20 พฤศจิกายน 2557 NEW) TV ระบุ ปีแรกของการทำธุรกิจคงจะเน้นการสร้างชื่อสถานีนิวทีวีให้เป็นที่รู้จักกับผู้บริโภคก่อนเป็นหลัก แต่ในปีหน้าคงจะทำการโปรโมตรายการต่างๆ ที่ออกอากาศอยู่ทางสถานีให้มากขึ้น
ประเด็นหลัก
“ปีแรกของการทำธุรกิจคงจะเน้นการสร้างชื่อสถานีนิวทีวีให้เป็นที่รู้จักกับผู้บริโภคก่อนเป็นหลัก แต่ในปีหน้าคงจะทำการโปรโมตรายการต่างๆ ที่ออกอากาศอยู่ทางสถานีให้มากขึ้น โดยตอนนี้นิวทีวีมีเรตติ้งเป็นอันดับ 4 ของหมวดข่าว หรืออยู่ในอันดับที่ 14 ในภาพรวม ซึ่งภายหลังจากที่ได้ทำการลงทุนด้านต่างๆ แล้ว ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของช่องข่าว หรือติด 1 ใน 5 ของภาพรวม” นายภาณุชัย กล่าว
______________________________
นิวทีวีชี้แจกคูปองช้าฉุดรายได้
“นิวทีวี” โยนปัญหาโครงข่าย-แจกคูปองล่าช้า ทำพลาดเป้าปีนี้เหลือแค่ 120 ล้านบาท ทุ่ม 1,000 ล้านบาทปีหน้า หวังขึ้นอันดับ 1 ของช่องข่าว พร้อมโกยรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท
นายภาณุชัย เหตระกูล ศรีนวลนัด กรรมการบริหาร บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด ผู้อำนวยการสถานีนิวทีวี ช่อง 18 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางสถานีนิวทีวีได้ทำการออกอากาศในระบบดิจิตอล ยังไม่พบว่าการดำเนินธุรกิจติดขัดปัญหาแต่อย่างใด จะมีก็แต่ในส่วนของตัวระบบหรือปัญหาทางโครงข่ายมากกว่า ที่มองว่ายังไม่มีความพร้อม รวมถึงการแจกคูปองที่มีความล่าช้าไปถึง 6 เดือน ทำให้บริษัทอาจมีรายได้ในการดำเนินธุรกิจปีนี้เพียง 120 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 200 ล้านบาท
สำหรับแผนในการดำเนินธุรกิจในปีหน้า บริษัทได้เตรียมงบประมาณเพื่อใช้ลงทุนให้กับช่องนิวทีวีไว้ประมาณ 820 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้สำหรับพัฒนาคอนเทนต์ราว 600 ล้านบาท งบทางการตลาดอีก 100 ล้านบาท และงบเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีก 120 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตมากยิ่งขึ้น หรืออยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
“ปีแรกของการทำธุรกิจคงจะเน้นการสร้างชื่อสถานีนิวทีวีให้เป็นที่รู้จักกับผู้บริโภคก่อนเป็นหลัก แต่ในปีหน้าคงจะทำการโปรโมตรายการต่างๆ ที่ออกอากาศอยู่ทางสถานีให้มากขึ้น โดยตอนนี้นิวทีวีมีเรตติ้งเป็นอันดับ 4 ของหมวดข่าว หรืออยู่ในอันดับที่ 14 ในภาพรวม ซึ่งภายหลังจากที่ได้ทำการลงทุนด้านต่างๆ แล้ว ตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของช่องข่าว หรือติด 1 ใน 5 ของภาพรวม” นายภาณุชัย กล่าว
ขณะเดียวกันยังได้นำรายการวาไรตี้บันเทิงเข้ามาออกอากาศภายในสถานีเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้ปรับรูปแบบของรายการข่าวให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยมองว่า อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลในปีหน้า ยังคงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง ขณะที่มูลค่าของทีวีดิจิตอลมองว่าจะอยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาท จากในปีนี้อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท.
http://www.thaipost.net/news/201114/99238
ไม่มีความคิดเห็น: