14 มีนาคม 2559 เปิดชมรม “Thailand MVNO Club” โดย แยกกันตามกลุ่มลูกค้า i-Mobile 3GX บกลุ่มการนำซิมการ์ดไปใส่ในมิเตอร์ไฟฟ้า My World 3G โทร.ฟรี 24 ชั่วโมง 168 ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต รถเช่า และการก่อสร้าง และ Penguinsim โปรโมชันให้ตรงต่อลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการ
ประเด็นหลัก
***แยกกันตามกลุ่มลูกค้า
นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะมีการรวมตัวกัน อาจจะทำให้ผู้บริโภคมองว่าไม่เกิดการแข่งขัน แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีการแข่งขันที่แตกต่างกันจากรูปแบบการทำตลาด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และมีฐานลูกค้าแตกต่างกัน เพียงแต่จะมีปัจจัยหลักร่วมกันคือพื้นที่ให้บริการต้องครอบคลุม
“ที่ผ่านมา การให้บริการ MVNO ของ i-Mobile 3GX ถึงจะมีลูกค้าหลายแสนราย แต่เนื่องจากพื้นที่ให้บริการของทีโอทีไม่ครอบคลุมจากสถานีฐานที่มีราว 5,000 สถานีฐานเท่านั้น ทำให้เมื่อทาง กสท โทรคมนาคม เปิดให้ MVNO สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้เห็นถึงโอกาสในการขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมจากสถานีฐานของ กสท กว่า 1.4 หมื่นสถานีฐานที่ครอบคลุมทั่วประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ทาง i-mobile 3GX ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่จะทำตลาดชัดเจน อย่างการเข้าไปจับกลุ่มการนำซิมการ์ดไปใส่ในมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบออนไลน์ในการส่งข้อมูล รวมถึงการบันเดิลไปพร้อมกับการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไอโมบาย และเข้าไปรุกในกลุ่มของหน่วยงานราชการ
ขณะที่ นายนิพนธ์ ชูเชิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ให้ข้อมูลว่า การให้บริการของ My World 3G จะเน้นไปที่การมีแพกเกจการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่ระดับราคา 199 บาท ไปจนถึง 1,888 บาท พร้อมกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด พร้อมโทร.ฟรี 24 ชั่วโมง
โดยนอกจากจับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ก็จะเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ GPS ระบบกล้องวงจรปิดในการส่งข้อมูลผ่านออนไลน์ ซึ่งได้เริ่มให้บริการมาแล้วประมาณ 1 เดือน มีลูกค้าเข้ามาใช้งานแล้วราว 1 พันราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 1 ล้านเลขหมาย
ส่วนทาง 168 ก็จะเน้นการนำมาให้บริการแก่บริษัทภายในเครือ ที่มีทั้งธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต รถเช่า และการก่อสร้าง เพื่อให้สามารถนำมาให้บริการลูกค้าได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะทยอยออกแพกเกจมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางเพิ่มเติมในอนาคต
สุดท้าย นายชัยยศ จากเดอะ ไวท์สเปซ MVNO น้องใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม ได้ให้ข้อมูลถึงโอกาสในการทำตลาดธุรกิจ MVNO ในประเทศไทยว่า มีโอกาสที่จะเติบโตได้ เพราะในหลายประเทศที่มีการให้บริการ MVNO ก็จะเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ในจุดอิ่มตัวแล้วทั้งสิ้น อย่างในประเทศไทยปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 145% ของประชากร เพียงแต่ผู้ให้บริการแต่ละรายก็ต้องนำเสนอบริการ และโปรโมชันให้ตรงต่อลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการ
_______________________________________
เปิดชมรม “Thailand MVNO Club” สางอุปสรรคสร้างตลาดที่ยั่งยืน
4 ผู้ให้บริการ MVNO จับมือตั้งชมรม “Thailand MVNO Club” หวังผลักดันบริการให้พัฒนาและเติบโต วางชมรมเป็นสื่อกลางประสานงานกับภาครัฐในการหาข้อสรุป และนโยบายเกี่ยวกับ MVNO รวมถึงการลดต้นทุนในการบริหารธุรกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานชมรม Thailand MVNO Club กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการตั้งชมรมขึ้นมา เนื่องจากทางกลุ่มสามารถถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกๆ ที่เริ่มให้บริการ MVNO มาเกือบ 5 ปีแล้ว ภายใต้ความร่วมมือกับทีโอที ทำให้มีประสบการณ์ในการให้บริการ
“วัตถุประสงค์หลักในการตั้งชมรมนี้ขึ้นมา คือ การผลักดัน และสนับสนุนให้บริการ MVNO สามารถเติบโตได้ พร้อมไปกับการประสานงานกับภาครัฐ เพื่อให้ทั้งหน่วยงานกำกับดูแล และผู้ประกอบการมีแนวทางที่ชัดเจนในการให้บริการ รวมถึงเห็นโอกาสที่ดีในการเข้ามาทำตลาด MVNO กันมากขึ้น”
เมื่อผู้ให้บริการ MVNO ได้มารวมตัวกันก็สามารถทำให้ทางชมรมสามารถไปต่อรองกับทางผู้ให้บริการเครือข่าย หรือรวมตัวกันเช่าใช้บริการเพื่อลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นออกไปตามแต่ความถนัดของผู้ให้บริการแต่ละราย รวมถึงการเข้าไปประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง กสทช. เพื่อนำเสนอแนวทาง และร่วมกันกำหนดทิศทางในมุมของผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ในการทำตลาด
ทั้งนี้ บริการ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เสมือน คือ ผู้ประกอบการที่สามารถให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายในการให้บริการ เพราะสามารถเข้าไปเป็นพันธมิตรในการใช้โครงข่ายของ MNO (Mobile Network Operator) มาให้บริการได้
โดยชมรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการรวมตัวของ 4 บริษัท MVNO ได้แก่ บริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด (i-mobile 3GX) บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (MyWorld3G) บริษัท 168 คอมมูนิเคชั่น จำกัด (168) และบริษัท เดอะ ไวท์สเปซ จำกัด ในการให้บริการโดยใช้โครงข่ายของบริษัท กสท โทรคมนาคม
นายชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ จำกัด และเลขานุการชมรม Thailand MVNO Club กล่าวว่า ทางชมรมเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการ MVNO รายอื่นที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ เพียงแต่ต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาต และมีการให้บริการจริงเท่านั้น และต้องไม่ได้เป็นบริษัทย่อยของผู้ประกอบการรายหลักในตลาด
***แยกกันตามกลุ่มลูกค้า
นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า ถึงแม้จะมีการรวมตัวกัน อาจจะทำให้ผู้บริโภคมองว่าไม่เกิดการแข่งขัน แต่ในความเป็นจริงเชื่อว่าผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีการแข่งขันที่แตกต่างกันจากรูปแบบการทำตลาด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ และมีฐานลูกค้าแตกต่างกัน เพียงแต่จะมีปัจจัยหลักร่วมกันคือพื้นที่ให้บริการต้องครอบคลุม
“ที่ผ่านมา การให้บริการ MVNO ของ i-Mobile 3GX ถึงจะมีลูกค้าหลายแสนราย แต่เนื่องจากพื้นที่ให้บริการของทีโอทีไม่ครอบคลุมจากสถานีฐานที่มีราว 5,000 สถานีฐานเท่านั้น ทำให้เมื่อทาง กสท โทรคมนาคม เปิดให้ MVNO สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้เห็นถึงโอกาสในการขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมจากสถานีฐานของ กสท กว่า 1.4 หมื่นสถานีฐานที่ครอบคลุมทั่วประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ทาง i-mobile 3GX ก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่จะทำตลาดชัดเจน อย่างการเข้าไปจับกลุ่มการนำซิมการ์ดไปใส่ในมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบออนไลน์ในการส่งข้อมูล รวมถึงการบันเดิลไปพร้อมกับการจำหน่ายสมาร์ทโฟนไอโมบาย และเข้าไปรุกในกลุ่มของหน่วยงานราชการ
ขณะที่ นายนิพนธ์ ชูเชิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ให้ข้อมูลว่า การให้บริการของ My World 3G จะเน้นไปที่การมีแพกเกจการใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่ระดับราคา 199 บาท ไปจนถึง 1,888 บาท พร้อมกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด พร้อมโทร.ฟรี 24 ชั่วโมง
โดยนอกจากจับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ก็จะเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ GPS ระบบกล้องวงจรปิดในการส่งข้อมูลผ่านออนไลน์ ซึ่งได้เริ่มให้บริการมาแล้วประมาณ 1 เดือน มีลูกค้าเข้ามาใช้งานแล้วราว 1 พันราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 1 ล้านเลขหมาย
ส่วนทาง 168 ก็จะเน้นการนำมาให้บริการแก่บริษัทภายในเครือ ที่มีทั้งธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต รถเช่า และการก่อสร้าง เพื่อให้สามารถนำมาให้บริการลูกค้าได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะทยอยออกแพกเกจมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางเพิ่มเติมในอนาคต
สุดท้าย นายชัยยศ จากเดอะ ไวท์สเปซ MVNO น้องใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม ได้ให้ข้อมูลถึงโอกาสในการทำตลาดธุรกิจ MVNO ในประเทศไทยว่า มีโอกาสที่จะเติบโตได้ เพราะในหลายประเทศที่มีการให้บริการ MVNO ก็จะเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ในจุดอิ่มตัวแล้วทั้งสิ้น อย่างในประเทศไทยปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 145% ของประชากร เพียงแต่ผู้ให้บริการแต่ละรายก็ต้องนำเสนอบริการ และโปรโมชันให้ตรงต่อลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการ
ทั้งนี้ นายสุรพันธ์ เมฆนาวิน กรรมการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความพร้อมของ กสท ในการขายส่งขายต่อคลื่นความถี่ว่า ปัจจุบันโครงข่ายของ กสท ให้ทาง ทรูมูฟ เอช เช่าใช้ไปราว 80% จากจำนวนลูกค้าเกือบๆ 20 ล้านราย ส่วนอีกที่เหลือ 20% ก็จะแบ่งมาให้บริการ MVNO น่าจะรับลูกค้าได้อีกราว 4 ล้านราย
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000020246&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=MGR+Morning+Brief+26-2-59&utm_campaign=20160225_m129968164_MGR+Morning+Brief+26-2-59&utm_term=_E0_B9_80_E0_B8_9B_E0_B8_B4_E0_B8_94_E0_B8_8A_E0_B8_A1_E0_B8_A3_E0_B8_A1+_27Thailand+MVNO+Club_27+_E
ไม่มีความคิดเห็น: