Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

29 กรกฎาคม 2558 Omid Kordestani ผู้บริหารจากกูเกิล ได้เผยว่า ผู้เข้าชมหน้าโฮมเพจของยูทิวบ์นั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และพวกเขาใช้ยังเวลารับชมวิดีโอมากกว่าในอดีต

ประเด็นหลัก



  โดย Omid Kordestani ผู้บริหารจากกูเกิล ได้เผยว่า ผู้เข้าชมหน้าโฮมเพจของยูทิวบ์นั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และพวกเขาใช้ยังเวลารับชมวิดีโอมากกว่าในอดีต ซึ่งทำให้ “Watch Time” ของยูทิวบ์นั้นตอนนี้สูงขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ซึ่งอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 2 ปีอีกด้วย
     
       การเติบโตของยูทิวบ์ที่นักลงทุนกล่าวขวัญถึงยังไม่หมด โดยพบว่า ในด้านการรับชมผ่านอุปกรณ์สื่อสารนั้น มีการรับชมยูทิวบ์โดยเฉลี่ยมากกว่า 40 นาที ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง Kordestani ระบุว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมการรับชมสื่อวิดีโอของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปแล้ว
     
       “เราไม่จำเป็นต้องนั่งชมทีวีจอใหญ่ๆ ในห้องนั่งเล่นอีกต่อไป แต่เป็นการรับชมบนแพลตฟอร์มอื่น เช่น บนโทรศัพท์ หรือบนแท็บเล็ตแทน”
     
       สำหรับยูทิวบ์ การรับชมในระยะเวลาที่นานขึ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เครือข่ายสำหรับแชร์คลิปวิดีโอนี้ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการเข้ามาเพื่อรับชม คลิปสั้นๆ หรือเข้ามาชมคลิปที่เพื่อนโพสต์แล้วก็จากไป แต่ตอนนี้ยูทิวบ์กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่ยูสเซอร์สามารถรับชมคลิปได้แบบต่อ เนื่องแล้วนั่นเอง
     
       โดย Kordestani เผยว่า ความสำเร็จของยูทิวบ์มาจากการเป็นผู้ริเริ่มในแพลตฟอร์มวิดีโอเป็นรายแรก อีกทั้งยังมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยแนะนำวิดีโอใหม่ๆ ให้แก่ยูสเซอร์ รวมถึงเครื่องมือช่วยให้การติดตามรายการโปรดเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น





___________________________________________




ยอดชมยูทิวบ์สูง 3 เท่า เบื้องหลังความสำเร็จ Q2 ของกูเกิล




        หลังการแถลงผลประกอบการไตรมาส 2 ของกูเกิลที่ออกมาดีจนนักลงทุนยกนิ้วโป้งให้ ล่าสุด ทางยูทิวบ์ (YouTube) หนึ่งในขุนพลหลักของกูเกิล (Google) ก็ได้ประกาศตัวเลขการรับชมที่เผยให้เห็นว่า ปัจจุบัน ยอดการรับชมยูทิวบ์นั้นสูงแซงหน้าสื่อเคเบิลทีวีของสหรัฐอเมริกาไปเสียแล้ว
     
       โดย Omid Kordestani ผู้บริหารจากกูเกิล ได้เผยว่า ผู้เข้าชมหน้าโฮมเพจของยูทิวบ์นั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และพวกเขาใช้ยังเวลารับชมวิดีโอมากกว่าในอดีต ซึ่งทำให้ “Watch Time” ของยูทิวบ์นั้นตอนนี้สูงขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ซึ่งอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 2 ปีอีกด้วย
     
       การเติบโตของยูทิวบ์ที่นักลงทุนกล่าวขวัญถึงยังไม่หมด โดยพบว่า ในด้านการรับชมผ่านอุปกรณ์สื่อสารนั้น มีการรับชมยูทิวบ์โดยเฉลี่ยมากกว่า 40 นาที ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง Kordestani ระบุว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมการรับชมสื่อวิดีโอของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปแล้ว
     
       “เราไม่จำเป็นต้องนั่งชมทีวีจอใหญ่ๆ ในห้องนั่งเล่นอีกต่อไป แต่เป็นการรับชมบนแพลตฟอร์มอื่น เช่น บนโทรศัพท์ หรือบนแท็บเล็ตแทน”
     
       สำหรับยูทิวบ์ การรับชมในระยะเวลาที่นานขึ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เครือข่ายสำหรับแชร์คลิปวิดีโอนี้ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการเข้ามาเพื่อรับชมคลิปสั้นๆ หรือเข้ามาชมคลิปที่เพื่อนโพสต์แล้วก็จากไป แต่ตอนนี้ยูทิวบ์กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่ยูสเซอร์สามารถรับชมคลิปได้แบบต่อเนื่องแล้วนั่นเอง
     
       โดย Kordestani เผยว่า ความสำเร็จของยูทิวบ์มาจากการเป็นผู้ริเริ่มในแพลตฟอร์มวิดีโอเป็นรายแรก อีกทั้งยังมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยแนะนำวิดีโอใหม่ๆ ให้แก่ยูสเซอร์ รวมถึงเครื่องมือช่วยให้การติดตามรายการโปรดเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
     
       นอกจากนี้ จากการสำรวจของ Miner & Co. ยังพบว่า ในกลุ่มผู้ใช้วัยเด็ก ยูทิวบ์นั้นมีความสำคัญเทียบเท่า “ทีวี” แล้ว เนื่องจากมีพ่อแม่ถึง 57 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า เมื่อจะเปิดวิดีโอให้เด็กๆ ดู เด็กๆ มักจะถามถึงอุปกรณ์โมบายมากกว่าจะมองไปที่ทีวีเหมือนในอดีต และเมื่อต้องถูกลงโทษ ผลการสำรวจเผยว่า มีเด็กกว่าครึ่งที่บอกว่าพ่อแม่ลงโทษโดยการยึดแท็บเล็ต แทนที่จะเป็นการบอกว่าอดดูทีวีเสียด้วย
     
       ไม่เฉพาะในเด็กเล็ก แต่ในกลุ่มวัยรุ่นของสหรัฐอเมริกา ผลสำรวจของ Miner & Co. ก็พบว่า คนดังในยูทิวบ์สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กวัยรุ่นมากกว่าดารากระแสหลัก เช่น ดาราฮอลลีวูด แล้วเช่นกัน
     
       ด้านข้อมูลจาก eMarketer ก็ระบุว่า ในปี ค.ศ.2015 ผู้บริโภควัยผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 31 นาที ในการรับชมสื่อวิดีโอ ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวเป็นการรับชมบนคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร และเครื่องเล่นเกมคอนโซล ถึง 1 ชั่วโมง 16 นาที ซึ่งมากกว่าในปี ค.ศ.2014 ที่มีการรับชมประมาณ 39 นาทีต่อวันด้วย
     
       แม้ในการแถลงผลประกอบการของกูเกิลเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Ruth Porat CFO ของกูเกิลจะไม่ได้ระบุชื่อโปรดักต์ที่เป็นแม่ทัพ แต่ในหลายๆ ข้อความก็อาจบอกใบ้ได้พอสมควรว่า แม่ทัพในไตรมาสนี้ของกูเกิลอาจเป็นยูทิวบ์นี่เอง


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000081742&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+21-7-58&utm_campaign=20150721_m126642777_Manager+Morning+Brief+21-7-58&utm_term=_E0_B8_A2_E0_B8_AD_E0_B8_94_E0_B8_8A_E0_B8_A1_E0_B8_A2_E0_B8_B9_E0_B8_97_E0_B8_B4_E0_B8_A7_E0_B8_9A_E0_B9_8C_E0_B8_AA_E0_B8_B9_E0_B8_87+3+_E0_B9_80_E0_B8_97_E0_B9_88_E0_B8_B2+_E0_B9_80_E0_B8_9A_E0_B8_B7_E0_B9_89_E0_B8_AD_E0_B8_87_E0_B8_AB_E0_B8_A5_E0_B8_B

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.