17 กรกฎาคม 2558 (บทความ) จีนฟ้องร้อง "ซัมซุง-ออปโป้" // ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนประสบกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้ใช้รุ่นระดับไฮเอนด์หรือรุ่นที่มีความจุภายในสูงๆนั่นคือปัญหาหน่วยความจำเต็ม
ประเด็นหลัก
สำหรับการดำเนินคดีฟ้องร้องซัมซุงและออปโป้โดยคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้เป็นความพยายามของคณะกรรมการที่จะกรุยทางไปสู่การคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคในประเด็นนี้และหวังว่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่บีบให้บริษัทอื่นๆ ในธุรกิจนี้เลิกพฤติกรรมในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นอย่างไร้เหตุผล แต่กระทำกันเป็นการทั่วไปโดยไม่แจ้งต่อผู้บริโภค เป็นการดำเนินคดีกับพฤติกรรมของบริษัทใหญ่แทนผู้บริโภคหรือกลุ่มพลเมือง ซึ่งถ้าปล่อยให้ดำเนินการกันเองก็สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีแรกประเภทนี้ที่ศาลเซี่ยงไฮ้รับฟ้องหากชนะประโยชน์ก็ตกแก่ผู้บริโภคและบางทีคดีนี้อาจช่วยสะกิดคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านนี้ได้ด้วย
____________________________________
จีนฟ้องร้อง "ซัมซุง-ออปโป้"
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
อย่างที่รู้กันอยู่ว่า "สมาร์ทโฟน" เป็นมากกว่าโทรศัพท์สำหรับการติดต่อสื่อสาร เราสามารถทำอะไรอื่น ๆได้อีกมากมายนอกเหนือไปจากการโทรศัพท์ติดต่อกันด้วยเสียง ทั้งหมดนั้นทำได้โดยผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมายเหลือคณานับ
อย่างไรก็ตาม มีอยู่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนประสบกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้ใช้รุ่นระดับไฮเอนด์หรือรุ่นที่มีความจุภายในสูงๆนั่นคือปัญหาหน่วยความจำเต็มแม้ว่าจะโยกย้ายแอปพลิเคชั่นส่วนหนึ่งที่ย้ายได้ออกไปอยู่บนการ์ดหน่วยความจำภายนอกแล้วก็ตาม และเมื่อหน่วยความจำเต็มหรือใกล้เต็ม ปัญหาในการใช้งานจุกจิกก็จะตามมาโดยหาสาเหตุไม่ได้อีก
นอกจากนั้น แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งล่วงหน้ามาแล้วส่วนใหญ่ยังไม่สามารถถอดถอนได้ แม้เจ้าของสมาร์ทโฟนจะไม่ได้ใช้ก็ตาม แถมยังย้ายไปไว้ในการ์ดไม่ได้อีกด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่น่าสนใจ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่พูดถึงโดยตรงก็ตาม นั่นคือ การประกาศใช้มาตรการตามกฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ขายอยู่ในจีน 2 ราย ได้แก่ ซัมซุงและออปโป้ ต่อวิธีปฏิบัติของทั้งสองบริษัทในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นลงในสมาร์ทโฟนก่อนการขาย
ในการศึกษาของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้จากสมาร์ทโฟน 20 ยี่ห้อ พบว่าหลายเจ้าติดตั้งแอปพลิเคชั่นไว้ล่วงหน้า และผู้บริโภคไม่สามารถถอดถอนการติดตั้งได้ นอกจากนั้น ยังอ้างว่าบางแอปพลิเคชั่นของบางบริษัทขโมยข้อมูลของลูกค้าด้วย
สมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่อ้างว่าใช้โมเดลดังกล่าว ได้แก่ Samsung Galaxy Note 3(Samsung SM-N9008S) มี 44 แอปพลิเคชั่นและ Oppo Find 7A (Oppo X9007) 71 แอปพลิเคชั่น
ทั้งสองบริษัทไม่ได้แจ้งข้อมูลกับผู้ซื้อว่ามีแอปพลิเคชั่นที่ละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภคติดตั้งไว้ล่วงหน้า
ในสำนวนฟ้องที่ศาลประทับรับฟ้องไว้แล้วนั้นเรียกร้องให้ทั้งสองบริษัทมีข้อความที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ว่ามีแอปพลิเคชั่นอะไรติดตั้งอยู่แล้วล่วงหน้าพร้อมทั้งขั้นตอนวิธีการในการถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการออกไป
การไม่สามารถถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการออกได้นั้นเป็นปัญหาร่วมกันของผู้บริโภคมีแอปพลิเคชั่นซึ่งเจ้าของไม่จำเป็นหรือไม่เคยแม้แต่จะใช้ติดตั้งอยู่แย่งชิงเอาพื้นที่หน่วยความจำไปครองไว้โดยไม่สามารถถอดถอนได้ ไม่เพียงก่อให้เกิดความหงุดหงิดรำคาญเท่านั้น เพราะมันทำให้ไม่เหลือพื้นที่สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่ต้องการใช้ลงไปได้ด้วย
ก่อนหน้านี้มีคดีการฟ้องร้องโดยสุภาพสตรีคนหนึ่งในกวางตุ้ง ต่อแอปเปิลกรณีไม่สามารถถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการและแอบขโมยข้อมูลออกจากไอโฟน 5 ของเธอได้ แต่คดีดังกล่าวพ่ายแพ้ในศาลชั้นต้น และอยู่ในระหว่างการยื่นอุทธรณ์
สำหรับการดำเนินคดีฟ้องร้องซัมซุงและออปโป้โดยคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้เป็นความพยายามของคณะกรรมการที่จะกรุยทางไปสู่การคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคในประเด็นนี้และหวังว่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่บีบให้บริษัทอื่นๆ ในธุรกิจนี้เลิกพฤติกรรมในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นอย่างไร้เหตุผล แต่กระทำกันเป็นการทั่วไปโดยไม่แจ้งต่อผู้บริโภค เป็นการดำเนินคดีกับพฤติกรรมของบริษัทใหญ่แทนผู้บริโภคหรือกลุ่มพลเมือง ซึ่งถ้าปล่อยให้ดำเนินการกันเองก็สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีแรกประเภทนี้ที่ศาลเซี่ยงไฮ้รับฟ้องหากชนะประโยชน์ก็ตกแก่ผู้บริโภคและบางทีคดีนี้อาจช่วยสะกิดคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านนี้ได้ด้วย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436419692
สำหรับการดำเนินคดีฟ้องร้องซัมซุงและออปโป้โดยคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้เป็นความพยายามของคณะกรรมการที่จะกรุยทางไปสู่การคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคในประเด็นนี้และหวังว่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่บีบให้บริษัทอื่นๆ ในธุรกิจนี้เลิกพฤติกรรมในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นอย่างไร้เหตุผล แต่กระทำกันเป็นการทั่วไปโดยไม่แจ้งต่อผู้บริโภค เป็นการดำเนินคดีกับพฤติกรรมของบริษัทใหญ่แทนผู้บริโภคหรือกลุ่มพลเมือง ซึ่งถ้าปล่อยให้ดำเนินการกันเองก็สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีแรกประเภทนี้ที่ศาลเซี่ยงไฮ้รับฟ้องหากชนะประโยชน์ก็ตกแก่ผู้บริโภคและบางทีคดีนี้อาจช่วยสะกิดคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านนี้ได้ด้วย
____________________________________
จีนฟ้องร้อง "ซัมซุง-ออปโป้"
คอลัมน์ IT.Talentz โดย siripong@kidtalentz.com
อย่างที่รู้กันอยู่ว่า "สมาร์ทโฟน" เป็นมากกว่าโทรศัพท์สำหรับการติดต่อสื่อสาร เราสามารถทำอะไรอื่น ๆได้อีกมากมายนอกเหนือไปจากการโทรศัพท์ติดต่อกันด้วยเสียง ทั้งหมดนั้นทำได้โดยผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมายเหลือคณานับ
อย่างไรก็ตาม มีอยู่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนประสบกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้ใช้รุ่นระดับไฮเอนด์หรือรุ่นที่มีความจุภายในสูงๆนั่นคือปัญหาหน่วยความจำเต็มแม้ว่าจะโยกย้ายแอปพลิเคชั่นส่วนหนึ่งที่ย้ายได้ออกไปอยู่บนการ์ดหน่วยความจำภายนอกแล้วก็ตาม และเมื่อหน่วยความจำเต็มหรือใกล้เต็ม ปัญหาในการใช้งานจุกจิกก็จะตามมาโดยหาสาเหตุไม่ได้อีก
นอกจากนั้น แอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งล่วงหน้ามาแล้วส่วนใหญ่ยังไม่สามารถถอดถอนได้ แม้เจ้าของสมาร์ทโฟนจะไม่ได้ใช้ก็ตาม แถมยังย้ายไปไว้ในการ์ดไม่ได้อีกด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่น่าสนใจ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่พูดถึงโดยตรงก็ตาม นั่นคือ การประกาศใช้มาตรการตามกฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ขายอยู่ในจีน 2 ราย ได้แก่ ซัมซุงและออปโป้ ต่อวิธีปฏิบัติของทั้งสองบริษัทในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นลงในสมาร์ทโฟนก่อนการขาย
ในการศึกษาของคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้จากสมาร์ทโฟน 20 ยี่ห้อ พบว่าหลายเจ้าติดตั้งแอปพลิเคชั่นไว้ล่วงหน้า และผู้บริโภคไม่สามารถถอดถอนการติดตั้งได้ นอกจากนั้น ยังอ้างว่าบางแอปพลิเคชั่นของบางบริษัทขโมยข้อมูลของลูกค้าด้วย
สมาร์ทโฟน 2 รุ่นที่อ้างว่าใช้โมเดลดังกล่าว ได้แก่ Samsung Galaxy Note 3(Samsung SM-N9008S) มี 44 แอปพลิเคชั่นและ Oppo Find 7A (Oppo X9007) 71 แอปพลิเคชั่น
ทั้งสองบริษัทไม่ได้แจ้งข้อมูลกับผู้ซื้อว่ามีแอปพลิเคชั่นที่ละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภคติดตั้งไว้ล่วงหน้า
ในสำนวนฟ้องที่ศาลประทับรับฟ้องไว้แล้วนั้นเรียกร้องให้ทั้งสองบริษัทมีข้อความที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ว่ามีแอปพลิเคชั่นอะไรติดตั้งอยู่แล้วล่วงหน้าพร้อมทั้งขั้นตอนวิธีการในการถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการออกไป
การไม่สามารถถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการออกได้นั้นเป็นปัญหาร่วมกันของผู้บริโภคมีแอปพลิเคชั่นซึ่งเจ้าของไม่จำเป็นหรือไม่เคยแม้แต่จะใช้ติดตั้งอยู่แย่งชิงเอาพื้นที่หน่วยความจำไปครองไว้โดยไม่สามารถถอดถอนได้ ไม่เพียงก่อให้เกิดความหงุดหงิดรำคาญเท่านั้น เพราะมันทำให้ไม่เหลือพื้นที่สำหรับติดตั้งแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่ต้องการใช้ลงไปได้ด้วย
ก่อนหน้านี้มีคดีการฟ้องร้องโดยสุภาพสตรีคนหนึ่งในกวางตุ้ง ต่อแอปเปิลกรณีไม่สามารถถอดถอนแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการและแอบขโมยข้อมูลออกจากไอโฟน 5 ของเธอได้ แต่คดีดังกล่าวพ่ายแพ้ในศาลชั้นต้น และอยู่ในระหว่างการยื่นอุทธรณ์
สำหรับการดำเนินคดีฟ้องร้องซัมซุงและออปโป้โดยคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้เป็นความพยายามของคณะกรรมการที่จะกรุยทางไปสู่การคุ้มครองสิทธิ์ผู้บริโภคในประเด็นนี้และหวังว่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่บีบให้บริษัทอื่นๆ ในธุรกิจนี้เลิกพฤติกรรมในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นอย่างไร้เหตุผล แต่กระทำกันเป็นการทั่วไปโดยไม่แจ้งต่อผู้บริโภค เป็นการดำเนินคดีกับพฤติกรรมของบริษัทใหญ่แทนผู้บริโภคหรือกลุ่มพลเมือง ซึ่งถ้าปล่อยให้ดำเนินการกันเองก็สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีแรกประเภทนี้ที่ศาลเซี่ยงไฮ้รับฟ้องหากชนะประโยชน์ก็ตกแก่ผู้บริโภคและบางทีคดีนี้อาจช่วยสะกิดคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านนี้ได้ด้วย
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1436419692
ไม่มีความคิดเห็น: