Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

17 กรกฎาคม 2558 (บทความ) เจาะลึกอิทธิพล "สื่อออนไลน์" มอง Network Social Movement // ศึกษาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนสื่อออนไลน์พบว่า การโฆษณามีการสื่อสารกลมกลืนไปกับเนื้อหาในการสื่อออนไลน์ ตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แคบและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

ประเด็นหลัก













____________________________________





เจาะลึกอิทธิพล "สื่อออนไลน์" มอง Network Social Movement


ปฏิเสธไม่ได้ถึงความสำคัญของสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน ในโอกาส 10 ปีโครงการมีเดียมอนิเตอร์ จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอผลวิจัยด้านสื่อออนไลน์

"เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์" ผู้อำนวยการโครงการมีเดียมอนิเตอร์กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมาทางโครงการมีเดียมอนิเตอร์ได้ศึกษาประเด็นเกี่ยวกับการดูแลและคอนเทนต์สื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์รวมแล้ว 88 เรื่อง มีงานวิจัยบางส่วนที่ส่งผลไปยังผู้ประกอบการสื่อโดยเฉพาะโทรทัศน์ ในการปรับปรุงและเรียนรู้พฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้บริโภค บางส่วนมีการนำไปอ้างอิงทางวิชาการ และขยายผลต่อยอดงานวิจัยเพื่อนำไปใช้จริง

ขณะที่สื่อออนไลน์กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน และเข้าถึงในทุกภาคส่วน ทั้งปัจจุบันสื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์มีความสำคัญและเชื่อมโยงกัน ทางมีเดียมอนิเตอร์จึงได้เน้นการศึกษาในสื่อออนไลน์มากขึ้น

"สกุลศรี ศรีสารคาม" อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ผู้วิจัย "การสื่อสารในสื่อออนไลน์" มีเดียมอนิเตอร์กล่าวว่า ปัจจุบันสื่อออนไลน์มีบทบาทมาก และมีการสำรวจพบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 7.2 ชั่วโมงต่อวัน โดย 77.1% เข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟนจนเริ่มเกิดสังคม "เครือข่าย" และวัย "Gen ME" ความสำคัญทางสังคมที่สร้างขึ้นใหม่บนความสนใจค่านิยม และกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน เกิดชุมชนที่มีการส่งต่อการแชร์ความคิดเดียวกัน ร่วมกันผ่านโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์ในชีวิตจริง กระทั่งเกิดรูปแบบพฤติกรรม ทัศนคติที่ผลักดันการกระทำบางอย่างทั้งต่อตนเอง สังคม การเมือง เศรษฐกิจ รวมถึงปรากฏการณ์ Network Social Movement

โดยมีเดียมอนิเตอร์ได้เริ่มศึกษาการสื่อสารในโลกออนไลน์ตั้งแต่ปี 2553 ทั้งเรื่องความหมายและคุณค่า การเมืองและความรุนแรง การสื่อสารการตลาดและการสื่อสารออนไลน์ การชิงโชคและการพนัน

ในประเด็น "การให้ความหมายและคุณค่า" พบว่าสื่อออนไลน์ที่วัยรุ่นสนใจคือ ความบันเทิง การเป็นส่วนตัว และการสร้างตัวตน การแสดงออก ซึ่งสื่อออนไลน์มีบทบาททั้งดีและเสีย โดยข้อดีคือ 1.เราสามารถสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง 2.การตอบยอมรับจากผู้อื่น 3.สร้างแบรนด์ของตนเอง 4.หาเงินและชื่อเสียงได้จากความเป็นตัวเองกับคอนเทนต์ที่สร้างและ 5.สื่อออนไลน์ทำให้ชุมชนคนคิดเหมือนกันแสดงออกถึงอัตลักษณ์ได้

แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียคือ 1.เกิดการหลงตัวเอง 2.เกิดความแปลกแยกจากเดิมในสังคม 3.การเลียนแบบที่ผิด 4.สังคมที่เข้าหาไม่เหมาะกับการสร้างอัตลักษณ์ที่เหมาะสม และ 5.การเข้าใจตนเองผิด แยกแยะผิด ทั้งหมดที่ศึกษาเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับในต่างประเทศจากผลการศึกษาของ Pew Research Study Shows พบว่า วัยรุ่นอเมริกันให้ความสำคัญกับการสร้างตัวตนที่คนบนโลกออนไลน์พึงพอใจให้เกิดการยอมรับมากกว่าโลกออฟไลน์



ประเด็น "การเมืองและความรุนแรง" จากการศึกษาความขัดแย้งทางการเมือง ลักษณะเนื้อหาทางการเมือง จากทั้งเว็บบอร์ดและสื่อสังคมออนไลน์ การรวมตัวเคลื่อนไหวทางการเมือง และ Hate Speech พบว่าในสังคมออนไลน์นั้นจะมีการเลือกข้างที่ชัดเจน

โดยมีลำดับขั้นตอนคือ การสื่อสารแบบสุดโต่งไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิด กรองความคิดเห็นต่างออกมา การรวมกลุ่มความคิด เกิดการเลือกข้างชัดเจน และไปสู่การเคลื่อนไหวจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์

การสำรวจพบว่า ในเฟซบุ๊กมีการต่อสู้ทางการเมือง การตรวจสอบ การประจานและประณาม ขณะที่ทวิตเตอร์เป็นการสื่อสารแบบเกาะติดแสดงความคิดเห็น ในเว็บบอร์ดพันทิปมีการวิวาทกรรมทางการเมือง การตรวจสอบข้อเท็จจริง การโต้เถียงโจมตี เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่าสื่อออนไลน์ นำประเด็นการเมืองมาถกเถียง มีการกำหนดทิศทางจากโลกออนไลน์มากขึ้น และทรงอิทธิพล จากออนไลน์ไปออฟไลน์ได้

ประเด็น "การสื่อสารการตลาด" โดยศึกษาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนสื่อออนไลน์พบว่า การโฆษณามีการสื่อสารกลมกลืนไปกับเนื้อหาในการสื่อออนไลน์ ตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แคบและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น การเติบโตของ User-generate Content เพื่อทำให้เหมือนกับว่าผู้บริโภคสร้างเนื้อหาเอง ไม่ได้ผลิตมาจากเจ้าของสินค้านั้น เช่น การรีวิวต่าง ๆ และการกำหนดข้อกำหนดในโฆษณาที่ไม่สามารถจะทำให้เห็นถึงธรรมชาติของการสื่อสารได้ เช่นกรณีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องโฆษณาตามเวลาในรูปแบบที่ถูกกำหนด เป็นต้น

ประเด็น "การสื่อสารในสื่อออนไลน์ประเด็นการชิงโชคและการพนัน" พบว่าสื่อออนไลน์มีเนื้อหาส่งเสริมการพนันทุกระดับ โดยสื่อเว็บไซต์เป็นช่องทางสำคัญที่ให้ข้อมูลที่ใช้ในการพนันได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐไม่มีประสิทธิภาพเท่าทันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การตรวจจับการปิดกั้นเว็บไซต์เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ISP) รวมถึงการสร้างเว็บไซต์ปัจจุบันทำได้ง่าย เมื่อถูกสั่งปิดก็โอนย้ายไปเปิดที่ใหม่ได้ทันที

"จากการศึกษาสื่อออนไลน์ใน 4 ประเด็นที่ผ่านมา ทำให้เห็นทั้งบทบาทและปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้น และส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งจะเห็นได้ว่าสิ่งสำคัญของสื่อออนไลน์คือการตรวจสอบให้เท่าทัน"

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436650410

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.