผู้บริโภคมากขึ้นได้จัดโปรโมชั่นร่วมกับ "ไอโมบาย" และ "ดีแทค" โดยภายในกล่องสินค้ารุ่น Strong POP1 จะมีคูปองมูลค่า 690 บาท ให้นำไปแลกซื้อสมาร์ทโฟนไอโมบาย รุ่น IQ 6.8 DTV มูลค่า 7,990 บาท ได้ด้วย รุ่นนี้รับชมทีวีดิจิทัลได้โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งลูกค้าดีแทคที่แลกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังจะได้ส่วนลดค่าบริการ 50% นาน 12 เดือนสำหรับระบบรายเดือน และได้โทร.ฟรี 690 บาทสำหรับระบบเติมเงินถึง 31 ธ.ค.นี้ ที่ดีแทคเซอร์วิสฮอลล์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1413975003
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากเริ่มทำตลาดกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว มียอดขาย 500,000-600,000 กล่อง จากสินค้า 2 รุ่น คือ Strong และ Strong Pro ราคา 1,350 บาท และ 1,450 บาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง มูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 20%
ล่าสุดเปิดตัวกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล 3 รุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดตั้งราคาเท่ากับมูลค่าคูปองส่วนลดที่ 690 บาท ได้แก่ Strong Black ที่กล่องมีปุ่มกดเปลี่ยนช่อง/เพิ่มเสียง และรุ่น Strong White และ Strong POP1 มีระบบเสียงดอลบี้ แตกต่างกันที่สีขาวกับสีดำ ทั้ง 3 รุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานของการรับชมทีวีดิจิทัล เช่น ค้นหาสัญญาณอัตโนมัติ, มีช่องเชื่อมต่อ USB เพื่อเล่นไฟล์มัลติมีเดียและตั้งเวลาอัดรายการได้
"วัดกันที่ยอดขายของเราเดินหน้าต่อเนื่อง และแบรนด์สามารถยังการันตีเรื่องคุณภาพได้ อีกเรื่องที่วัดได้ว่าเราเป็นผู้นำคือเราทำเรื่องขอสติ๊กเกอร์อนุญาตให้จำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์จาก กสทช.ไปแล้ว 9.6 แสนใบ ใบละ 1.50 บาท เพื่อเอามาแปะที่กล่อง และจะขอเพิ่มอีก 8 แสนใบ สำหรับติดที่กล่องรุ่นใหม่ ซึ่งในตลาดมีไม่ถึง 5 บริษัทที่ขอสติ๊กเกอร์มากขนาดนี้ กล่องของเราทุกรุ่นนำคูปองส่วนลด 690 บาท มาแลกซื้อได้หมด แต่บางรุ่นต้องเพิ่มเงินบ้าง"
นอกจากนี้ บริษัทยังทำตลาดเสาอากาศด้วย โดยมีทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งเป็น เสาอากาศในอาคาร 2 รุ่น นอกอาคาร 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 100-500 บาท ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้มากกว่า 2 ล้านชุด คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% และในปีหน้าจะมีสินค้ารุ่นใหม่ทั้งเซตท็อปบ็อกซ์และเสารับสัญญาณ รวมถึงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%ในเซตท็อปบ็อกซ์ และเสารับสัญญาณ 50%
______________________________
"สามารถ" สู้ศึกเซตท็อปบ็อกซ์ ยึดราคาคูปองรับแลกถึงบ้าน
ยักษ์ "สามารถ" เพิ่มดีกรีแข่งดุ ส่ง "เซตท็อปบ็อกซ์" ทีวีดิจิทัลลงตลาด 3 รุ่นรวดตั้งราคาเท่าคูปอง 690 บาท เร่งสปีดปั๊มยอดตามเป้าเดิม 2 ล้านกล่องภายในสิ้นปี โกยมาร์เก็ตแชร์ 20% พร้อมเปิดเกมเร็ว จัด "คาราวานรถ" เดินสายรับแลกคูปองถึงบ้าน ทั้งจับมือ "ดีแทค" อัดโปรโมชั่นลดค่าบริการ 50% นาน 1 ปีดันยอดขาย "ไอโมบาย IQ-DTV"
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากเริ่มทำตลาดกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล (เซตท็อปบ็อกซ์) ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว มียอดขาย 500,000-600,000 กล่อง จากสินค้า 2 รุ่น คือ Strong และ Strong Pro ราคา 1,350 บาท และ 1,450 บาทตามลำดับ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านกล่อง มูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 20%
ล่าสุดเปิดตัวกล่องแปลงสัญญาณทีวีดิจิทัล 3 รุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดตั้งราคาเท่ากับมูลค่าคูปองส่วนลดที่ 690 บาท ได้แก่ Strong Black ที่กล่องมีปุ่มกดเปลี่ยนช่อง/เพิ่มเสียง และรุ่น Strong White และ Strong POP1 มีระบบเสียงดอลบี้ แตกต่างกันที่สีขาวกับสีดำ ทั้ง 3 รุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานของการรับชมทีวีดิจิทัล เช่น ค้นหาสัญญาณอัตโนมัติ, มีช่องเชื่อมต่อ USB เพื่อเล่นไฟล์มัลติมีเดียและตั้งเวลาอัดรายการได้
"วัดกันที่ยอดขายของเราเดินหน้าต่อเนื่อง และแบรนด์สามารถยังการันตีเรื่องคุณภาพได้ อีกเรื่องที่วัดได้ว่าเราเป็นผู้นำคือเราทำเรื่องขอสติ๊กเกอร์อนุญาตให้จำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์จาก กสทช.ไปแล้ว 9.6 แสนใบ ใบละ 1.50 บาท เพื่อเอามาแปะที่กล่อง และจะขอเพิ่มอีก 8 แสนใบ สำหรับติดที่กล่องรุ่นใหม่ ซึ่งในตลาดมีไม่ถึง 5 บริษัทที่ขอสติ๊กเกอร์มากขนาดนี้ กล่องของเราทุกรุ่นนำคูปองส่วนลด 690 บาท มาแลกซื้อได้หมด แต่บางรุ่นต้องเพิ่มเงินบ้าง"
นอกจากนี้ บริษัทยังทำตลาดเสาอากาศด้วย โดยมีทั้งหมด 7 รุ่น แบ่งเป็น เสาอากาศในอาคาร 2 รุ่น นอกอาคาร 5 รุ่น ราคาตั้งแต่ 100-500 บาท ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้มากกว่า 2 ล้านชุด คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% และในปีหน้าจะมีสินค้ารุ่นใหม่ทั้งเซตท็อปบ็อกซ์และเสารับสัญญาณ รวมถึงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 40%ในเซตท็อปบ็อกซ์ และเสารับสัญญาณ 50%
สำหรับจุดจำหน่ายมีที่เทสโก้ โลตัส, โฮมโปร, เซเว่นอีเลฟเว่น และตัวแทนจำหน่ายของ "สามารถ" ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง
ด้าน นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด เสริมว่า ในประเทศไทยจะมีการจำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์ราว 10 ล้านกล่อง ส่วนเสารับสัญญาณอาจน้อยกว่าเล็กน้อย เพราะเสาสัญญาณเมื่อติดตั้งแล้วใช้ได้กับภาครับหลายเครื่อง แต่เซตท็อปบ็อกซ์ใช้ได้กับโทรทัศน์เครื่องเดียว คาดว่าการแข่งขันในตลาดเซตท็อปบ็อกซ์จะรุนแรงกว่า เพราะมีผู้เข้าโครงการถึง 42 บริษัท ส่วนเสาสัญญาณมีผู้ผลิตรายใหญ่ไม่ถึง 5 ราย
"ตลาดปีนี้คงแข่งกันที่ราคาและการทำโปรโมชั่น เพราะถ้าต้องการให้ผู้บริโภคซื้อได้ง่ายที่สุดก็ต้องทำราคาให้เท่ากับคูปอง ซึ่งเราก็ทำแต่โปรโมชั่นแถมเสาอากาศที่คู่แข่งหลายรายทำกันเยอะ เรายังไม่ทำเพราะไม่ทราบว่าคนที่ซื้อกล่องไปเอาไปติดที่ไหน ถ้าที่ต่างจังหวัด แต่แถมเสาในอาคารไปก็ใช้ไม่ได้ ถึงจะแถมเสาตามประเภทการใช้งานไปเลยก็มีผลกับการบริหารจัดการสต๊อก"
นายทวีคาดว่า เมื่อผู้บริโภคได้รับคูปองส่วนลด 690 บาทจาก กสทช.ครบแล้ว จะมี 80-90% นำมาแลกซื้อ ส่วนที่เหลือที่ไม่มาเพราะขาดความเข้าใจเรื่อง
การใช้งานหรืออาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากจุดรับแลก บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนดัดแปลงรถบรรทุกอเนกประสงค์ 4 ล้อ เพื่อเดินทางเป็นคาราวานไปหาผู้บริโภคในต่างจังหวัด โดยการไปแต่ละครั้งจะเตรียมสต๊อกไปราว 10,000 ชุด เพื่อให้ผู้บริโภคแลกซื้อได้ทันที
และเพื่อจูงใจผู้บริโภคมากขึ้นได้จัดโปรโมชั่นร่วมกับ "ไอโมบาย" และ "ดีแทค" โดยภายในกล่องสินค้ารุ่น Strong POP1 จะมีคูปองมูลค่า 690 บาท ให้นำไปแลกซื้อสมาร์ทโฟนไอโมบาย รุ่น IQ 6.8 DTV มูลค่า 7,990 บาท ได้ด้วย รุ่นนี้รับชมทีวีดิจิทัลได้โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งลูกค้าดีแทคที่แลกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังจะได้ส่วนลดค่าบริการ 50% นาน 12 เดือนสำหรับระบบรายเดือน และได้โทร.ฟรี 690 บาทสำหรับระบบเติมเงินถึง 31 ธ.ค.นี้ ที่ดีแทคเซอร์วิสฮอลล์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1413975003
ไม่มีความคิดเห็น: