Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

27 กันยายน 2558 FACEBOOK ปิดสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ หวังดันผู้ใช้กว่า 34 ล้านรายในไทย ต่อยอดธุรกิจสินค้าไทยไปทั่วโลก ระบุชัด ชาวไทยใช้เวลากับเฟซบุ๊กกว่า 2.5 ชั่วโมงต่อวัน

ประเด็นหลัก







    เฟซบุ๊กเปิดสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ หวังดันผู้ใช้กว่า 34 ล้านรายในไทย ต่อยอดธุรกิจสินค้าไทยไปทั่วโลก ระบุชัด ชาวไทยใช้เวลากับเฟซบุ๊กกว่า 2.5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก กว่า 65% ค้นหาสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก โอ่เป็นช่องทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในไทย พร้อมสานต่อแพลตฟอร์มทางธุรกิจบนเฟซบุ๊ก แต่อุบสถานที่ตั้งสำนักงานประเทศไทย และไร้เงา Head of Thailand ที่ประกาศรับสมัครตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
   
       แดน เนียรี่ รองประธาน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค แห่ง Facebook กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามอง ด้วยจำนวนของผู้ใช้ และสถิติการใช้งาน โดยการเปิดสำนักงานประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเฟซบุ๊กที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทย และยังช่วยให้ผู้ใช้งานชาวไทย และธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย และมีความหมายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทีมงานที่สำนักงานประเทศไทยจะมุ่งเน้นให้การสนับสนุนแก่พันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมทั้งต่อยอดพันธกิจของ Facebook ในการทำให้ทั่วโลกเชื่อมต่อถึงกันได้มากยิ่งขึ้น
   
       “การตั้งสำนักงานในต่างประเทศของเฟซบุ๊กได้พยายามสร้างความถูกต้องด้านการเผยแพร่ข้อมูลให้เกิดขึ้นตามมาตรฐานสากลจากความร่วมมือของผู้ใช้งาน และหน่วยงานรัฐในแต่ละประเทศ ซึ่งแม้ว่า บางประเทศจะมีข้อห้ามบางประการ แต่เราก็จะพยายามสร้างความชัดเจนตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน เราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามมาตรฐานสากลกับหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานให้เข้ากับประเทศไทยได้มากที่สุด”









____________________________________________







เฟซบุ๊กแถลงเปิดออฟฟิศในไทย แต่อุบสถานที่ตั้ง ไร้เงา Head of Thailand



        เฟซบุ๊กเปิดสำนักงานในไทยอย่างเป็นทางการ หวังดันผู้ใช้กว่า 34 ล้านรายในไทย ต่อยอดธุรกิจสินค้าไทยไปทั่วโลก ระบุชัด ชาวไทยใช้เวลากับเฟซบุ๊กกว่า 2.5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก กว่า 65% ค้นหาสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก โอ่เป็นช่องทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในไทย พร้อมสานต่อแพลตฟอร์มทางธุรกิจบนเฟซบุ๊ก แต่อุบสถานที่ตั้งสำนักงานประเทศไทย และไร้เงา Head of Thailand ที่ประกาศรับสมัครตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
     
       แดน เนียรี่ รองประธาน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค แห่ง Facebook กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าจับตามอง ด้วยจำนวนของผู้ใช้ และสถิติการใช้งาน โดยการเปิดสำนักงานประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเฟซบุ๊กที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทย และยังช่วยให้ผู้ใช้งานชาวไทย และธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย และมีความหมายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทีมงานที่สำนักงานประเทศไทยจะมุ่งเน้นให้การสนับสนุนแก่พันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมทั้งต่อยอดพันธกิจของ Facebook ในการทำให้ทั่วโลกเชื่อมต่อถึงกันได้มากยิ่งขึ้น
     
       “การตั้งสำนักงานในต่างประเทศของเฟซบุ๊กได้พยายามสร้างความถูกต้องด้านการเผยแพร่ข้อมูลให้เกิดขึ้นตามมาตรฐานสากลจากความร่วมมือของผู้ใช้งาน และหน่วยงานรัฐในแต่ละประเทศ ซึ่งแม้ว่า บางประเทศจะมีข้อห้ามบางประการ แต่เราก็จะพยายามสร้างความชัดเจนตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน เราพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามมาตรฐานสากลกับหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานให้เข้ากับประเทศไทยได้มากที่สุด”
     
       ปัจจุบัน คนไทยยังครองสถิติการใช้เวลาในโซเชียลเน็ตเวิร์กสูงที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เวลาอยู่บน Facebook โดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 35 นาทีต่อวัน 1 โดยมีจำนวนบัญชีผู้ใช้ในประเทศไทยมากกว่า 34 ล้านคน ซึ่งใช้งานแพลตฟอร์มนี้เป็นประจำทุกเดือน และมากกว่า 94% ของจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยทั้งหมด ใช้งาน Facebook เป็นประจำผ่านมือถือ (อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลของ Facebook ประจำเดือนมิถุนายน 2558) โดยกว่า 78% ของผู้ใช้ มีเฟซบุ๊กเพื่อติต่อสื่อสารกับคนรู้จัก และเพื่อร่วมงาน ขณะที่ 65% ใช้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตราสินค้าต่างๆ และทำให้เฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่มีคุณค่าในเชิงการตลาดอย่างมหาศาลสำหรับภาคธุรกิจ

เฟซบุ๊กแถลงเปิดออฟฟิศในไทย แต่อุบสถานที่ตั้ง ไร้เงา Head of Thailand
แดน เนียรี่ รองประธาน ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค (ที่ 2 จากซ้าย) รัฐิยา อิสระชัยกุล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย (ที่ 2 จากขวา) วิ โอภารัตน์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารลูกค้า (ซ้ายสุด) และอานนท์ สันติวิสุทธิ์ ผู้ดูแลฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ (ขวาสุด) เข้าร่วมในงานด้วย

        ขณะที่มีธุรกิจ SME ในประเทศไทยกว่า 2.76 ล้านราย หรือคิดเป็น 97.2% ของธุรกิจทั้งหมดที่มีการสำรวจในปี 2556 โดยธุรกิจในประเทศไทยกว่า 1.16 ล้านราย มีแฟนเพจเพื่อติดต่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า และกว่า 70% ของผู้ใช้เฟซบุ๊กจะมีการเชื่อมโยงทางใดทางหนึ่งกับธุรกิจขนาดเล็กอย่างน้อย 1 ราย และเมื่อความนิยมของ Facebook ผนวกรวมกับแนวโน้มการลงทุนโฆษณาบนสื่อดิจิตอล ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสูงถึงกว่า 10,000 ล้านบาทในปี 2558 ยิ่งสะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กที่พร้อมจะสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันสื่อโฆษณาหลากหลายรูปแบบสำหรับงบประมาณในทุกระดับ
     
       พร้อมกันนี้ เฟซบุ๊กยังได้เปิดตัวโฆษณาบนอินสตาแกรมในประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันอินสตาแกรมที่แอ็กทีฟกว่า 7.1 ล้านคนในประเทศไทย (ข้อมูลเมื่อเดือนมิถุนายน 2558) โดยการเริ่มใช้งานโฆษณาบนอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการนี้ จะช่วยให้นักโฆษณาที่ดูแลธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดย่อม บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ ด้วยโฆษณารูปแบบใหม่ล่าสุดที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป กลุ่มผู้ใช้งานอินสตาแกรมในประเทศไทย จะเริ่มเห็นโฆษณาจากพันธมิตรต่างๆ เช่น แอร์ เอเชีย ดีแทค ลาซาดา เทสโก้ โลตัส และซาลอร่า
     
       ทั้งนี้ ก่อนที่เฟซบุ๊กจะเปิดสำนักงานในประเทศไทยจะมีทีมงานระดับภูมิภาคซึ่งประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์คอยดูแล และสนับสนุนธุรกิจของไทย โดยเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศรับสมัคร Head of Thailand ทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ถึงการเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย จวบจนวันนี้ เฟซบุ๊กได้จัดงานเปิดตัวในไทยโดยที่ยังไม่สามารถระบุสถานที่ตั้งออฟฟิศได้อย่างเป็นทางการ และตำแหน่ง Head of Thailand ที่ยังไม่ปรากฏตัวว่าเป็นใครให้เห็นในงานวันเปิดตัวครั้งนี้ ซึ่งมีเพียง 3 ผู้บริหารชาวไทย ได้แก่ รัฐิยา อิสระชัยกุล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย วิ โอภารัตน์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารลูกค้า และ อานนท์ สันติวิสุทธิ์ ผู้ดูแลฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งจะเข้ามาดูแลลูกค้ากลุ่มธุรกิจในประเทศไทยเป็นหลัก สะท้อนให้เห็นว่า นับจากนี้ เป้าหมายของ Facebook คือ การสนับสนุนธุรกิจไทยให้ได้รับประโยชน์จากการใช้งาน Facebook ได้มากยิ่งขึ้น แม้จะห้อยท้ายว่า ต้องการช่วยให้ชาวไทยใช้ Facebook ในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเพื่อน และครอบครัวได้ในเวลาที่ต้องการได้มากขึ้นก็ตาม


http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000105416&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+18-9-58&utm_campaign=20150917_m127419900_Manager+Morning+Brief+18-9-58&utm_term=_E0_B9_80_E0_B8_9F_E0_B8_8B_E0_B8_9A_E0_B8_B8_E0_B9_8A_E0_B8_81_E0_B9_81_E0_B8_96_E0_B8_A5_E0_B8_87_E0_B9_80_E0_B8_9B_E0_B8_B4_E0_B8_94_E0_B8_AD_E0_B8_AD_E0_B8_9F_E0_B8_9F_E0_B8_B4_E0_B8_A8_E0_B9_83_E0_B8_99_E0_B9_84_E0_B8_97_E0_B8_A2+_E0_B9_81_E0_B8_95_E

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.