14 พฤศจิกายน 2558 "โกแบร์" ในเครือ BCD Group ชี้ จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยพบว่า นอกจากจะเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วยังชอบเปรียบเทียบสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเปิดให้บริการเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้ 50,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะมีกว่า 100,000 ราย และ1,000,000 รายในปี 2559
ประเด็นหลัก
"ศีล นวมานนท์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกแบร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของโกแบร์เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงบริการรวมถึงการมีอำนาจในการตัดสินใจและเปรียบเทียบข้อมูลซึ่งบริการที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้นแต่ยังไม่มีทำตลาดจริงจังคือบริการการเงินต่างๆ
"เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Metasearch (เครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์) อยู่แล้ว ในเมื่อในตลาดยังไม่มีใครทำจริงจังถือเป็นโอกาสในฐานะเว็บไซต์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์การเงิน เปรียบเทียบประกันภัย และการท่องเที่ยวเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ เราไม่ได้ขายประกันภัยโดยตรง แต่พาผู้ใช้ไปยังเว็บของบริษัท หรือตัวแทนโดยอัตโนมัติเพื่อซื้อโดยตรง หลังเปิดที่สิงคโปร์ได้รับการตอบรับดีมากมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเดือนละ 50% จึงขยายมายังประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ที่ไทย"
จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยพบว่า นอกจากจะเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วยังชอบเปรียบเทียบสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเปิดให้บริการเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้ 50,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะมีกว่า 100,000 ราย และ1,000,000 รายในปี 2559 โดยระยะแรกจะมีบริการด้านประกันภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยการเดินทาง และจะเพิ่มบริการตามความต้องการของลูกค้า
_________________________________________
"โกแบร์" ตัวช่วยไฮเทค เมื่อบริการการเงิน "โกออนไลน์"
สินค้าและบริการสารพัดชนิดตบเท้าเข้าสู่โลกออนไลน์กันอย่างคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่ผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน ล่าสุดยักษ์ข้ามชาติ "โกแบร์" ในเครือ BCD Group จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็รุกเข้ามาขยายตลาด Financial Metasearch ในประเทศไทย ผ่านเว็บไซต์ www.gobear.co.th เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัวบริการเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ ไปเมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา
"ศีล นวมานนท์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกแบร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของโกแบร์เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงบริการรวมถึงการมีอำนาจในการตัดสินใจและเปรียบเทียบข้อมูลซึ่งบริการที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้นแต่ยังไม่มีทำตลาดจริงจังคือบริการการเงินต่างๆ
"เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Metasearch (เครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์) อยู่แล้ว ในเมื่อในตลาดยังไม่มีใครทำจริงจังถือเป็นโอกาสในฐานะเว็บไซต์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์การเงิน เปรียบเทียบประกันภัย และการท่องเที่ยวเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ เราไม่ได้ขายประกันภัยโดยตรง แต่พาผู้ใช้ไปยังเว็บของบริษัท หรือตัวแทนโดยอัตโนมัติเพื่อซื้อโดยตรง หลังเปิดที่สิงคโปร์ได้รับการตอบรับดีมากมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเดือนละ 50% จึงขยายมายังประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ที่ไทย"
จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยพบว่า นอกจากจะเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วยังชอบเปรียบเทียบสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเปิดให้บริการเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้ 50,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะมีกว่า 100,000 ราย และ1,000,000 รายในปี 2559 โดยระยะแรกจะมีบริการด้านประกันภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยการเดินทาง และจะเพิ่มบริการตามความต้องการของลูกค้า
"เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 จะเน้นหารายได้จริงจัง รูปแบบปัจจุบันคือ "คลิก เปอร์ เพย์" พาร์ตเนอร์จ่าย หากมียอดผู้เข้าชมจำนวนมากในเว็บไซต์พาร์ตเนอร์ บริษัทจะมีรายได้เข้ามา เพราะไม่ได้เก็บค่าคอมมิสชั่น"
ในแง่การแข่งขันยังไม่มีคู่แข่งโดยตรงส่วนใหญ่ที่ให้บริการจะเป็นโบรกเกอร์เก็บค่าคอมมิสชั่นและกำลังศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในมาเลเซียฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียคาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1446449414
"ศีล นวมานนท์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกแบร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของโกแบร์เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงบริการรวมถึงการมีอำนาจในการตัดสินใจและเปรียบเทียบข้อมูลซึ่งบริการที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้นแต่ยังไม่มีทำตลาดจริงจังคือบริการการเงินต่างๆ
"เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Metasearch (เครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์) อยู่แล้ว ในเมื่อในตลาดยังไม่มีใครทำจริงจังถือเป็นโอกาสในฐานะเว็บไซต์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์การเงิน เปรียบเทียบประกันภัย และการท่องเที่ยวเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ เราไม่ได้ขายประกันภัยโดยตรง แต่พาผู้ใช้ไปยังเว็บของบริษัท หรือตัวแทนโดยอัตโนมัติเพื่อซื้อโดยตรง หลังเปิดที่สิงคโปร์ได้รับการตอบรับดีมากมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเดือนละ 50% จึงขยายมายังประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ที่ไทย"
จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยพบว่า นอกจากจะเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วยังชอบเปรียบเทียบสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเปิดให้บริการเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้ 50,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะมีกว่า 100,000 ราย และ1,000,000 รายในปี 2559 โดยระยะแรกจะมีบริการด้านประกันภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยการเดินทาง และจะเพิ่มบริการตามความต้องการของลูกค้า
_________________________________________
"โกแบร์" ตัวช่วยไฮเทค เมื่อบริการการเงิน "โกออนไลน์"
สินค้าและบริการสารพัดชนิดตบเท้าเข้าสู่โลกออนไลน์กันอย่างคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่ผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน ล่าสุดยักษ์ข้ามชาติ "โกแบร์" ในเครือ BCD Group จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็รุกเข้ามาขยายตลาด Financial Metasearch ในประเทศไทย ผ่านเว็บไซต์ www.gobear.co.th เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัวบริการเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ ไปเมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา
"ศีล นวมานนท์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกแบร์ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของโกแบร์เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงบริการรวมถึงการมีอำนาจในการตัดสินใจและเปรียบเทียบข้อมูลซึ่งบริการที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่พ้นแต่ยังไม่มีทำตลาดจริงจังคือบริการการเงินต่างๆ
"เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Metasearch (เครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์) อยู่แล้ว ในเมื่อในตลาดยังไม่มีใครทำจริงจังถือเป็นโอกาสในฐานะเว็บไซต์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์การเงิน เปรียบเทียบประกันภัย และการท่องเที่ยวเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้ เราไม่ได้ขายประกันภัยโดยตรง แต่พาผู้ใช้ไปยังเว็บของบริษัท หรือตัวแทนโดยอัตโนมัติเพื่อซื้อโดยตรง หลังเปิดที่สิงคโปร์ได้รับการตอบรับดีมากมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเดือนละ 50% จึงขยายมายังประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่น ที่ไทย"
จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยพบว่า นอกจากจะเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วยังชอบเปรียบเทียบสินค้าและบริการก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเปิดให้บริการเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ใช้ 50,000 ราย คาดว่าในสิ้นปีจะมีกว่า 100,000 ราย และ1,000,000 รายในปี 2559 โดยระยะแรกจะมีบริการด้านประกันภัย เช่น ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยการเดินทาง และจะเพิ่มบริการตามความต้องการของลูกค้า
"เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 จะเน้นหารายได้จริงจัง รูปแบบปัจจุบันคือ "คลิก เปอร์ เพย์" พาร์ตเนอร์จ่าย หากมียอดผู้เข้าชมจำนวนมากในเว็บไซต์พาร์ตเนอร์ บริษัทจะมีรายได้เข้ามา เพราะไม่ได้เก็บค่าคอมมิสชั่น"
ในแง่การแข่งขันยังไม่มีคู่แข่งโดยตรงส่วนใหญ่ที่ให้บริการจะเป็นโบรกเกอร์เก็บค่าคอมมิสชั่นและกำลังศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในมาเลเซียฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียคาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1446449414
ไม่มีความคิดเห็น: