Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

12 พฤศจิกายน 2557 ตัวแทนสถานีเสียงธรรมอุดรธานียื่นฟ้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน กสทช. ชี้ เตะถ่วงใบอนุญาตตั้ง 13 สถานี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553

ประเด็นหลัก


     
       ทั้งนี้ เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินทั้ง 3 หน่วยงาน เพิกเฉยในการพิจารณาใบอนุญาตของสถานีวิทยุจำนวน 13 สถานีของผู้ฟ้องคดี ที่ได้ยื่นไปให้พิจารณาอนุญาตตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 พร้อมกันนี้ได้ส่งคืนคำขออนุญาตสถานีวิทยุของผู้ฟ้องคดีทั้ง 13 สถานี โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดียื่นขออนุญาตหลังเดือนเมษายน 2553 จึงไม่เข้าข่ายในการพิจารณา ซึ่งกรณีมีสถานีวิทยุหลายแห่งได้ยื่นคำขออนุญาตหลังเดือนเมษายน 2553 แต่ก็ได้รับการพิจารณา
   


______________________________







วิทยุเสียงธรรมพึ่งศาลปกครองร้อง กสทช.เตะถ่วงใบอนุญาตตั้ง 13 สถานี





อุดรธานี - ตัวแทนสถานีเสียงธรรมอุดรธานียื่นฟ้องศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินคณะกรรมการ กสทช., กสท. และสำนักงาน กสทช. เหตุเพิกเฉยไม่ยอมพิจารณาคำขอใบอนุญาตสถานีวิทยุเสียงธรรม 13 สถานี ที่เคยยื่นไว้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2553
     
       วันนี้ (11 พ.ย.) ที่หน้าศาลปกครองจังหวัดอุดรธานี นายพงศธร ศิริรัตน์ ตัวแทนสถานีวิทยุเสียงธรรมอุดรธานี พร้อมด้วยญาติธรรมประมาณ 100 คน และพระภิกษุสายวัดป่าบ้านตาดเกือบ 70 รูป เดินทางมาชุมนุมเพื่อขอยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดอุดรธานีต่อ 3 หน่วยงาน คือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ถูกร้องที่ 1, คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ผู้ถูกร้องที่ 2 และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ผู้ถูกร้องที่ 3
     
       ทั้งนี้ เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินทั้ง 3 หน่วยงาน เพิกเฉยในการพิจารณาใบอนุญาตของสถานีวิทยุจำนวน 13 สถานีของผู้ฟ้องคดี ที่ได้ยื่นไปให้พิจารณาอนุญาตตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 พร้อมกันนี้ได้ส่งคืนคำขออนุญาตสถานีวิทยุของผู้ฟ้องคดีทั้ง 13 สถานี โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดียื่นขออนุญาตหลังเดือนเมษายน 2553 จึงไม่เข้าข่ายในการพิจารณา ซึ่งกรณีมีสถานีวิทยุหลายแห่งได้ยื่นคำขออนุญาตหลังเดือนเมษายน 2553 แต่ก็ได้รับการพิจารณา
     
       กรณีดังกล่าวก็สามารถนำมาใช้กับสถานีวิทยุของผู้ฟ้องคดีได้ ทั้งนี้ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินและให้ความคุ้มครองชั่วคราวแก่ผู้ฟ้องคดี และขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทำหน้าที่ให้สอดคล้องกับหลักกฎหมาย
     
       1. ขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวแก่ผู้ร้องคดี ก่อนการพิพากษาเพื่อให้ผู้ร้องคดีได้รับความคุ้มครองก่อนการพิพากษา
     
       2. ขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือคำพิพากษาให้ผู้ที่ถูกร้องคดี มีมาตรการหรือมีคำสั่งทางปกครองใดๆ ที่ส่งเสริมความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ใช้ในการกระจายเสียง และยังต้องจัดให้ประชาชน หมายความรวมผู้ที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตด้วย ให้ได้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประโยชน์สาธารณะ และไม่แสวงหากำไรในทางธุรกิจในการประกอบการบริการชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของคลื่นความถี่ในแต่ละพื้นที่ ของการประกอบการอนุญาตประกอบการกิจการ ตามหน้าที่ที่ผู้ถูกร้องคดีจะต้องปฏิบัติตามที่บัญญัติเอาไว้ในกฎหมาย
     
       และ 3. ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีรับพิจารณาคำขออนุญาต และออกใบอนุญาตประกอบกิจการของสถานีวิทยุในเครือข่ายของผู้ฟ้องคดีทั้ง 11 สถานี ที่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ยอมรับพิจารณา


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000130015&Keyword=%A1%CA%B7

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.