27 กันยายน 2558 ระบบปฏิบัติการ “WatchOS 2” จึงเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้นักพัฒนารู้สึกท้าทายมากขึ้นจากเดิมที่เคยถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ เ
ประเด็นหลัก
การมาถึงของระบบปฏิบัติการ “WatchOS 2” จึงเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้นักพัฒนารู้สึกท้าทายมากขึ้นจากเดิมที่เคยถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากโครงสร้างของระบบที่ค่อนข้างปิดกั้นอิสรภาพเอาไว้พอสมควรเมื่อเทียบกับ “ไอโฟน” รุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน
โดย Danielle Levitas จาก Techcrunch ได้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคเริ่มต้นของไอโฟนหลังการเปิดตัว 3 เดือน แอปของไอโฟนก็เพิ่มขึ้น 437 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แอปเปิลวอตช์นั้น มีอัตราการเติบโตของแอปในกลุ่มเพียง 274 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 11,469 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหากนักพัฒนามีความตื่นตัวพัฒนาแอปต่างๆ ให้เห็นมากขึ้นแล้ว โอกาสเติบโตของตลาดนี้ก็มีสูงตามไปด้วยนั่นเอง
____________________________________________
จับตา “WatchOS 2” เปลี่ยนโลกแอปพลิเคชัน
มีสถิติตัวหนึ่งเกี่ยวกับแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ที่น่าสนใจ นั่นคือ ยอดขายในช่วง 9 สัปดาห์แรกของโปรดักต์ตัวนี้ “เหนือกว่า” ยอดขายของไอโฟน และไอแพดในช่วง 9 สัปดาห์แรกของการเปิดตัว
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวอาจยังไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากตลาดสำหรับอุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับสวมใส่นั้นถือว่ายังเล็กมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน จากการเก็บสถิติจากบรรดาผู้ค้าพบว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เวนเดอร์รายต่างๆ สามารถขายอุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับสวมใส่รวมกันได้เพียง 11.4 ล้านชิ้น (อ้างอิงข้อมูลจาก eweek.com) ส่วนสมาร์ทโฟนนั้นยังขายได้ถึง 334.4 ล้านเครื่อง (อ้างอิงข้อมูลจากไอดีซี)
การมาถึงของระบบปฏิบัติการ “WatchOS 2” จึงเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้นักพัฒนารู้สึกท้าทายมากขึ้นจากเดิมที่เคยถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากโครงสร้างของระบบที่ค่อนข้างปิดกั้นอิสรภาพเอาไว้พอสมควรเมื่อเทียบกับ “ไอโฟน” รุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน
โดย Danielle Levitas จาก Techcrunch ได้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคเริ่มต้นของไอโฟนหลังการเปิดตัว 3 เดือน แอปของไอโฟนก็เพิ่มขึ้น 437 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แอปเปิลวอตช์นั้น มีอัตราการเติบโตของแอปในกลุ่มเพียง 274 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 11,469 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหากนักพัฒนามีความตื่นตัวพัฒนาแอปต่างๆ ให้เห็นมากขึ้นแล้ว โอกาสเติบโตของตลาดนี้ก็มีสูงตามไปด้วยนั่นเอง
อนาคตของแอปเปิลวอตช์หลังจาก WatchOS 2 มาถึงจึงอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้ใช้ในแง่ต่างๆ เช่น
- แอปรุ่นใหม่ๆ จะแทรกตัวเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ยุคต่อไปมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อาจมีแอปที่ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิตของมนุษย์ โดยอิงจากข้อมูลของนาฬิกา และการป้อนข้อมูลของผู้ใช้ เช่น มีการป้อนข้อมูลของอาหารที่รับประทานเข้าไป ป้อนสถานที่ที่คุณใช้ในการเดินออกกำลังกาย ระบบจะคำนวณว่า คุณจะลดน้ำหนักได้ภายในเวลาเท่าใด
นอกจากนั้น ยังอาจมีแอปที่คอยแจ้งให้ทราบว่า มีร้านอาหารดีๆ อยู่ในย่านใดบ้าง หรือหากคุณอยู่บ้าน และหิวขึ้นมาก็สามารถเรียกข้อมูลของร้านอาหารที่บริการอาหารสุขภาพแบบส่งให้ถึงบ้านขึ้นมาให้ได้ด้วย
- แอปที่เข้าถึงความเป็นส่วนตัวจะมีมากขึ้น หลายๆ คนอาจปิดกั้นตัวเอง มีพื้นที่เฉพาะของตัวเอง แต่ความสามารถของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ๆ อาจบุกรุกเข้ามายังพื้นที่นั้นได้อย่างแนบเนียน เช่น มันอาจสนิทกับคุณจนกระทั่งทราบว่า คุณอ้วนมาก และชอบเล่นเฟซบุ๊กอย่างมาก วันหนึ่งมันอาจออกกฎว่า ถ้าคุณไม่ออกกำลังกาย x ครั้ง คุณจะไม่สามารถล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กได้ ซึ่งนี่อาจเป็นไม้ตายที่แม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่สุดก็ยังไม่สามารถทำกับคุณได้เลย เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น แอปเปิลยังอาจใช้แพลตฟอร์มนาฬิกาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ควบคุมหลักของอุปกรณ์ IoT สำหรับบ้าน และรถยนต์ ที่กำลังเร่งพัฒนากันอย่างครึกโครมในเวลานี้ด้วยเช่นกัน
การอนุญาตให้นักพัฒนาเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของแอปเปิลวอตช์จึงเป็นการเดิมพันอีกครั้งถึงอนาคตของนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ว่า นักพัฒนาจะมีแรงบันดาลใจสร้างสรรค์แอปโดนๆ ให้แก่แอปเปิลวอตช์เรือนนี้ได้หรือไม่นั่นเอง
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000103792&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+15-9-58&utm_campaign=20150915_m127366250_Manager+Morning+Brief+15-9-58&utm_term=_E0_B8_88_E0_B8_B1_E0_B8_9A_E0_B8_95_E0_B8_B2+_E2_80_9CWatchOS+2_E2_80_9D+_E0_B9_80_E0_B8_9B_E0_B8_A5_E0_B8_B5_E0_B9_88_E0_B8_A2_E0_B8_99_E0_B9_82_E0_B8_A5_E0_B8_81_E0_B9_81_E0_B8_AD_E0_B8_9B_E0_B8_9E_E0_B8_A5_E0_B8_B4_E0_B9_80_E0_B8_84_E0_B8_8A_E0_B8_B1_
การมาถึงของระบบปฏิบัติการ “WatchOS 2” จึงเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้นักพัฒนารู้สึกท้าทายมากขึ้นจากเดิมที่เคยถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากโครงสร้างของระบบที่ค่อนข้างปิดกั้นอิสรภาพเอาไว้พอสมควรเมื่อเทียบกับ “ไอโฟน” รุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน
โดย Danielle Levitas จาก Techcrunch ได้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคเริ่มต้นของไอโฟนหลังการเปิดตัว 3 เดือน แอปของไอโฟนก็เพิ่มขึ้น 437 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แอปเปิลวอตช์นั้น มีอัตราการเติบโตของแอปในกลุ่มเพียง 274 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 11,469 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหากนักพัฒนามีความตื่นตัวพัฒนาแอปต่างๆ ให้เห็นมากขึ้นแล้ว โอกาสเติบโตของตลาดนี้ก็มีสูงตามไปด้วยนั่นเอง
____________________________________________
จับตา “WatchOS 2” เปลี่ยนโลกแอปพลิเคชัน
มีสถิติตัวหนึ่งเกี่ยวกับแอปเปิลวอตช์ (Apple Watch) ที่น่าสนใจ นั่นคือ ยอดขายในช่วง 9 สัปดาห์แรกของโปรดักต์ตัวนี้ “เหนือกว่า” ยอดขายของไอโฟน และไอแพดในช่วง 9 สัปดาห์แรกของการเปิดตัว
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวอาจยังไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากตลาดสำหรับอุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับสวมใส่นั้นถือว่ายังเล็กมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน จากการเก็บสถิติจากบรรดาผู้ค้าพบว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เวนเดอร์รายต่างๆ สามารถขายอุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับสวมใส่รวมกันได้เพียง 11.4 ล้านชิ้น (อ้างอิงข้อมูลจาก eweek.com) ส่วนสมาร์ทโฟนนั้นยังขายได้ถึง 334.4 ล้านเครื่อง (อ้างอิงข้อมูลจากไอดีซี)
การมาถึงของระบบปฏิบัติการ “WatchOS 2” จึงเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นตลาดที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถกระตุ้นให้นักพัฒนารู้สึกท้าทายมากขึ้นจากเดิมที่เคยถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากโครงสร้างของระบบที่ค่อนข้างปิดกั้นอิสรภาพเอาไว้พอสมควรเมื่อเทียบกับ “ไอโฟน” รุ่นพี่จากค่ายเดียวกัน
โดย Danielle Levitas จาก Techcrunch ได้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคเริ่มต้นของไอโฟนหลังการเปิดตัว 3 เดือน แอปของไอโฟนก็เพิ่มขึ้น 437 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แอปเปิลวอตช์นั้น มีอัตราการเติบโตของแอปในกลุ่มเพียง 274 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 11,469 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหากนักพัฒนามีความตื่นตัวพัฒนาแอปต่างๆ ให้เห็นมากขึ้นแล้ว โอกาสเติบโตของตลาดนี้ก็มีสูงตามไปด้วยนั่นเอง
อนาคตของแอปเปิลวอตช์หลังจาก WatchOS 2 มาถึงจึงอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้ใช้ในแง่ต่างๆ เช่น
- แอปรุ่นใหม่ๆ จะแทรกตัวเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ยุคต่อไปมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อาจมีแอปที่ช่วยปรับพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิตของมนุษย์ โดยอิงจากข้อมูลของนาฬิกา และการป้อนข้อมูลของผู้ใช้ เช่น มีการป้อนข้อมูลของอาหารที่รับประทานเข้าไป ป้อนสถานที่ที่คุณใช้ในการเดินออกกำลังกาย ระบบจะคำนวณว่า คุณจะลดน้ำหนักได้ภายในเวลาเท่าใด
นอกจากนั้น ยังอาจมีแอปที่คอยแจ้งให้ทราบว่า มีร้านอาหารดีๆ อยู่ในย่านใดบ้าง หรือหากคุณอยู่บ้าน และหิวขึ้นมาก็สามารถเรียกข้อมูลของร้านอาหารที่บริการอาหารสุขภาพแบบส่งให้ถึงบ้านขึ้นมาให้ได้ด้วย
- แอปที่เข้าถึงความเป็นส่วนตัวจะมีมากขึ้น หลายๆ คนอาจปิดกั้นตัวเอง มีพื้นที่เฉพาะของตัวเอง แต่ความสามารถของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ๆ อาจบุกรุกเข้ามายังพื้นที่นั้นได้อย่างแนบเนียน เช่น มันอาจสนิทกับคุณจนกระทั่งทราบว่า คุณอ้วนมาก และชอบเล่นเฟซบุ๊กอย่างมาก วันหนึ่งมันอาจออกกฎว่า ถ้าคุณไม่ออกกำลังกาย x ครั้ง คุณจะไม่สามารถล็อกอินเข้าเฟซบุ๊กได้ ซึ่งนี่อาจเป็นไม้ตายที่แม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่สุดก็ยังไม่สามารถทำกับคุณได้เลย เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น แอปเปิลยังอาจใช้แพลตฟอร์มนาฬิกาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ควบคุมหลักของอุปกรณ์ IoT สำหรับบ้าน และรถยนต์ ที่กำลังเร่งพัฒนากันอย่างครึกโครมในเวลานี้ด้วยเช่นกัน
การอนุญาตให้นักพัฒนาเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของแอปเปิลวอตช์จึงเป็นการเดิมพันอีกครั้งถึงอนาคตของนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ว่า นักพัฒนาจะมีแรงบันดาลใจสร้างสรรค์แอปโดนๆ ให้แก่แอปเปิลวอตช์เรือนนี้ได้หรือไม่นั่นเอง
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000103792&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=Manager+Morning+Brief+15-9-58&utm_campaign=20150915_m127366250_Manager+Morning+Brief+15-9-58&utm_term=_E0_B8_88_E0_B8_B1_E0_B8_9A_E0_B8_95_E0_B8_B2+_E2_80_9CWatchOS+2_E2_80_9D+_E0_B9_80_E0_B8_9B_E0_B8_A5_E0_B8_B5_E0_B9_88_E0_B8_A2_E0_B8_99_E0_B9_82_E0_B8_A5_E0_B8_81_E0_B9_81_E0_B8_AD_E0_B8_9B_E0_B8_9E_E0_B8_A5_E0_B8_B4_E0_B9_80_E0_B8_84_E0_B8_8A_E0_B8_B1_
ไม่มีความคิดเห็น: