Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

04 พฤศจิกายน 2557 Aconatic.อานนท์ ระบุ คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 -มกราคม 2558 ตลาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะคึกคักและเริ่มแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ซึ่งหลังจากช่วงนั้นจึงจะสามารถประเมินภาพรวมได้

ประเด็นหลัก


    ปัจจุบันแม้ภาพรวมการแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ เนื่องจากมองว่ากลุ่มประชาชนโดยเฉพาะเจ้าบ้านที่มีสิทธิ์ได้รับแจกคูปองทีวีดิจิตอลและนำมาแลกนั้น ส่วนใหญ่มีอายุค่อนข้างเยอะและยังไม่เข้าใจช่วงการเปลี่ยนผ่านหรือการใช้กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลดีเท่าที่ควร ประกอบกับประชาชนอีกส่วนหนึ่งมีการรอโปรโมชัน และกิจกรรมการตลาดต่างๆที่ผู้ประกอบการแต่ละเจ้าจะออกมาแข่งขันกันในตลาดจึงยังรอดูความเคลื่อนไหวอยู่ โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 -มกราคม 2558 ตลาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะคึกคักและเริ่มแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ซึ่งหลังจากช่วงนั้นจึงจะสามารถประเมินภาพรวมได้ดีกว่า ขณะที่กล่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเข้ามาแลกในคือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่สามารถรับแลกจากคูปองทีวีดิจิตอลมูลค่า 690 บาทได้ทันที
    "มองว่าจากจำนวนคูปองทีวีดิจิตอลที่ทางกสทช.ออกมาในเฟสแรกจำนวน 4 ล้านใบ ประกอบกับที่มียอดตกค้างคงเหลืออยู่ 8-9 แสนใบในปัจจุบัน หากเทียบกับจำนวนยอดขายของบริษัทที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4-5 แสนกล่องนั้น นับว่ายังมีคนมารับแลกต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากบางส่วนยังคงรอดูสถานการณ์อยู่"








______________________________



กล่องทีวีดิจิตอลยอดแป้ก แข่งลดต้นทุน/อัดโปรล่อใจระลอกใหม่





 จับกระแสกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลคึกคัก แต่ยอดไม่เข้าเป้า "อะโคเนติค"  นำโด่ง 10 วันกวาดยอดขาย 4-5 แสนกล่อง เผยยอดแลกคูปองต่ำเหตุยังไม่เข้าใจระบบเปลี่ยนผ่าน เล็งอัดโปรโมชันระลอก 2 ขณะที่ "MCOT" ปาดเหงื่อโกยยอดได้ครึ่งทาง เดินหน้าทุ่มงบแจกรถยนต์ล่อใจ ด้าน "GMM" ทำใจฝุ่นตลบ แข่งลดต้นทุน ล่าสุดผนึกบิ๊กล็อกซเล่ย์  เปิดตัว "จีเอ็มเอ็ม แซท ซีซั่น บาย ล็อกซเล่ย์"  วางขาย 1 พ.ย. นี้
    altนายอานนท์ บัวดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮไฟโอเรียนท์ไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ "อะโคเนติค"  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาพรวมการแข่งขันในตลาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลยังคงค่อนข้างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ที่ 4-5 แสนกล่อง และครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 15% และตั้งเป้ายอดขายในช่วงสิ้นปีไว้ที่จำนวน 7-8 แสนกล่อง ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมโปรโมชัน และกิจกรรมทางการตลาดออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย
    ปัจจุบันแม้ภาพรวมการแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ เนื่องจากมองว่ากลุ่มประชาชนโดยเฉพาะเจ้าบ้านที่มีสิทธิ์ได้รับแจกคูปองทีวีดิจิตอลและนำมาแลกนั้น ส่วนใหญ่มีอายุค่อนข้างเยอะและยังไม่เข้าใจช่วงการเปลี่ยนผ่านหรือการใช้กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลดีเท่าที่ควร ประกอบกับประชาชนอีกส่วนหนึ่งมีการรอโปรโมชัน และกิจกรรมการตลาดต่างๆที่ผู้ประกอบการแต่ละเจ้าจะออกมาแข่งขันกันในตลาดจึงยังรอดูความเคลื่อนไหวอยู่ โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 -มกราคม 2558 ตลาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลจะคึกคักและเริ่มแข่งขันกันรุนแรงขึ้น ซึ่งหลังจากช่วงนั้นจึงจะสามารถประเมินภาพรวมได้ดีกว่า ขณะที่กล่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเข้ามาแลกในคือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่สามารถรับแลกจากคูปองทีวีดิจิตอลมูลค่า 690 บาทได้ทันที
    "มองว่าจากจำนวนคูปองทีวีดิจิตอลที่ทางกสทช.ออกมาในเฟสแรกจำนวน 4 ล้านใบ ประกอบกับที่มียอดตกค้างคงเหลืออยู่ 8-9 แสนใบในปัจจุบัน หากเทียบกับจำนวนยอดขายของบริษัทที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4-5 แสนกล่องนั้น นับว่ายังมีคนมารับแลกต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากบางส่วนยังคงรอดูสถานการณ์อยู่"
    ขณะเดียวกันบริษัทยังได้เตรียมแผนการตลาดรองรับหลังจากที่ตลาดกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลเริ่มชะลอกระแส หรือมาถึงจุดอิ่มตัว ด้วยการเตรียมพร้อมเรื่องบริการหลังการขาย การสร้างแบรนด์ระยะยาว เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ นอกเหนือจากเรื่องคุณภาพของสินค้า โดยปัจจุบันบริษัทมีศูนย์บริการหลังการขายครบใน 77 จังหวัด ซึ่งหากทางกสทช.ขยายเฟสการรับชมสัญญาณทีวีดิจิตอลไป บริษัทก็พร้อมรองรับในทันที
    นอกจากนี้ภายหลังจากที่คูปองทีวีดิจิตอลหมดการรับแลกไป บริษัทยังได้เตรียมการทำตลาดควบคู่กันระหว่างกล่องเซ็ต ท็อปส์ บ็อกซ์ ของอะโคเนติค และทีวีในระบบอะนาล็อก แบรนด์อะโคเนติค ออกมาทำโปรโมชันพิเศษเพื่อรองรับตลาดในช่วงดังกล่าวด้วย
    อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้เตรียม นำดิจิตอล ทีวี จูนเนอร์ บิ้วอิน เข้ามาวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน ขนาด 40 นิ้ว จำนวน 1 รุ่น ,ขนาด 24 นิ้ว 1 รุ่น,ขนาด 32 นิ้ว 1 รุ่น,ขนาด 55 นิ้ว 1 รุ่น ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 5,990-39,990 บาท จากปัจจุบันที่บริษัทมี  ดิจิตอล ทีวี จูนเนอร์ บิ้วอิน วางจำหน่ายอยู่แล้วในขนาด 32 นิ้ว จำนวน 2 รุ่น ซึ่งทีวีดิจิตอลทั้งหมดของบริษัทนั้นอยู่ในระหว่างยื่นขออนุญาตโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบทีวีดิจิตอลจากทางกสทช. โดยคาดว่าจะสามารถได้รับสติกเกอร์ในอีก 1 เดือนข้างหน้า และพร้อมให้ประชาชนเข้ารับแลกได้ทันที
    สำหรับภาพรวมการรับแลกคูปองทีวีดิจิตอลในส่วนของตลาดทีวีนั้น มองว่า จะยังคงไม่สามารถเห็นการแข่งขันได้ชัดเจนนัก เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาต นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าดิจิตอล ทีวี จูนเนอร์ บิ้วอิน ที่จะได้รับความนิยมในการแลกคือในรุ่นขนาด 24 นิ้ว ในราคาที่ไม่เกิน 7-8 พันบาท เนื่องจากหากนับมูลค่าราคากับส่วนลด 690 บาทแล้ว มีความคุ้มค่าคุ้มราคาในส่วนลดมากกว่า ทีวีที่มีราคาหลักหมื่นบาทขึ้นไป จึงทำให้บริษัทเตรียมโฟกัสการทำตลาดไปยังทีวีในรุ่นดังกล่าว
    นางสาวบุษบา ศรีรัตนากร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ผู้จำหน่ายกล่องรับสัญญาณ "MCOT" กล่าวว่า  บริษัทเริ่มวางขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือกล่องเซ็ต ท็อป บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา  ขณะนี้มียอดขายกล่องรวมทั้ง 3 รุ่น คือ Curve , View และ Play ประมาณ 5 หมื่นกล่อง  ยังไม่นับรวมยอดขายผ่านโครงการของการเคหะฯ อีกกว่า 5 หมื่นกล่อง และตัวแทนจำหน่ายที่จังหวัดเชียงใหม่อีกประมาณ 1.5 - 2 แสนกล่อง โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายกล่องรวมทั้งสิ้น 6 แสนกล่องในสิ้นปีนี้  อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือคิดเป็นมูลค่ายอดขายกล่องไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
    "สำหรับช่องทางการกระจายกล่องของอสมท. มีอยู่ 3 ช่องทาง คือ 1.ตามห้างหรือร้านค้าโมเดิร์นเทรด  2. ศูนย์วิทยุตามภูมิภาคต่างๆ  3.จัดกิจกรรมการตลาดผ่านหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ  ขณะเดียวกันเป้าหมายยอดขายกล่องที่บริษัทตั้งไว้จะเป็นไปตามเป้าแน่นอน    ขณะเดียวกันบริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดโดยการอัดแคมเปญ แจกรถยนต์ และแจกทอง สำหรับผู้ที่ซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ด้วยงบประมาณที่เตรียมไว้กว่า 40 ล้านบาท"
    ด้านภาพรวมการแข่งขันของตลาดกล่องทีวีดิจิตอลขณะนี้ค่อนข้างแข่งขันกันอย่างดุเดือด  เมื่อย้อนไปในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้คาดการณ์ว่ากสทช.จะแจกคูปองมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 พันบาท แต่สุดท้ายแล้วผลสรุปออกมาว่าคูปองดังกล่าวมีมูลค่า 690 บาทเท่านั้น ส่งผลให้บริษัทต้องเร่งปรับแผนการตลาดและผลิตกล่องอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมได้  ขณะเดียวกันบริษัทต้องยอมรับว่าการขายกล่องเป็นธุรกิจที่ไม่มีกำไรมาก  แต่เป็นการโปรโมตแบรนด์มากกว่า  อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถรับฟังปัญหาเบื้องต้นของประชาชนในภูมิภาคต่างๆได้ในเรื่องของการรับชม  เพราะบริษัทก็มีอีกหนึ่งธุรกิจคือผู้ให้บริการเช่าโครงข่ายสัญญาณ
    ด้านนายเดียว วรตั้งตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฝุ่นตลบของผู้ประกอบการที่ขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล  ทุกค่ายพยายามชิงส่วนแบ่งการตลาดโดยลดต้นทุนของตัวเองเพื่อแข่งขันในตลาด  ซึ่งการขายสินค้าดังกล่าวต้องอาศัยการเจาะตลาดโดยผ่านร้านค้าต่างๆ และต้องมีส่วนแบ่งให้กับร้านค้าปลีกนั้นๆ แต่สิ่งสำคัญที่ร้านค้าเหล่านี้จะได้จากการลดต้นทุนของตัวเองคือการโปรโมตแบรนด์ ให้ผู้บริโภคได้จดจำ และมีโอกาสไปแย่งส่วนแบ่งในตลาด ขณะที่ในมุมของแกรมมี่ก็ได้โอกาสจากการขายกล่อง คือสร้างการจดจำแบรนด์ของลูกค้า ขณะเดียวกันมองว่าพฤติกรมของลูกค้าในปัจจุบันที่ติดกล่องดาวเทียมหรือเคเบิ้ลอยู่แล้ว ต้องมี 1 ใน 2 ที่มีโอกาสเปลี่ยนกล่อง หรือแลกซื้อกล่องไว้ใช้เพิ่มเติม
    "การแจกคูปองถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสร้างเทรนด์ใหม่ให้กับผู้ชมที่จะได้เรียนรู้ไปกับเทคโนโลยีทีวีดิจิตอล ขณะเดียวกันการรับชมของผู้ชมที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยรับชมโทรทัศน์ความคมชัดระบบสแตนดาร์ด ก็จะหันมาเปลี่ยนสู่การรับชมแบบความคมชัดสูง(HD) แทน
    นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ผลิตกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลภายใต้แบรนด์ จีเอ็มเอ็ม แซท ซีซั่น บาย ล็อกซเล่ย์ ออกสู่ตลาดในราคา 999 บาท พร้อมแถมเสาอากาศ indoor มูลค่า 300 บาท โดยประชาชนที่ได้รับคูปองจากกสทช.แล้วจะสามารถแลกซื้อได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป  ตามจุดแลกซื้อต่างๆ อาทิ เทสโก้โลตัส  สถานีรถไฟฟ้า BTS ไอที ซิตี้ และร้านค้าดาวเทียมต่างๆ เป็นต้น  ขณะเดียวกันในเฟสแรกของการแจกคูปองกว่า 4 ล้านใบบริษัทคาดว่าการขายกล่องครั้งนี้จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 10% ของคูปองทั้งหมด
    ขณะที่บรรยากาศการแลกคูปองดิจิตอล ที่ Power Mall ซึ่งมีขึ้นที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา , ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอนซึ่งผ่านไป 11 วันแล้ว พบว่า ได้รับการตอบรับมีลูกค้านำคูปองมาแลกรับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้  โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นลูกค้าที่นำคูปองมาแลกกล่องทีวีดิจิตอลที่มีมูลค่า 690 บาทพอดีไม่เพิ่มเงิน และกล่องทีวีดิจิตอลที่ยอดขายสูงสุดได้แก่ กล่องทีวีดิจิตอล แบรนด์ Aconatic ราคา 690 บาท ซึ่งปัจจุบันยังมีลูกค้ามาแลกอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่หนาแน่นเท่ากับในช่วงสัปดาห์แรกของการเริ่มแลกรับคูปอง โดยลูกค้าที่นำคูปองมาแลกรับกล่องทีวีดิจิตอล จะได้รับโปรโมชันพิเศษ รับฟรี คูปอง Food court มูลค่า 100 บาท ใช้รับประทานอาหารที่ Food court คืนความสุขให้อีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=252490:2014-10-31-06-56-01&catid=106:-marketing&Itemid=456#.VFiS8IdAeuw

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.