18 ตุลาคม 2558 ICT เตรียมสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ โดยการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การยกระดับเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล
ประเด็นหลัก
ที่สยามพารากอนนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยสาระและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยในงานสัมนา Post Forum 2015 ว่า กระทรวงไอซีทีได้เตรียมสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ โดยการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การยกระดับเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีได้วางเป้าหมายดำเนินการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนวัตกรรม รวมถึงการสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีโดยการเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล
_______________________________________
ไอซีทีวางกรอบมุ่งสู่ดิจิตอลไทยแลนด์
„ไอซีทีวางกรอบมุ่งสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ ไอซีทีเผยในงานสัมนาPost Forum2015 วางเป้าการทำงานรอบด้าน พร้อมเข้าสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ รับนโยบายเศรษฐกิจ ดิจิตอล วันพฤหัสที่ 15 ตุลาคม 2558 เวลา 19:00 น. วันนี้(15ต.ค.) ที่สยามพารากอนนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยสาระและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยในงานสัมนา Post Forum 2015 ว่า กระทรวงไอซีทีได้เตรียมสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ โดยการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การยกระดับเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีได้วางเป้าหมายดำเนินการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนวัตกรรม รวมถึงการสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีโดยการเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล ในขณะเดียวกันยังได้มีเป้าหมายพัฒนาทุนมนุษย์ให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างมีความรับผิดชอบ และการเปลี่ยนกระบวนบริการภาครัฐให้ประชาชนสามารถติดต่องานบริการภาครัฐสะดวกยิ่งขึ้นและ มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สามารถดำเนินงานและบริการประชาชนได้อย่างโปร่งใส นายอุตตมกล่าวต่อว่า ไอซีทียังเพิ่มศูนย์ไอซีทีชุมชน จากเดิมที่มีอยู่ 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางในการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน ส่งเสริม เรียนรู้และต่อยอดนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงสร้างศูนย์เชื่อมโยงเครือข่ายของธุรกิจเกิดใหม่ หรือสตาร์ทอัพ เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจดิจิตอล นอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจธุรกรรมที่เกิดจากการซื้อขายออนไลน์โดยการออกกฏหมายใหม่รองรับอีกด้วย.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/354612
ที่สยามพารากอนนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยสาระและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยในงานสัมนา Post Forum 2015 ว่า กระทรวงไอซีทีได้เตรียมสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ โดยการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การยกระดับเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีได้วางเป้าหมายดำเนินการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนวัตกรรม รวมถึงการสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีโดยการเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล
_______________________________________
ไอซีทีวางกรอบมุ่งสู่ดิจิตอลไทยแลนด์
„ไอซีทีวางกรอบมุ่งสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ ไอซีทีเผยในงานสัมนาPost Forum2015 วางเป้าการทำงานรอบด้าน พร้อมเข้าสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ รับนโยบายเศรษฐกิจ ดิจิตอล วันพฤหัสที่ 15 ตุลาคม 2558 เวลา 19:00 น. วันนี้(15ต.ค.) ที่สยามพารากอนนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยสาระและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยในงานสัมนา Post Forum 2015 ว่า กระทรวงไอซีทีได้เตรียมสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนประเทศไทยสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ โดยการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การยกระดับเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตของคนไทย เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีได้วางเป้าหมายดำเนินการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนวัตกรรม รวมถึงการสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีโดยการเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล ในขณะเดียวกันยังได้มีเป้าหมายพัฒนาทุนมนุษย์ให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างมีความรับผิดชอบ และการเปลี่ยนกระบวนบริการภาครัฐให้ประชาชนสามารถติดต่องานบริการภาครัฐสะดวกยิ่งขึ้นและ มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สามารถดำเนินงานและบริการประชาชนได้อย่างโปร่งใส นายอุตตมกล่าวต่อว่า ไอซีทียังเพิ่มศูนย์ไอซีทีชุมชน จากเดิมที่มีอยู่ 2,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางในการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน ส่งเสริม เรียนรู้และต่อยอดนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงสร้างศูนย์เชื่อมโยงเครือข่ายของธุรกิจเกิดใหม่ หรือสตาร์ทอัพ เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจดิจิตอล นอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจธุรกรรมที่เกิดจากการซื้อขายออนไลน์โดยการออกกฏหมายใหม่รองรับอีกด้วย.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/it/354612
ไม่มีความคิดเห็น: