17 พฤศจิกายน 2557 Garmin Thailand ระบุ แนวโน้มของตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้น และสินค้าเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่งผลให้การ์มินต้องมีการขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น
ประเด็นหลัก
ขณะเดียวกัน เมื่อแนวโน้มของตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้น และสินค้าเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่งผลให้การ์มินต้องมีการขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางที่เป็นโมเดิร์นช็อป และร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทาง ซึ่งผู้ที่ไปซื้อจะมีเป้าหมายชัดเจน
โดย 4 ผลิตภัณฑ์เด่นที่นำมารุกในตลาดไลฟ์สไตล์ช่วงไตรมาสสุดท้าย ประกอบไปด้วย วีโว่ สมาร์ท (Vivo Smart) ที่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ทำหน้าที่ในการวัดก้าวเดิน บอกเวลา โดยพัฒนาขึ้นมาเป็นหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ในราคา 6,590 บาท
ถัดมาคือ ฟอร์รันเนอร์ 920 เอ็กซ์ที (Forerunner 920XT) ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ในกลุ่ม Wearable Device สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง เพราะสามารถบอกระยะทาง ความเร็ว การเผาผลาญแคลอรี่ คำนวนอัตราการใช้ออกซิเจน ระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น รวมไปถึงสามารถใช้เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในการบันทึกข้อมูลต่างๆ วางจำหน่ายช่วงเดือนธันวาคม
______________________________
การ์มินยิ้ม ตลาดอุปกรณ์เสริมสุขภาพโต 300%
การ์มิน รับความสำเร็จตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ ทั้งอุปกรณ์ Wearable Device ในรูปแบบของการนับก้าว อุปกรณ์เสริมสำหรับนักวิ่ง และนักปั่นจักรยาน เร่งเครื่องขยายฐานผลิตภัณฑ์เพิ่มอีก 7 รุ่น ส่งท้ายปี
นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี กล่าวว่า การที่การ์มินหันมาให้ความสำคัญกับตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ ถือเป็นทิศทางที่ดีเพราะจากข้อมูลในการสำรวจลาสุดพบว่าตลาด Wearable Device ในประเทศไทยเติบโตกว่า 160% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
“ในตลาดโลกมีข้อมูลจาก CNBC ระบุว่า กลุ่ม Wearable Device มีการเติบโตกว่า 350% ด้วยจำนวนกว่า 8 ล้านชิ้น และเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวก็จะเข้ามาในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน เพราะจากการที่การ์มินจำหน่ายอุปกรณ์เสริมเหล่านี้แม้ยังไม่ถึงสิ้นปีแต่ก็มีอัตราการเติบโตกว่า 300% แล้ว”
สิ่งที่ทำให้ตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือ การจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ อย่างการวิ่งมาราธอน มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 170% ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในกลุ่มของการขี่จักรยาน จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 5 พันล้านบาท จะมีกลุ่มที่จักรยานราคาสูงกว่า 50,000 บาท ราว 1,250 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
โดยการ์มินเริ่มทำตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสุขภาพแบบจริงจังตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีก่อนมีอัตราการเติบโตกว่าเท่าตัว และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีการเติบโตถึง 330% และสร้างรายได้ให้กับการ์มินเป็นสัดส่วนกว่า 30% จากปีที่ผ่านมา 20% ที่เหลือจะเป็นอุปกรณ์นำทางภายในรถยนต์
“การ์มินเรียกตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสุขภาพรวมเป็นสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นถึง 50% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า แต่ผลิตภัณฑ์หลักของการ์มินยังคงเป็นเรื่องของอุปกรณ์นำทางอยู่เช่นเดิม เพราะถือเป็นตลาดที่อยู่ตัวแล้ว”
ขณะเดียวกัน เมื่อแนวโน้มของตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้น และสินค้าเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่งผลให้การ์มินต้องมีการขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางที่เป็นโมเดิร์นช็อป และร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทาง ซึ่งผู้ที่ไปซื้อจะมีเป้าหมายชัดเจน
โดย 4 ผลิตภัณฑ์เด่นที่นำมารุกในตลาดไลฟ์สไตล์ช่วงไตรมาสสุดท้าย ประกอบไปด้วย วีโว่ สมาร์ท (Vivo Smart) ที่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ทำหน้าที่ในการวัดก้าวเดิน บอกเวลา โดยพัฒนาขึ้นมาเป็นหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ในราคา 6,590 บาท
ถัดมาคือ ฟอร์รันเนอร์ 920 เอ็กซ์ที (Forerunner 920XT) ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ในกลุ่ม Wearable Device สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง เพราะสามารถบอกระยะทาง ความเร็ว การเผาผลาญแคลอรี่ คำนวนอัตราการใช้ออกซิเจน ระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น รวมไปถึงสามารถใช้เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในการบันทึกข้อมูลต่างๆ วางจำหน่ายช่วงเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ ก็จะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ขี่จักรยานด้วย EDGE 1000 ที่เป็นทั้งระบบแผนที่นำทางจักรยาน ที่สามารถเชื่อมต่อกับที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดรอบขา เพื่อนำมาคำนวนความเร็ว ระยะทาง ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในการนำข้อมูลไปวิเคราะห์กับนักปั่นรายอื่น หรือแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก วางจำหน่ายในราคา 23,400 บาท
สุดท้ายอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งในรถยนต์ Garmin Driving Recorder GDR45 ที่เป็นกล้องติดหน้ารถสามารถบันทึกภาพความละเอียดสูง Full HD ยังสามารถบันทึกข้อมูลแผนที่ ค่าพิกัด เวลา ความเร็ว ผ่านการแสดงข้อมูลบนพีซี ระบบเตือนเมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป และคุณสมบัติในการบันทึกภาพขณะจอดรถ โดยต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวรอบตัวรถ และสั่งให้กล้องบันทึกภาพอัตโนมัติ ในราคา 8,200 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะทยอยเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131420
ขณะเดียวกัน เมื่อแนวโน้มของตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้น และสินค้าเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่งผลให้การ์มินต้องมีการขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางที่เป็นโมเดิร์นช็อป และร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทาง ซึ่งผู้ที่ไปซื้อจะมีเป้าหมายชัดเจน
โดย 4 ผลิตภัณฑ์เด่นที่นำมารุกในตลาดไลฟ์สไตล์ช่วงไตรมาสสุดท้าย ประกอบไปด้วย วีโว่ สมาร์ท (Vivo Smart) ที่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ทำหน้าที่ในการวัดก้าวเดิน บอกเวลา โดยพัฒนาขึ้นมาเป็นหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ในราคา 6,590 บาท
ถัดมาคือ ฟอร์รันเนอร์ 920 เอ็กซ์ที (Forerunner 920XT) ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ในกลุ่ม Wearable Device สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง เพราะสามารถบอกระยะทาง ความเร็ว การเผาผลาญแคลอรี่ คำนวนอัตราการใช้ออกซิเจน ระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น รวมไปถึงสามารถใช้เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในการบันทึกข้อมูลต่างๆ วางจำหน่ายช่วงเดือนธันวาคม
______________________________
การ์มินยิ้ม ตลาดอุปกรณ์เสริมสุขภาพโต 300%
การ์มิน รับความสำเร็จตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ ทั้งอุปกรณ์ Wearable Device ในรูปแบบของการนับก้าว อุปกรณ์เสริมสำหรับนักวิ่ง และนักปั่นจักรยาน เร่งเครื่องขยายฐานผลิตภัณฑ์เพิ่มอีก 7 รุ่น ส่งท้ายปี
นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี กล่าวว่า การที่การ์มินหันมาให้ความสำคัญกับตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ ถือเป็นทิศทางที่ดีเพราะจากข้อมูลในการสำรวจลาสุดพบว่าตลาด Wearable Device ในประเทศไทยเติบโตกว่า 160% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
“ในตลาดโลกมีข้อมูลจาก CNBC ระบุว่า กลุ่ม Wearable Device มีการเติบโตกว่า 350% ด้วยจำนวนกว่า 8 ล้านชิ้น และเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวก็จะเข้ามาในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน เพราะจากการที่การ์มินจำหน่ายอุปกรณ์เสริมเหล่านี้แม้ยังไม่ถึงสิ้นปีแต่ก็มีอัตราการเติบโตกว่า 300% แล้ว”
สิ่งที่ทำให้ตลาดอุปกรณ์เสริมเพื่อสุขภาพ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือ การจัดแข่งขันกีฬาต่างๆ อย่างการวิ่งมาราธอน มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นกว่า 170% ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ในกลุ่มของการขี่จักรยาน จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 5 พันล้านบาท จะมีกลุ่มที่จักรยานราคาสูงกว่า 50,000 บาท ราว 1,250 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
โดยการ์มินเริ่มทำตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสุขภาพแบบจริงจังตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีก่อนมีอัตราการเติบโตกว่าเท่าตัว และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีการเติบโตถึง 330% และสร้างรายได้ให้กับการ์มินเป็นสัดส่วนกว่า 30% จากปีที่ผ่านมา 20% ที่เหลือจะเป็นอุปกรณ์นำทางภายในรถยนต์
“การ์มินเรียกตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับสุขภาพรวมเป็นสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ซึ่งเชื่อว่าในอนาคต จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นถึง 50% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า แต่ผลิตภัณฑ์หลักของการ์มินยังคงเป็นเรื่องของอุปกรณ์นำทางอยู่เช่นเดิม เพราะถือเป็นตลาดที่อยู่ตัวแล้ว”
ขณะเดียวกัน เมื่อแนวโน้มของตลาดในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้น และสินค้าเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่งผลให้การ์มินต้องมีการขยายตลาดออกไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านทั้งช่องทางที่เป็นโมเดิร์นช็อป และร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทาง ซึ่งผู้ที่ไปซื้อจะมีเป้าหมายชัดเจน
โดย 4 ผลิตภัณฑ์เด่นที่นำมารุกในตลาดไลฟ์สไตล์ช่วงไตรมาสสุดท้าย ประกอบไปด้วย วีโว่ สมาร์ท (Vivo Smart) ที่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ทำหน้าที่ในการวัดก้าวเดิน บอกเวลา โดยพัฒนาขึ้นมาเป็นหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ในราคา 6,590 บาท
ถัดมาคือ ฟอร์รันเนอร์ 920 เอ็กซ์ที (Forerunner 920XT) ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ในกลุ่ม Wearable Device สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง เพราะสามารถบอกระยะทาง ความเร็ว การเผาผลาญแคลอรี่ คำนวนอัตราการใช้ออกซิเจน ระยะเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น รวมไปถึงสามารถใช้เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพในการบันทึกข้อมูลต่างๆ วางจำหน่ายช่วงเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ ก็จะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ขี่จักรยานด้วย EDGE 1000 ที่เป็นทั้งระบบแผนที่นำทางจักรยาน ที่สามารถเชื่อมต่อกับที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดรอบขา เพื่อนำมาคำนวนความเร็ว ระยะทาง ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในการนำข้อมูลไปวิเคราะห์กับนักปั่นรายอื่น หรือแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก วางจำหน่ายในราคา 23,400 บาท
สุดท้ายอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งในรถยนต์ Garmin Driving Recorder GDR45 ที่เป็นกล้องติดหน้ารถสามารถบันทึกภาพความละเอียดสูง Full HD ยังสามารถบันทึกข้อมูลแผนที่ ค่าพิกัด เวลา ความเร็ว ผ่านการแสดงข้อมูลบนพีซี ระบบเตือนเมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป และคุณสมบัติในการบันทึกภาพขณะจอดรถ โดยต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวรอบตัวรถ และสั่งให้กล้องบันทึกภาพอัตโนมัติ ในราคา 8,200 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะทยอยเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131420
ไม่มีความคิดเห็น: