25 พฤศจิกายน 2557 ICT.พรชัย ระบุ ประเมินมันก็คงต้องใช้เงิน 10,000 ล้านบาท ซึ่งเราคงต้องมาทำบรอดแบนด์ให้มีอัตราเข้าถึงมากขึ้นจากปัจจุบันราว 20 ล้านคน
ประเด็นหลัก
“คือถ้าให้ผมประเมินมันก็คงต้องใช้เงินมหาศาลแต่เบื้องต้นในเฟสแรกถ้าคร่าวๆ ก็มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเราคงต้องมาทำบรอดแบนด์ให้มีอัตราเข้าถึงมากขึ้นจากปัจจุบันราว 20 ล้านคน ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวใน 3-5 ปี ตามแผนดิจิทัล อีโคโนมี
______________________________
นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า การจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไปสู่ความสำเร็จตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดิจิทัล อีโคโนมีตามนโยบายของรัฐบาลนั้น เบื้องต้นได้เร่งให้บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม ส่งรายละเอียดของสินทรัพย์ที่ทั้ง 2 องค์กรถือครองอยู่ว่ามีอะไรบ้าง เช่น สถานีฐาน โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สายเคเบิลใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออพติก) และเกตเวย์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปต่างประเทศ เพื่อที่ไอซีทีจะได้นำมารวบรวมและแบ่งแยกทรัพย์สิน เพื่อการลงทุนในชั้นต่อไป
เบื้องต้นคาดว่าในพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องขยายโครงข่ายเพิ่มเติมน่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะแบ่งการดำเนินการเป็นเฟสๆ ไป นอกเหนือจากงบประมาณของไอซีทีที่มีอยู่ขณะนี้ราว 3,700 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนการของบประมาณจะเขียนรวบรวมไปในแผนที่ต้องเสนอคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนกรรมการคนอื่นๆ คาดว่าจะสรรหาได้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
“คือถ้าให้ผมประเมินมันก็คงต้องใช้เงินมหาศาลแต่เบื้องต้นในเฟสแรกถ้าคร่าวๆ ก็มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเราคงต้องมาทำบรอดแบนด์ให้มีอัตราเข้าถึงมากขึ้นจากปัจจุบันราว 20 ล้านคน ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวใน 3-5 ปี ตามแผนดิจิทัล อีโคโนมี
ส่วนเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมไอทีก็น่าจะเพิ่มขึ้น ได้เท่าตัวเป็น 1.2 ล้านล้านบาท จากปี 2557 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.2 แสนล้านบาท”
นอกจากนี้ภาครัฐเองจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะสิ่งที่จะต้องเร่งมือและถือเป็นเรื่องเร่งด่วน คือ สร้างผู้บริหารที่พร้อมจะเข้ามารับผิดชอบการเปลี่ยนการบริหารรัฐเข้าสู่ยุคดิจิทัล
http://www.naewna.com/business/132433
“คือถ้าให้ผมประเมินมันก็คงต้องใช้เงินมหาศาลแต่เบื้องต้นในเฟสแรกถ้าคร่าวๆ ก็มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเราคงต้องมาทำบรอดแบนด์ให้มีอัตราเข้าถึงมากขึ้นจากปัจจุบันราว 20 ล้านคน ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวใน 3-5 ปี ตามแผนดิจิทัล อีโคโนมี
______________________________
นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า การจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไปสู่ความสำเร็จตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดิจิทัล อีโคโนมีตามนโยบายของรัฐบาลนั้น เบื้องต้นได้เร่งให้บริษัท ทีโอที และบริษัท กสท โทรคมนาคม ส่งรายละเอียดของสินทรัพย์ที่ทั้ง 2 องค์กรถือครองอยู่ว่ามีอะไรบ้าง เช่น สถานีฐาน โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ สายเคเบิลใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออพติก) และเกตเวย์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อไปต่างประเทศ เพื่อที่ไอซีทีจะได้นำมารวบรวมและแบ่งแยกทรัพย์สิน เพื่อการลงทุนในชั้นต่อไป
เบื้องต้นคาดว่าในพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องขยายโครงข่ายเพิ่มเติมน่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะแบ่งการดำเนินการเป็นเฟสๆ ไป นอกเหนือจากงบประมาณของไอซีทีที่มีอยู่ขณะนี้ราว 3,700 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนการของบประมาณจะเขียนรวบรวมไปในแผนที่ต้องเสนอคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนกรรมการคนอื่นๆ คาดว่าจะสรรหาได้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
“คือถ้าให้ผมประเมินมันก็คงต้องใช้เงินมหาศาลแต่เบื้องต้นในเฟสแรกถ้าคร่าวๆ ก็มากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเราคงต้องมาทำบรอดแบนด์ให้มีอัตราเข้าถึงมากขึ้นจากปัจจุบันราว 20 ล้านคน ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวใน 3-5 ปี ตามแผนดิจิทัล อีโคโนมี
ส่วนเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมไอทีก็น่าจะเพิ่มขึ้น ได้เท่าตัวเป็น 1.2 ล้านล้านบาท จากปี 2557 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.2 แสนล้านบาท”
นอกจากนี้ภาครัฐเองจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะสิ่งที่จะต้องเร่งมือและถือเป็นเรื่องเร่งด่วน คือ สร้างผู้บริหารที่พร้อมจะเข้ามารับผิดชอบการเปลี่ยนการบริหารรัฐเข้าสู่ยุคดิจิทัล
http://www.naewna.com/business/132433
ไม่มีความคิดเห็น: