Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 ตุลาคม 2557 OPPO เปิดตัวโทรศัพท์ที่บางมาก OPPO R5 มีความหนาเพียง 4.85 มิลลิเมตร และ OPPO N3 มาพร้อมคุณสมบัติกล้อง 16 ล้านพิกเซลที่สามารถหมุนอัตโนมัติได้ 206 องศา

ประเด็นหลัก



       ขณะที่ OPPO R5 ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่บางที่สุดในโลกด้วยความหนาเพียง 4.85 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอคมชัดแบบ FullHD ผสมผสานดีไซน์สุดหรู เทคโนโลยีชั้นนำ และฟังก์ชันโดดเด่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และแม้ว่าจะบางเฉียบ แต่ประสิทธิภาพของ R5 นั้นเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็น Octa-core Qualcomm MSM8939 หรือหน้าจอ AMOLED กว้าง 5.2 นิ้วเพื่อสีและแสงที่คมชัดสูงสุด อัตราการสะท้อนต่ำ และอัตราความต่างระหว่างแสงสูงสุด


       สำหรับ OPPO N3 มาพร้อมคุณสมบัติกล้อง 16 ล้านพิกเซลที่สามารถหมุนอัตโนมัติได้ 206 องศาและสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมองด้วยฟังก์ชัน free-stop ทำให้แตกต่างจากการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามา อย่างทิวทัศน์เมืองเพียงคลิกครั้งเดียวก็สามารถถ่ายภาพคมชัดได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน โดยให้ภาพมีความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถนำภาพถ่ายไปอัดเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ได้และยังมีฟังก์ชันจับโฟกัสอัตโนมัติ เพียงเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการ กล้องจะสามารถเลื่อนโฟกัสตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ ทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอออกมาคมชัดยิ่งขึ้น





______________________________



ออปโป้จัดใหญ่เปิดตัว R5 และ N3 พร้อมกัน 2 รุ่น ชูจุดเด่นเครื่องบางสุด กล้องหมุนอัตโนมัติ




OPPO จัดงานใหญ่ที่สิงคโปร์ เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ 2 รุ่น OPPO R5 และ OPPO N3 สร้างจุดขายที่ชัดขึ้นด้านดีไซน์ ขายกลุ่มผู้รักการถ่ายภาพด้วยคุณสมบัติเด่นด้านกล้องของ N3 ที่สามารถหมุนได้อัตโนมัติ ส่วน R5 เน้นความบาง
     
       สกาย ลี ผู้จัดการทั่วไปของ OPPO ต่างประเทศ กล่าวว่า ออปโป้เชื่อว่าลูกค้าต้องการผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งการออกแบบนั้นสำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนเทคโนโลยีจากของใช้ธรรมดาให้เป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน โดยออปโป้พยายามออกแบบของใช้ธรรมดาให้กลายเป็นของที่ผู้ใช้รู้สึกรัก ด้วยความตั้งใจออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตลอดจนนำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาใส่ไว้จนได้ประจักษ์สู่สายตากลุ่มผู้ใช้ในวงกว้างมากขึ้น วันนี้จึงเป็นก้าวแห่งประวัติศาสตร์ของ OPPO เพื่อให้ผู้บริโภคให้มีคุณภาพในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของ OPPO
     
       หลังจากปี 2013 ที่ออปโป้ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่น N1 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีกล้องแบบหมุนได้ ในปี 2014 รุ่น Find7 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่สามารถถ่ายภาพคมชัดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล และระบบ VOOC นวัตกรรมชาร์ตแบตเร็วสุดถึง 4 เท่า แนวคิดเดียวกันยังถูกนำมาใช้กับโทรศัพท์รุ่นล่าสุด N3 สมาร์ทโฟนโฉมใหม่พร้อมกล้องเลนส์หมุนอัตโนมัติครั้งแรกในโลก และรุ่น R5 สมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก
     
       สำหรับ OPPO N3 มาพร้อมคุณสมบัติกล้อง 16 ล้านพิกเซลที่สามารถหมุนอัตโนมัติได้ 206 องศาและสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมองด้วยฟังก์ชัน free-stop ทำให้แตกต่างจากการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพแบบพาโนรามา อย่างทิวทัศน์เมืองเพียงคลิกครั้งเดียวก็สามารถถ่ายภาพคมชัดได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน โดยให้ภาพมีความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถนำภาพถ่ายไปอัดเป็นรูปภาพขนาดใหญ่ได้และยังมีฟังก์ชันจับโฟกัสอัตโนมัติ เพียงเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการ กล้องจะสามารถเลื่อนโฟกัสตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ ทำให้ถ่ายภาพและวิดีโอออกมาคมชัดยิ่งขึ้น
     
       วิดีโอเปิดตัว N3
     
     


     
       OPPO N3 เลือกใช้หน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 801 ที่เป็นซีพียู Quad-core RAM 2 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 32 GB หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Gorilla Glass 3 เพื่อความคมชัดและทนทานสูงสุด อีกทั้งระบบชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบ VOOC ชาร์จ 30 นาทีก็สามารถบรรจุพลังงานได้ 75% และชาร์จ 5 นาทีก็เพียงพอสำหรับการโทรศัพท์ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งระบบนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเพื่อสะดวกแก่การพกพา โดยราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 649 เหรียญสหรัฐ หรือราว 20,900 บาท
     
       วิดีโอเปิดตัว R5
     
     


     
       ขณะที่ OPPO R5 ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่บางที่สุดในโลกด้วยความหนาเพียง 4.85 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอคมชัดแบบ FullHD ผสมผสานดีไซน์สุดหรู เทคโนโลยีชั้นนำ และฟังก์ชันโดดเด่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และแม้ว่าจะบางเฉียบ แต่ประสิทธิภาพของ R5 นั้นเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็น Octa-core Qualcomm MSM8939 หรือหน้าจอ AMOLED กว้าง 5.2 นิ้วเพื่อสีและแสงที่คมชัดสูงสุด อัตราการสะท้อนต่ำ และอัตราความต่างระหว่างแสงสูงสุด
     
       "การผลิต OPPO R5 ได้ใช้เทคนิคที่เหนือชั้น เพื่อรังสรรค์โทรศัพท์ที่เหมาะกับมือของผู้ใช้ และให้ความรู้สึกที่เหนือระดับ โดยกรอบของโทรศัพท์นั้นหลอมถึง 9 ครั้งเพื่อความแข็งแกร่งและขัดด้วยมือเพื่อความเงางาม เป็นคุณภาพที่ไม่มียี่ห้อใดเทียบเท่าในปัจจุบัน"
     
       ภายใน OPPO R5 มีระบบชาร์จแบตเตอรี่เช่นเดียวกับ N3 พร้อมระบบระบายความร้อน Cool Element เพื่อปกป้องตัวเครื่องและยืดอายุการใช้งานของโทรศัพท์ให้นานขึ้น โดยราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 499 เหรียญสหรัฐ หรือราว 15,900 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย, บังกลาเทศ, อียิปต์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, มาเลเซีย, พม่า, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ไทย, อาหรับเอมิเรสต์, เวียดนาม และจีน
     
       สกาย ลี กล่าวเสริมว่า ตลาดเอเชียใต้เป็นสิ่งที่ออปโป้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มความสามารถการทำตลาดที่มากขึ้น
     
       อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ออปโป้ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเลนส์ระดับโลกอย่าง Schneider เพื่อพัฒนากล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด เทียบเท่ากล้องมืออาชีพ และยังร่วมมือกับผู้ผลิตซีพียูมือถือรายใหญ่อย่าง Qualcomm จนทำให้สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ มีหน่วยประมวลผลของ Snapdragon เป็นขุมพลังอยู่ภายใน
     
       ทั้งนี้ออปโป้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 5 ในประเทศไทย และยังมียอดขายอันดับ 4 ในประเทศเวียดนาม พร้อมทั้งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศอินโดนีเซียหลังจากเปิดตัวไปเมื่อพฤษภาคม 2013 ปัจจุบันนี้ OPPO มีส่วนแบ่งทางการตลาด 6.5% หรืออยู่ที่อันดับ 4 ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยความสามารถของผลิตภัณฑ์ที่มีความชัดเจนในแต่ละรุ่น
     
       โดยการเปิดตัว OPPO R5 และ OPPO N3 ถูกจัดขึ้นที่ Marina Bay Sands Convention Center ณ ประเทศสิงคโปร์ มีทั้งสื่อมวลชนและดีลเลอร์ได้รับเชิญเข้าร่วมงานกว่า 1,300 คนจาก 15 ประเทศ โดยหลังจากการเปิดตัวยังไม่มีการระบุถึงวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่อย่าง ขณะที่แหล่งข่าวภายในคาดว่า OPPO R5 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคมนี้สำหรับประเทศไทย แต่ OPPO N3 ยังไม่มีการระบุช่วงเวลา


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000124730

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.