25 พฤศจิกายน 2557 นกแอร์.สิรินันท์ ระบุ ตัดสินใจใช้ ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365 1 ปี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ต้องลงทุนกับระบบสตอเรจราคาหลายล้านบาท และช่วยให้พนักงานเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและอีเมลทั้งหมดจากที่ใดก็ได้
ประเด็นหลัก
นางสาวสิรินันท์ บอกว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยมีแนวคิดที่จะจัดเก็บไฟล์งานต่าง ๆ ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ยูสเซอร์สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก แต่ก็ต้องมีการลงทุนระบบเพิ่มอีกหลายส่วน ส่วนเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เพิ่งเข้ามาก็ยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยข้อมูล และความเสถียรของเน็ตเวิร์ก แต่ในปัจจุบัน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ได้พัฒนาไปมาก และได้รับการยอมรับมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365 มาแล้วประมาณ
1 ปี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ต้องลงทุนกับระบบสตอเรจราคาหลายล้านบาท และช่วยให้พนักงานเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและอีเมลทั้งหมดจากที่ใดก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่สามารถนำไปพัฒนาการใช้งานติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อีกด้วย
______________________________
ด้วยสภาพธุรกิจที่มีแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สองสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ตัดสินใจนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้
ด้วยสภาพธุรกิจที่มีแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สองสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ตัดสินใจนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสื่อสารในองค์กร
“นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์” ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ปัจจุบันบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ได้ตัดสินใจนำบริการคลาวด์สำหรับองค์กรธุรกิจอย่าง “ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365” ไปใช้งานในองค์กร ซึ่งนอกจากจะคุ้นเคยกับการใช้งานซอฟต์แวร์ออฟฟิศ แล้ว บริการดังกล่าวยังช่วยบริหารจัดการต้นทุนด้านไอที โดยเฉพาะเรื่องของการลงทุนด้านพื้นที่สตอเรจในการบริหารจัดการอีเมลและจัดเก็บไฟล์ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลของไอดีซีระบุตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งในไทยเมื่อปี 2556 มีการเติบโตถึง 56% และคาดในปี 2557 นี้จะโตประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา
แสดงว่าตลาดในเมืองไทยมีการรับรู้ถึงเทคโนโลยีคลาวด์มากขึ้น ทำให้บริการ “ออฟฟิศ 365” ในไทยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตสูง กว่า 1,000 % ซึ่งถือว่ามียอดขายเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 400%
คุณปัญจพร บอกว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ออฟฟิศ 365 ได้รับความนิยม คือการบริหารจัดการงบประมาณได้ง่าย เนื่องจากเป็นการทยอยจ่ายไม่ต้องลงทุนระบบในครั้งเดียว มีระบบรับรองความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีการนำข้อมูลลูกค้าไปสร้างรายได้จากการโฆษณา และผู้ใช้มีความคุ้นเคยกับไมโครซอฟต์ ออฟฟิศอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์แนวโน้มการนำอุปกรณ์ส่วนตัวไปใช้ในที่ทำงานหรือบีวายโอดี โดยผู้ใช้งาน 1 คน สามารถติดตั้งลงบนพีซีโน้ตบุ๊กหรือเครื่องแมคได้ถึง 5 เครื่อง และบนอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อีก 5 เครื่อง
ทั้งนี้ลูกค้าออฟฟิศ 365 ในไทยปัจจุบันเป็นลูกค้าองค์กรถึง
90% และอยู่ในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งสายการเงิน การธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต ค้าปลีกและสายการบินอย่างเช่น นกแอร์ และไทยสมายล์
“นางสาวสิรินันท์ จิรดิลก” ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนกแอร์ บอกว่า การตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการบนคลาวด์ไม่เพียงช่วยลดเงินลงทุนด้านไอที แต่ยังช่วยให้นกแอร์ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ทำให้การทำงานภายในมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการสนับสนุนการทำงานของพนักงาน เช่น การใช้งานระบบอีเมล ซึ่งเดิมเคยจำกัดขนาดเมลบ็อกซ์ไว้ที่ 200 MB แต่ 10 ปีผ่านมา ความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หากให้พนักงานหันไปใช้บริการฟรีอีเมล อาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย
นางสาวสิรินันท์ บอกว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยมีแนวคิดที่จะจัดเก็บไฟล์งานต่าง ๆ ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ยูสเซอร์สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก แต่ก็ต้องมีการลงทุนระบบเพิ่มอีกหลายส่วน ส่วนเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เพิ่งเข้ามาก็ยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยข้อมูล และความเสถียรของเน็ตเวิร์ก แต่ในปัจจุบัน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ได้พัฒนาไปมาก และได้รับการยอมรับมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365 มาแล้วประมาณ
1 ปี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ต้องลงทุนกับระบบสตอเรจราคาหลายล้านบาท และช่วยให้พนักงานเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและอีเมลทั้งหมดจากที่ใดก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่สามารถนำไปพัฒนาการใช้งานติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อีกด้วย
ด้าน “นางพัชราภรณ์ ทรัพยสาร” หัวหน้าฝ่ายไอที ของสายการบินไทยสมายล์ บอกว่า ตัดสินใจเลือกใช้บริการคลาวด์ เพราะเป็นบริษัทเริ่มใหม่ที่เพิ่งแยกออกมาจากการบินไทย ดังนั้นจึงต้องมองถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ซึ่งการใช้คลาวด์นอกจากจะไม่ต้องลงทุนทีเดียวจำนวนมากแล้วยังสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษา หากใช้ระบบเดิม ๆ มักจะมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ที่มีอายุการใช้งาน ต้องมีค่าบำรุงรักษา และเสียเวลาในการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ดี ทั้งสองสายการบินต่างมองแนวโน้มการลงทุนด้านไอที ที่สอดคล้องกับนโยบายของสายการบินราคาประหยัดว่า ต่างต้องมุ่งไปสู่คลาวด์และโมบายมากขึ้น.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/282966/ตอบโจทย์สายการบินต้นทุนต่ำด้วยไอทีบนก้อนเมฆ
นางสาวสิรินันท์ บอกว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยมีแนวคิดที่จะจัดเก็บไฟล์งานต่าง ๆ ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ยูสเซอร์สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก แต่ก็ต้องมีการลงทุนระบบเพิ่มอีกหลายส่วน ส่วนเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เพิ่งเข้ามาก็ยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยข้อมูล และความเสถียรของเน็ตเวิร์ก แต่ในปัจจุบัน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ได้พัฒนาไปมาก และได้รับการยอมรับมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365 มาแล้วประมาณ
1 ปี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ต้องลงทุนกับระบบสตอเรจราคาหลายล้านบาท และช่วยให้พนักงานเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและอีเมลทั้งหมดจากที่ใดก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่สามารถนำไปพัฒนาการใช้งานติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อีกด้วย
______________________________
ด้วยสภาพธุรกิจที่มีแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สองสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ตัดสินใจนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้
ด้วยสภาพธุรกิจที่มีแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สองสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ตัดสินใจนำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสื่อสารในองค์กร
“นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์” ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์ออฟฟิศ บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ปัจจุบันบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ได้ตัดสินใจนำบริการคลาวด์สำหรับองค์กรธุรกิจอย่าง “ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365” ไปใช้งานในองค์กร ซึ่งนอกจากจะคุ้นเคยกับการใช้งานซอฟต์แวร์ออฟฟิศ แล้ว บริการดังกล่าวยังช่วยบริหารจัดการต้นทุนด้านไอที โดยเฉพาะเรื่องของการลงทุนด้านพื้นที่สตอเรจในการบริหารจัดการอีเมลและจัดเก็บไฟล์ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลของไอดีซีระบุตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งในไทยเมื่อปี 2556 มีการเติบโตถึง 56% และคาดในปี 2557 นี้จะโตประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา
แสดงว่าตลาดในเมืองไทยมีการรับรู้ถึงเทคโนโลยีคลาวด์มากขึ้น ทำให้บริการ “ออฟฟิศ 365” ในไทยในปีที่ผ่านมามีการเติบโตสูง กว่า 1,000 % ซึ่งถือว่ามียอดขายเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 400%
คุณปัญจพร บอกว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ออฟฟิศ 365 ได้รับความนิยม คือการบริหารจัดการงบประมาณได้ง่าย เนื่องจากเป็นการทยอยจ่ายไม่ต้องลงทุนระบบในครั้งเดียว มีระบบรับรองความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีการนำข้อมูลลูกค้าไปสร้างรายได้จากการโฆษณา และผู้ใช้มีความคุ้นเคยกับไมโครซอฟต์ ออฟฟิศอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์แนวโน้มการนำอุปกรณ์ส่วนตัวไปใช้ในที่ทำงานหรือบีวายโอดี โดยผู้ใช้งาน 1 คน สามารถติดตั้งลงบนพีซีโน้ตบุ๊กหรือเครื่องแมคได้ถึง 5 เครื่อง และบนอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้อีก 5 เครื่อง
ทั้งนี้ลูกค้าออฟฟิศ 365 ในไทยปัจจุบันเป็นลูกค้าองค์กรถึง
90% และอยู่ในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งสายการเงิน การธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต ค้าปลีกและสายการบินอย่างเช่น นกแอร์ และไทยสมายล์
“นางสาวสิรินันท์ จิรดิลก” ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ของนกแอร์ บอกว่า การตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการบนคลาวด์ไม่เพียงช่วยลดเงินลงทุนด้านไอที แต่ยังช่วยให้นกแอร์ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิม ทำให้การทำงานภายในมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการสนับสนุนการทำงานของพนักงาน เช่น การใช้งานระบบอีเมล ซึ่งเดิมเคยจำกัดขนาดเมลบ็อกซ์ไว้ที่ 200 MB แต่ 10 ปีผ่านมา ความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หากให้พนักงานหันไปใช้บริการฟรีอีเมล อาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย
นางสาวสิรินันท์ บอกว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยมีแนวคิดที่จะจัดเก็บไฟล์งานต่าง ๆ ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ยูสเซอร์สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก แต่ก็ต้องมีการลงทุนระบบเพิ่มอีกหลายส่วน ส่วนเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่เพิ่งเข้ามาก็ยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยข้อมูล และความเสถียรของเน็ตเวิร์ก แต่ในปัจจุบัน คลาวด์ คอมพิวติ้ง ได้พัฒนาไปมาก และได้รับการยอมรับมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ ไมโครซอฟต์ ออฟฟิศ 365 มาแล้วประมาณ
1 ปี ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดดังกล่าว โดยไม่ต้องลงทุนกับระบบสตอเรจราคาหลายล้านบาท และช่วยให้พนักงานเข้าถึงไฟล์ข้อมูลและอีเมลทั้งหมดจากที่ใดก็ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่สามารถนำไปพัฒนาการใช้งานติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อีกด้วย
ด้าน “นางพัชราภรณ์ ทรัพยสาร” หัวหน้าฝ่ายไอที ของสายการบินไทยสมายล์ บอกว่า ตัดสินใจเลือกใช้บริการคลาวด์ เพราะเป็นบริษัทเริ่มใหม่ที่เพิ่งแยกออกมาจากการบินไทย ดังนั้นจึงต้องมองถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ซึ่งการใช้คลาวด์นอกจากจะไม่ต้องลงทุนทีเดียวจำนวนมากแล้วยังสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษา หากใช้ระบบเดิม ๆ มักจะมีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ที่มีอายุการใช้งาน ต้องมีค่าบำรุงรักษา และเสียเวลาในการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ดี ทั้งสองสายการบินต่างมองแนวโน้มการลงทุนด้านไอที ที่สอดคล้องกับนโยบายของสายการบินราคาประหยัดว่า ต่างต้องมุ่งไปสู่คลาวด์และโมบายมากขึ้น.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
http://www.dailynews.co.th/Content/IT/282966/ตอบโจทย์สายการบินต้นทุนต่ำด้วยไอทีบนก้อนเมฆ
ไม่มีความคิดเห็น: