Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

30 ตุลาคม 2557 TRUE.ศุภชัย ระบุ บริษัทจะลงทุนขยายบริการโทรศัพท์มือถือ 4G เป็น 60% ของพื้นที่มีประชากรอาศัย ในเดือน ก.พ.ปีหน้า ใช้เงินลงทุน 4,000 ล้านบาท เป็น 6,000-7,000 แห่ง

ประเด็นหลัก


ขณะเดียวกัน บริษัทจะลงทุนขยายบริการโทรศัพท์มือถือ 4G จากปัจจุบันครอบคลุม 25% ของพื้นที่มีประชากรอาศัยอยู่เพิ่มเป็น 60% ในเดือน ก.พ.ปีหน้า ใช้เงินลงทุน 4,000 ล้านบาท เพิ่มสถานีฐานจาก 2,000-3,000 แห่งเป็น 6,000-7,000 แห่ง ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาด 4G มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 40% จากตลาดรวมที่ 2 ล้านราย โดยเตรียมสั่งซื้อเครื่องลูกข่ายรวมกับไชน่าโมบายจะทำให้ต้นทุนถูกกว่าสั่งซื้อเอง


______________________________



ทรูเร่งเครื่องยึดผู้นำ "โมบายดาต้า" ปูพรม" 4G-บรอดแบนด์" โกยแชร์เพิ่มปั๊มรายได้โต



แม่ทัพกลุ่มทรูปักธงขยายโครงข่าย 4G ควัก 4 พันล้าน ติดตั้งสถานีฐานเพิ่ม ขีดเส้น ก.พ.ปี 2558 ครอบคลุมพื้นที่ 60% ผนึก "ไชน่าโมบาย" โรมมิ่งเครือข่ายรวบจัดซื้อเครื่องกดราคาเหลือ 2-3 พันบาท ลงตลาดพรึ่บไตรมาส 2 โกยมาร์เก็ตแชร์ 40% ยึดตำแหน่งผู้นำ "โมบายดาต้า" พร้อมเดินหน้าขยายบรอดแบนด์ทั่วประเทศท้าชนเอไอเอส ทั้งสั่งเร่งเครื่องเพิ่มฐานลูกค้า "ทรูวิชั่นส์" เจาะกลุ่มกลางถึงล่างดันรายได้ทั้งกลุ่มเติบโต

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังได้ไชน่าโมบายเป็นพันธมิตรธุรกิจ และปรับโครงสร้างทางการเงินใหม่ ทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาเทียบกับคู่แข่งแล้วอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่า เปรียบได้กับในตลาดมีผู้เล่นจริง 2 รายครึ่ง แต่ในสิบปีจากนี้จะเป็น 3 รายอย่างแท้จริงจะส่งผลต่อการแข่งขันและสภาพตลาดโดยรวม โดยบริษัทมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างการเติบโตของรายได้ และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในแต่ละธุรกิจ ทั้งโทรศัพท์มือถือ, บรอดแบนด์ และโทรทัศน์ ทั้งในเพย์ทีวี และฟรีทีวี

"สิ่งที่ต้องผลักดันต่อ คือ การสร้างการเติบโต ที่ผ่านมาลงทุนไปแล้วไม่น้อย ถ้ารายได้ไม่เพิ่มคงเหนื่อย ปีหน้าเป็นปีของการเติบโตต่อเนื่อง หลายปีที่ผ่านมาเราเจอวิกฤตหลายครั้ง ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง ถัดมาออเรนจ์ถอนตัวจากเมืองไทย ช่วงยากที่ 3 คือตอนศาลสั่งระงับประมูลคลื่น 2.1GHz ตอนนั้นมืดมนเลย ไม่รู้จะเดินต่อยังไง เพราะสัมปทานกำลังจะหมดทำให้ต้องตัดสินใจซื้อฮัทชิสัน แม้ความเสี่ยงสูงมาก แต่ก็ผ่านมาได้ จากนี้เป็นยุคที่ดีของทรู ซึ่งมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ"

ความร่วมมือกับไชน่าโมบายที่จะเห็นก่อน คือการโรมมิ่งบริการโทรศัพท์มือถือระหว่างประเทศจีนกับไทย ด้วยการนำเสนอแพ็กเกจพิเศษให้ลูกค้าไชน่าโมบายที่เดินทางมาประเทศไทย คาดว่าจะเริ่มได้ปลายปีนี้ ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยประมาณ 7 ล้านคน ในจำนวนนี้ 60% ใช้ไชน่าโมบาย

"สิบปีจากนี้ แลนด์สเคปของตลาดเปลี่ยนแน่ เราจะกินส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ถึงกับฮวบฮาบ ในมือถือเราแข่งกับเอไอเอสและดีแทค ในบรอดแบนด์แข่งกับทีโอที, 3 บีบี ล่าสุดเอไอเอสและดีแทคกำลังจะเข้ามา จริง ๆ ควรแบ่งโซนกันไปสร้างประเทศจะได้เจริญ ต่อไปผู้บริโภคจะซื้อแบนด์วิดท์ไม่สำคัญว่าจะเป็นไวร์เลสหรือฟิกซ์ไลน์ ปีหน้าจะเป็นปีที่เมืองไทยเข้าสู่ยุคโมบายคัลเจอร์อย่างแท้จริง"

ขณะเดียวกัน บริษัทจะลงทุนขยายบริการโทรศัพท์มือถือ 4G จากปัจจุบันครอบคลุม 25% ของพื้นที่มีประชากรอาศัยอยู่เพิ่มเป็น 60% ในเดือน ก.พ.ปีหน้า ใช้เงินลงทุน 4,000 ล้านบาท เพิ่มสถานีฐานจาก 2,000-3,000 แห่งเป็น 6,000-7,000 แห่ง ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาด 4G มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 40% จากตลาดรวมที่ 2 ล้านราย โดยเตรียมสั่งซื้อเครื่องลูกข่ายรวมกับไชน่าโมบายจะทำให้ต้นทุนถูกกว่าสั่งซื้อเอง

"เดือน ก.ย.ที่ผ่านมาเดือนเดียว ไชน่าโมบายขาย 4G ไป 10 ล้านเครื่อง มีฐานลูกค้ารวม 50-60 ล้านราย ราคาเครื่อง 4G จะลงมาอยู่ในระดับที่คนส่วนใหญ่ซื้อมาใช้ได้ที่ราคา 2-3 พันบาท ต่อไปคนจะมี 4G ใช้กันแพร่หลาย ปีหน้าจะเป็นการเทกออฟของ 4G จริง ๆ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ยุค 4G ควบคู่ไปกับ 3G ผู้บริโภคเข้าสู่ยุคที่เรียกว่าโมบายคัลเจอร์ เพราะมือถือเข้าทั้งไวไฟ เข้าทั้ง 3G และ 4G เมื่อโมบายคัลเจอร์ก้าวเข้ามา สมาร์ทดีไวซ์จะมีคนใช้เพิ่มขึ้นมาก ตัววัดการเติบโตตัวใหม่น่าจะเป็นจำนวนคนใช้สมาร์ทดีไวซ์เทียบประชากรใน ประเทศ ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30%"

นอกจากนี้ ยังจะเร่งขยายพื้นที่บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั้งบนเทคโนโลยี FTTx และ Docsis เพื่อให้เข้าถึงครัวเรือนทั่วประเทศมากขึ้น โดย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2557 ทรูออนไลน์มีฐานลูกค้า 1.9 ล้านราย ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 2.2 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนฐานลูกค้ามือถืออยู่ที่ 18-19 ล้านบาท เป็นระบบ 3G และ 4G บนคลื่น 850 MHz และ 2.1 GHz ไม่รวมลูกค้าทรูมูฟ 4 ล้านกว่าราย ในระบบ 2G ความถี่ 1800 GHz ที่ยังโอนย้ายมาไม่หมด

"กำไรเป็นครั้งแรกของกลุ่มทรูจะได้เห็นไตรมาส 4 ปีนี้ เพราะ 2G เราตัดค่าเสื่อมไปหมดแล้วในไตรมาส 3 ทำให้ไตรมาส 4 กำไรแน่ ๆ ทั้งจะทำให้ผลประกอบการทั้งปีเป็นอย่างไรคงต้องดูกันอีกที ในแง่การแข่งขันต่อไปจะเป็นยุคของการแข่งขันที่แท้จริง ในแง่ความแข็งแรง เราคงยังไม่เท่าเอไอเอส แต่ไม่แพ้ดีแทคแน่"

นายศุภชัยกล่าวถึงธุรกิจ โทรทัศน์ด้วยว่า ในฟรีทีวีดิจิทัลจะมีการปรับปรุงรายการใหม่เพื่อทำให้เรตติ้งดีขึ้น คาดว่าจะปรับปรุงเสร็จภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมจะให้เสร็จในไตรมาส 3 แต่ไม่ทัน ตั้งเป้าต้องการเป็นที่หนึ่งในเชิงเรตติ้งในฟรีดิจิทัลทีวีภายใน 6 เดือน ไม่นับรวมช่อง 3 และช่อง 7 แต่ถ้ารวมด้วยขอเป็นที่ 3 ตนเชื่อว่าเจ้าอื่นก็ตั้งเป้าไว้เหมือนกัน แต่จะทำได้แค่ไหนเป็นอีกเรื่อง

ส่วนธุรกิจเพย์ทีวีหรือโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกรายเดือน "ทรูวิชั่นส์" ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มระดับกลางถึงล่างมากขึ้น เพราะลูกค้ากลุ่มบนมีเยอะอยู่แล้วกว่า 4 แสนราย จากฐานลูกค้ารวม 2 ล้านกว่าราย เนื่องจากกล่องรับสัญญาณเทคโนโลยี MPEG 4 มีราคาถูกลงเยอะมาก เหลือแค่พันกว่าบาท ทำให้คนสามารถซื้อมาใช้ได้

ขณะที่ช่องรายการความคมชัดสูง (เอชดี) ก็มากขึ้น บนระบบดาวเทียมไปถึง 40 ช่อง, เคเบิล 50 ช่อง และในไตรมาาสแรกปีหน้าจะไปถึง 80 ช่อง

"เพย์ทีวีในบ้านเราควรจะมีไม่ต่ำกว่า 50% เทียบกับครัวเรือนในประเทศ หรือประมาณสิบล้านครัวเรือน แต่คงเป็นไปในลักษณะที่เรียกว่าค่อยเป็นค่อยไป

ตอนนี้เฉพาะทรูวิชั่นส์มีลูกค้า 2.4-2.5 ล้าน มีเคเบิลท้องถิ่นอีก 2.5 รวมกันแล้วทั้งตลาดมี 5 ล้าน ดังนั้น มีอีก 5 ล้านที่ไปต่อได้ โดยมีกล่องที่ราคาถูกลง ทีวีถูกลง ช่องเอชดีที่มากขึ้นเป็นตัวขับเคลื่อน อีกตัวคืออินเตอร์แอ็กทีฟ และออนดีมานด์คอนเทนต์ทีวียุคใหม่ต้องอินเตอร์แอ็กทีฟ กลายเป็นโฮมคอมพิวเตอร์ เหมือนมือถือที่ไปสมาร์ทโฟน และเป็นเพอร์ซั่นนอลคอมพิวเตอร์"



http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1414648511

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.