15 มกราคม 2558 Easy Taxi ปรับกลยุทธ (ลูกค้าเก็บค่าบริการเรียกแท็กซี่ แค่ 20 บาท) เข้าไปติดต่อกับองค์กรที่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พนักงานให้เปลี่ยนจากระบบเบิกจ่ายเงินมาเป็นการกำหนดวงเงินในแอปพลิเคชั่นแทน
ประเด็นหลัก
การเข้าไปติดต่อกับองค์กรที่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พนักงานให้เปลี่ยนจากระบบเบิกจ่ายเงินมาเป็นการกำหนดวงเงินในแอปพลิเคชั่นแทน
เช่นบริษัทมีค่าใช้จ่ายยานพาหนะให้พนักงานเดือนละพันบาท และต้องนำใบเสร็จมายืนยันทุกครั้งหรือบางแห่งอาจให้เบิกเงินเกินไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ปัญหาต่าง ๆ จะหมดไป เพราะทุกอย่างกำหนดไว้ในแอปพลิเคชั่นหมดแล้ว โดยบริการนี้เริ่มใช้งานแล้วที่สิงคโปร์
บริการดังกล่าวมี 2 รูปแบบ คือ ET Pro(Easy Taxi Pro) บริการเรียกใช้รถแท็กซี่ เจาะกลุ่มโรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าเริ่มทดลองแห่งแรกที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และ ET Corp (Easy Taxi Corporate) สำหรับองค์กรที่พนักงานต้องออกไปติดต่องานนอกบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายระดับบุคคลหรือระดับแผนก โดยกำหนดค่าเดินทางแต่ละเดือนภายในแอปพลิเคชั่น และพิมพ์ยอดสรุปค่าใช้จ่ายได้ ใช้บริการได้แล้วใน 180 เมืองทั่วโลก
"คู่แข่งบางรายมีรถราคาประหยัดออกมาวิ่งหรือบางรายขยับไปที่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแต่เรายังยืนยันจุดเดิมคือร่วมกับแท็กซี่ทั่วไปที่มีกว่า 1 แสนคันในไทย เพื่อช่วยพวกเขาหารายได้ และยืนยันเก็บค่าบริการเรียกแท็กซี่ แค่ 20 บาทเท่าเดิม จุดนี้ทำให้มีคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไปใช้ในไทยมากกว่า 5 แสนครั้ง และเราพยายามทำให้เป็นที่หนึ่งในประเทศไทยเหมือนกับที่เป็นแอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งของโลก มีแท็กซี่ในเครือข่าย 1.2 แสนคันใน 30 ประเทศทั่วโลก เริ่มที่บราซิลเป็นประเทศแรกในปี 2554 ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน"
_____________________________________________________
"อีซี่แท็กซี่" เปิดเกมใหม่เลี่ยงแข่งดุ ขยับเจาะลูกค้าองค์กร-ขยายบริการในต่างจังหวัด
"อีซี่แท็กซี่" พร้อมเปิดเกมใหม่บุกเจาะลูกค้าองค์กรที่ให้พนักงานเบิกค่ารถรายเดือนได้ ชู "ใช้ง่าย-สะดวก-คุ้มค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้" ดึงลูกค้าใช้งาน ทั้งเดินหน้าสร้างเครือข่าย และขยายบริการในต่างจังหวัด ยึดจุดขายค่าบริการถูกสุดในตลาด คาดเริ่มรับรู้รายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาภายในปีนี้
นายณัฐภัค อติชาตการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีซี่ แท็กซี่ ประเทศไทย ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ "อีซี่แท็กซี่" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในกลุ่มแอปพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ค่อนข้างหนัก เพราะทุกรายที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยต่างเป็นผู้มีประสบการณ์จากตลาดต่างประเทศมาก่อน ทำให้มีการลงทุนทำประชาสัมพันธ์ และโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้งาน รวมถึงสร้างการรับรู้เรื่องการใช้สมาร์ทดีไวซ์เรียกแท็กซี่ ซึ่งบริษัทไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันในสถานการณ์นี้จึงจะหันไปเจาะตลาดองค์กรอย่างจริงจังในปี 2558 นี้ ด้วยการเข้าไปติดต่อกับองค์กรที่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พนักงานให้เปลี่ยนจากระบบเบิกจ่ายเงินมาเป็นการกำหนดวงเงินในแอปพลิเคชั่นแทน
เช่นบริษัทมีค่าใช้จ่ายยานพาหนะให้พนักงานเดือนละพันบาท และต้องนำใบเสร็จมายืนยันทุกครั้งหรือบางแห่งอาจให้เบิกเงินเกินไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ปัญหาต่าง ๆ จะหมดไป เพราะทุกอย่างกำหนดไว้ในแอปพลิเคชั่นหมดแล้ว โดยบริการนี้เริ่มใช้งานแล้วที่สิงคโปร์
บริการดังกล่าวมี 2 รูปแบบ คือ ET Pro(Easy Taxi Pro) บริการเรียกใช้รถแท็กซี่ เจาะกลุ่มโรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าเริ่มทดลองแห่งแรกที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และ ET Corp (Easy Taxi Corporate) สำหรับองค์กรที่พนักงานต้องออกไปติดต่องานนอกบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายระดับบุคคลหรือระดับแผนก โดยกำหนดค่าเดินทางแต่ละเดือนภายในแอปพลิเคชั่น และพิมพ์ยอดสรุปค่าใช้จ่ายได้ ใช้บริการได้แล้วใน 180 เมืองทั่วโลก
"ณ ส.ค.ปีที่แล้ว เรามีแท็กซี่ในกรุงเทพฯ 8 พันคันวิ่งอยู่ในระบบ ถือเป็นการเติบโตที่เร็วมาก ทุก 10 นาที จะมีแท็กซี่เข้ามาในระบบ 1 คัน มีการลงทะเบียน และตรวจสอบมาตรฐาน เช่น ลักษณะรถ, คนขับ, ใบขับขี่สาธารณะ และมีสมาร์ทโฟนที่รองรับแอนดรอยด์หรือไม่ ที่มีแท็กซี่เข้าร่วมเยอะเพราะพวกเขามองเห็นโอกาส"
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป "อีซี่แท็กซี่" คิดค่าบริการเรียกแท็กซี่/ครั้ง 20 บาท เท่ากับราคาเรียกผ่านสหกรณ์แท็กซี่ ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อีกทั้งในการเรียกแท็กซี่แต่ละครั้ง ผู้ใช้บริการจะเห็นหน้าผู้ขับ, ลักษณะรถ และเบอร์โทร.เพื่อติดต่อกรณีไม่มาตามเวลาที่กำหนด (แกร็บแท็กซี่คิดค่าเรียก 25 บาท/ครั้ง ส่วนอูเบอร์ ค่าบริการเริ่มต้นที่ 45 บาท)
นอกจากนี้ อีซี่แท็กซี่ยังมีโปรโมชั่นต่อเนื่อง เช่น ลดราคา 50 บาท ในการเรียกใช้ครั้งแรก โดยผู้ใช้ต้องกดเรียกรถจากแอปพลิเคชั่นแล้วรอให้แท็กซี่ตอบรับ เมื่อถึงที่หมาย มีค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ ค่าโดยสารตามมิเตอร์ และค่าบริการเรียก 20 บาท จ่ายเป็นเงินสดหรือรูดบัตรเครดิตก็ได้ (Easy Taxi Pay) ที่มีการส่งราคาค่าบริการผ่านแอปเพื่อยืนยันราคาที่ถูกต้องก่อนชำระเงิน
"คู่แข่งบางรายมีรถราคาประหยัดออกมาวิ่งหรือบางรายขยับไปที่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแต่เรายังยืนยันจุดเดิมคือร่วมกับแท็กซี่ทั่วไปที่มีกว่า 1 แสนคันในไทย เพื่อช่วยพวกเขาหารายได้ และยืนยันเก็บค่าบริการเรียกแท็กซี่ แค่ 20 บาทเท่าเดิม จุดนี้ทำให้มีคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไปใช้ในไทยมากกว่า 5 แสนครั้ง และเราพยายามทำให้เป็นที่หนึ่งในประเทศไทยเหมือนกับที่เป็นแอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งของโลก มีแท็กซี่ในเครือข่าย 1.2 แสนคันใน 30 ประเทศทั่วโลก เริ่มที่บราซิลเป็นประเทศแรกในปี 2554 ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน"
นายณัฐภัคกล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเข้าใจการใช้แอปพลิเคชั่น "เรียกแท็กซี่" มากขึ้น จากการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากราคาที่ถูกลง ทำให้มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งกลุ่มใหม่มีโอกาสดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของบริษัทเช่นกัน ส่วนในแง่การแข่งขันเชื่อว่าปีนี้จะมีการแข่งขันมากกว่าเดิม แต่เน้นการดึงดูดผู้บริโภคด้วยราคา เช่น ลดราคาพิเศษสำหรับการใช้งานครั้งแรก เป็นต้น
"เราจะไปให้บริการในต่างจังหวัดเพิ่มจากเดิมที่ให้บริการแค่ในกรุงเทพฯ ยังเน้นการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจ และกล้าใช้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอป ในแง่รายได้ปีนี้จะมากขึ้น จากการเปิดขายพื้นที่โฆษณาในแอป และในรถแท็กซี่ รวมถึงการหักค่าธรรมเนียมเมื่อผู้ใช้ชำระผ่านบัตรเครดิต และการเข้าไปให้บริการกับองค์กรต่าง ๆ"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1421049459
การเข้าไปติดต่อกับองค์กรที่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พนักงานให้เปลี่ยนจากระบบเบิกจ่ายเงินมาเป็นการกำหนดวงเงินในแอปพลิเคชั่นแทน
เช่นบริษัทมีค่าใช้จ่ายยานพาหนะให้พนักงานเดือนละพันบาท และต้องนำใบเสร็จมายืนยันทุกครั้งหรือบางแห่งอาจให้เบิกเงินเกินไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ปัญหาต่าง ๆ จะหมดไป เพราะทุกอย่างกำหนดไว้ในแอปพลิเคชั่นหมดแล้ว โดยบริการนี้เริ่มใช้งานแล้วที่สิงคโปร์
บริการดังกล่าวมี 2 รูปแบบ คือ ET Pro(Easy Taxi Pro) บริการเรียกใช้รถแท็กซี่ เจาะกลุ่มโรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าเริ่มทดลองแห่งแรกที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และ ET Corp (Easy Taxi Corporate) สำหรับองค์กรที่พนักงานต้องออกไปติดต่องานนอกบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายระดับบุคคลหรือระดับแผนก โดยกำหนดค่าเดินทางแต่ละเดือนภายในแอปพลิเคชั่น และพิมพ์ยอดสรุปค่าใช้จ่ายได้ ใช้บริการได้แล้วใน 180 เมืองทั่วโลก
"คู่แข่งบางรายมีรถราคาประหยัดออกมาวิ่งหรือบางรายขยับไปที่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแต่เรายังยืนยันจุดเดิมคือร่วมกับแท็กซี่ทั่วไปที่มีกว่า 1 แสนคันในไทย เพื่อช่วยพวกเขาหารายได้ และยืนยันเก็บค่าบริการเรียกแท็กซี่ แค่ 20 บาทเท่าเดิม จุดนี้ทำให้มีคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไปใช้ในไทยมากกว่า 5 แสนครั้ง และเราพยายามทำให้เป็นที่หนึ่งในประเทศไทยเหมือนกับที่เป็นแอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งของโลก มีแท็กซี่ในเครือข่าย 1.2 แสนคันใน 30 ประเทศทั่วโลก เริ่มที่บราซิลเป็นประเทศแรกในปี 2554 ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน"
_____________________________________________________
"อีซี่แท็กซี่" เปิดเกมใหม่เลี่ยงแข่งดุ ขยับเจาะลูกค้าองค์กร-ขยายบริการในต่างจังหวัด
"อีซี่แท็กซี่" พร้อมเปิดเกมใหม่บุกเจาะลูกค้าองค์กรที่ให้พนักงานเบิกค่ารถรายเดือนได้ ชู "ใช้ง่าย-สะดวก-คุ้มค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้" ดึงลูกค้าใช้งาน ทั้งเดินหน้าสร้างเครือข่าย และขยายบริการในต่างจังหวัด ยึดจุดขายค่าบริการถูกสุดในตลาด คาดเริ่มรับรู้รายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาภายในปีนี้
นายณัฐภัค อติชาตการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีซี่ แท็กซี่ ประเทศไทย ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ "อีซี่แท็กซี่" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในกลุ่มแอปพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ค่อนข้างหนัก เพราะทุกรายที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยต่างเป็นผู้มีประสบการณ์จากตลาดต่างประเทศมาก่อน ทำให้มีการลงทุนทำประชาสัมพันธ์ และโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้งาน รวมถึงสร้างการรับรู้เรื่องการใช้สมาร์ทดีไวซ์เรียกแท็กซี่ ซึ่งบริษัทไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันในสถานการณ์นี้จึงจะหันไปเจาะตลาดองค์กรอย่างจริงจังในปี 2558 นี้ ด้วยการเข้าไปติดต่อกับองค์กรที่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พนักงานให้เปลี่ยนจากระบบเบิกจ่ายเงินมาเป็นการกำหนดวงเงินในแอปพลิเคชั่นแทน
เช่นบริษัทมีค่าใช้จ่ายยานพาหนะให้พนักงานเดือนละพันบาท และต้องนำใบเสร็จมายืนยันทุกครั้งหรือบางแห่งอาจให้เบิกเงินเกินไป แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ปัญหาต่าง ๆ จะหมดไป เพราะทุกอย่างกำหนดไว้ในแอปพลิเคชั่นหมดแล้ว โดยบริการนี้เริ่มใช้งานแล้วที่สิงคโปร์
บริการดังกล่าวมี 2 รูปแบบ คือ ET Pro(Easy Taxi Pro) บริการเรียกใช้รถแท็กซี่ เจาะกลุ่มโรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าเริ่มทดลองแห่งแรกที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และ ET Corp (Easy Taxi Corporate) สำหรับองค์กรที่พนักงานต้องออกไปติดต่องานนอกบริษัท มีการควบคุมค่าใช้จ่ายระดับบุคคลหรือระดับแผนก โดยกำหนดค่าเดินทางแต่ละเดือนภายในแอปพลิเคชั่น และพิมพ์ยอดสรุปค่าใช้จ่ายได้ ใช้บริการได้แล้วใน 180 เมืองทั่วโลก
"ณ ส.ค.ปีที่แล้ว เรามีแท็กซี่ในกรุงเทพฯ 8 พันคันวิ่งอยู่ในระบบ ถือเป็นการเติบโตที่เร็วมาก ทุก 10 นาที จะมีแท็กซี่เข้ามาในระบบ 1 คัน มีการลงทะเบียน และตรวจสอบมาตรฐาน เช่น ลักษณะรถ, คนขับ, ใบขับขี่สาธารณะ และมีสมาร์ทโฟนที่รองรับแอนดรอยด์หรือไม่ ที่มีแท็กซี่เข้าร่วมเยอะเพราะพวกเขามองเห็นโอกาส"
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป "อีซี่แท็กซี่" คิดค่าบริการเรียกแท็กซี่/ครั้ง 20 บาท เท่ากับราคาเรียกผ่านสหกรณ์แท็กซี่ ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อีกทั้งในการเรียกแท็กซี่แต่ละครั้ง ผู้ใช้บริการจะเห็นหน้าผู้ขับ, ลักษณะรถ และเบอร์โทร.เพื่อติดต่อกรณีไม่มาตามเวลาที่กำหนด (แกร็บแท็กซี่คิดค่าเรียก 25 บาท/ครั้ง ส่วนอูเบอร์ ค่าบริการเริ่มต้นที่ 45 บาท)
นอกจากนี้ อีซี่แท็กซี่ยังมีโปรโมชั่นต่อเนื่อง เช่น ลดราคา 50 บาท ในการเรียกใช้ครั้งแรก โดยผู้ใช้ต้องกดเรียกรถจากแอปพลิเคชั่นแล้วรอให้แท็กซี่ตอบรับ เมื่อถึงที่หมาย มีค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ ค่าโดยสารตามมิเตอร์ และค่าบริการเรียก 20 บาท จ่ายเป็นเงินสดหรือรูดบัตรเครดิตก็ได้ (Easy Taxi Pay) ที่มีการส่งราคาค่าบริการผ่านแอปเพื่อยืนยันราคาที่ถูกต้องก่อนชำระเงิน
"คู่แข่งบางรายมีรถราคาประหยัดออกมาวิ่งหรือบางรายขยับไปที่เซ็กเมนต์พรีเมี่ยมแต่เรายังยืนยันจุดเดิมคือร่วมกับแท็กซี่ทั่วไปที่มีกว่า 1 แสนคันในไทย เพื่อช่วยพวกเขาหารายได้ และยืนยันเก็บค่าบริการเรียกแท็กซี่ แค่ 20 บาทเท่าเดิม จุดนี้ทำให้มีคนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไปใช้ในไทยมากกว่า 5 แสนครั้ง และเราพยายามทำให้เป็นที่หนึ่งในประเทศไทยเหมือนกับที่เป็นแอปเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งของโลก มีแท็กซี่ในเครือข่าย 1.2 แสนคันใน 30 ประเทศทั่วโลก เริ่มที่บราซิลเป็นประเทศแรกในปี 2554 ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน"
นายณัฐภัคกล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเข้าใจการใช้แอปพลิเคชั่น "เรียกแท็กซี่" มากขึ้น จากการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากราคาที่ถูกลง ทำให้มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งกลุ่มใหม่มีโอกาสดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของบริษัทเช่นกัน ส่วนในแง่การแข่งขันเชื่อว่าปีนี้จะมีการแข่งขันมากกว่าเดิม แต่เน้นการดึงดูดผู้บริโภคด้วยราคา เช่น ลดราคาพิเศษสำหรับการใช้งานครั้งแรก เป็นต้น
"เราจะไปให้บริการในต่างจังหวัดเพิ่มจากเดิมที่ให้บริการแค่ในกรุงเทพฯ ยังเน้นการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจ และกล้าใช้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอป ในแง่รายได้ปีนี้จะมากขึ้น จากการเปิดขายพื้นที่โฆษณาในแอป และในรถแท็กซี่ รวมถึงการหักค่าธรรมเนียมเมื่อผู้ใช้ชำระผ่านบัตรเครดิต และการเข้าไปให้บริการกับองค์กรต่าง ๆ"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1421049459
ไม่มีความคิดเห็น: