Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

29 มีนาคม 2559 (บทความ) '๗๕,๖๕๔ ล้านบาท' สูญ-ไม่สูญ? // JAS เอง ซึ่งจะต้องแบกรับ "ส่วนต่าง" ที่อาจหายไป จากยอด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ตัวเองประมูลได้ แล้วทิ้ง ระหว่างสูดสุด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ JAS เคาะ กับต่ำสุด ๗๐,๑๐๐ ล้าน ที่ DTAC เคาะ ตัวเลขกลาง

ประเด็นหลัก
ผมว่าใช้ฐานแข่งราคาจากลอตแรกครั้งก่อน มาคำนวณหาจุดกลางจะแฟร์กับทุกฝ่าย ไม่ว่ากับรัฐ กับผู้เข้าประมูลใหม่

และกับ JAS เอง ซึ่งจะต้องแบกรับ "ส่วนต่าง" ที่อาจหายไป จากยอด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ตัวเองประมูลได้ แล้วทิ้ง

ระหว่างสูดสุด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ JAS เคาะ กับต่ำสุด ๗๐,๑๐๐ ล้าน ที่ DTAC เคาะ ตัวเลขกลาง คือ....

"๗๓,๗๒๒ ล้าน" ที่ TRUE เคาะไว้ แต่ไม่ได้ในครั้งนั้น!
___________________________________________________ '๗๕,๖๕๔ ล้านบาท' สูญ-ไม่สูญ?



ผมมีความเคารพนับถือกับ "คุณอดิศัย โพธารามิก" อยู่ แต่ไม่พบท่านเกือบ ๑๕ ปีแล้ว เลยไม่มีโอกาสถามว่า..........

ด้วยเหตุสุดวิสัยใด?

ประมูลคลื่น ๙๐๐ ลอตที่ ๑ ได้แล้ว ด้วยยอดเงิน ๗๕,๖๕๔ ล้านบาท แต่กลับ "ปล่อยทิ้ง"

แบรนด์ JAS หมดเครดิต ถูกริบเงินประกัน ๖๖๔ ล้าน นั่นก็ยังไม่เท่า ประเทศชาติเสียหาย ผู้แข่งขันรายอื่นและประชาชนเสียโอกาส

เสียโอกาสยังพอยกไว้ แต่ประเทศ "เครดิตหมอง" ทางความน่าเชื่อถือในสายตาสังคมโลกนี่ซี........

ประมูลฮือฮาด้วยยอดเงินสูงเป็นสถิติโลก แต่แล้วเหมือน "ลวงโลก"

ไม่ใช่ความผิด-บกพร่องของ กสทช.

ไม่ใช่การประมูลไม่โปร่งใส หรือมีการทุจริต

หากแต่ผู้ชนะประมูล คือ JAS เอง ทำ-อย่างที่คนในวงการการประมูลคลื่น "ทั้งโลก" ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

คือ ประมูลได้แล้ว "ทิ้ง".........

ไม่มีความรับผิดชอบ-ไม่มีเงินจ่ายตามสัญญา!?

แน่นอน...แบบนี้ มันอับอายขายขี้หน้า ทั้งในนามประเทศไทย และในนามวงการประมูลคลื่นของไทย ซึ่งจะต้องถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์!

ก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อนกันไป....

ถือว่า JAS ก่อพฤติกรรมเป็น "ต้นบัญญัติ" ให้วงการประมูลทั้งโลก นำบทเรียนนี้ เป็นเคสศึกษา แล้วหามาตรการอุดช่องโหว่

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ต่อให้กับวงการที่ถือเครดิตมีค่าต้องรักษาเหนือกว่าเงินทองก็เหอะ อะไรที่ไม่คิดว่าจะทำ มันก็ต้องมีมนุษย์ซักคนทำขึ้นจนได้!

เท่าที่ตามดูแนวแก้ไขปัญหาของ กสทช. ........

ทั้งจากเลขาฯ คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ และ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค.อุ่นใจได้ว่า นอกจากเสียหน้า-เสียความรู้สึก ไปตามๆ กันแล้ว

เงิน ๗๕,๖๕๔ ล้านบาท คงไม่เสียแน่

คลื่น ๙๐๐ ไม่แช่ ประมูลใหม่ ประชาชนได้ใช้แน่!

ถึง JAS เบี้ยว ยังไงๆ กสทช.ก็ต้องบริหาร-จัดการปัญหานี้ นำเงินในยอด ๗๕,๖๕๔ ล้าน รวมทั้งค่าจัดประมูล "เสียเปล่า" เอากลับคืนมาส่งคลังได้ครบทุกบาท-ทุกสตางค์แน่!

ที่ผมมั่นใจ เพราะดู กสทช.เขาตั้งตัว-ตั้งสติ "รับปัญหา" ได้เร็วและรัดกุม

ขั้นต้น ก่อนชี้ขาดอะไรโครมครามลงไป........

เขาปิดช่องโหว่ ป้องกันครหาและข้อโต้แย้งที่อาจมีตามมาก่อน ด้วยการเชิญบุคคลจากหน่วยงานมาตรฐานหลัก มาตั้งเป็นคณะทำงาน

ตรวจสอบทั้งข้อกฎหมาย ทั้งความเสียหาย ทั้งมาตรการป้องกันต่างๆ นานา ดูแล้วเป็นระบบ ประกอบด้วย

อธิบดีอัยการ, สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต, ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคลัง, กฤษฎีกา, คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

มี "สำนักงานอัยการสูงสุด" เป็นประธานคณะทำงาน

ภายใน ๓๐ วันต้องเสร็จ.........

และมีคำตอบทางกฎหมาย ทางตัวเลข ทางเงื่อนไข ทางแนวปฏิบัติ ให้ กสทช.ให้ประชาชนได้ทราบ!

เท่าที่ฟัง ประมาณมิถุนา คืออีก ๓ เดือนข้างหน้า จะเอาคลื่น ๙๐๐ ลอต ๑ ที่ JAS เบี้ยว มาให้ประมูลกันใหม่

ประเด็นที่พูดกันตอนนี้ สรุปได้ประมาณว่า

๑.จะเริ่มเคาะที่ตัวเลขเท่าไหร่?

๒.จะมีค่ายไหนประมูลกันบ้าง?

๓.ถ้าได้ต่ำกว่ายอดเดิม คือ ๗๕,๖๕๔ ล้าน จะทำไง?

นี่...หลักๆ พูดจากันอยู่ในประเด็นเหล่านี้ ผมคิดว่า ช่วงนี้เป็นช่วง กสทช.เงี่ยหูฟัง เก็บข้อมูลจากทุกเสียง-ทุกส่วน นำไปเขย่ารวมเป็นหลักเกณฑ์ออกมา

สำหรับผม อยากบอกว่า กรณีนี้ เห็นใจค่ายทรูมาก และอยากบอกด้วยว่า จะออกกฎเกณฑ์แบบไหน ควรคำนึงถึงทรูเขาด้วย

เพราะดูแล้ว เหมือนเขา "ถูกหลอก" ให้เสียเงินสูงๆ คนเดียวตั้ง ๗๖,๒๙๘ ล้านบาท ในคลื่น ๙๐๐ ลอต ๒

แขวนคอคนเดียว ค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะ JAS เหมือนไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลย!

ดังนั้น ถ้า กสทช.เปิดประมูลใหม่ จะตั้งตัวเลขที่เท่าใดในการเริ่มเคาะ น่าจะให้เครดิตทรูเขาบ้าง

ก็ลองย้อนไปดู "ตัวเลขสุดท้าย" ที่แต่ละค่ายเคาะแข่ง ว่าจุดสู้-จุดถอยของใคร แต่ละค่าย อยู่ที่เท่าไหร่ ตรงไหน?

ในคลื่น ๙๐๐ ลอตแรก...........

อันดับหนึ่ง JAS ให้ ๗๕,๖๕๔ ล้านบาท ชนะไป

อันดับที่สอง TRUE ให้ ๗๓,๗๒๒ ล้านบาท

อันดับที่สาม DTAC ให้ ๗๐,๑๐๐ ล้านบาท

ส่วน AIS ไม่สนใจลอตนี้ ไปเคาะสู้ในลอต ๒ ด้วยราคา ๗๕,๙๗๖ ล้านบาท

แต่ TRUE ซึ่งแพ้ JAS ในลอตแรก มาสู้ในลอต ๒ ให้สูงถึง ๗๖,๒๙๘ ล้านบาท เฉือนชนะ AIS ไป

ส่วน DTAC สู้อยู่ที่ราคา ๗๐,๑๘๐ ล้านบาท!

พิจารณาแล้วจะเห็นว่า TRUE พุ่งเข้าชนทั้งสองลอต ลอตแรก สู้อยู่ที่ราคา ๗๓,๗๒๒ ล้าน แพ้ให้ JAS ไป

ส่วน AIS หมายมั่นลอตสองโดยตรง จะเห็นว่าเคาะถึง ๗๕,๙๗๖ ล้าน สูงกว่าราคาที่ JAS ให้ในลอตแรกด้วยซ้ำ

ตรงนี้แสดงว่า ถ้า AIS ต้องการได้ลอตแรก ก็พร้อมจะใส่จนชนะ JAS แต่ทีนี้ มุ่งไปที่ลอตสอง ใส่ถึง ๗ หมื่น ๕ ขึ้น

แต่ TRUE ใส่หนักกว่าถึง ๗ หมื่น ๖ ขึ้น ชนะไป

จากท่าทีแต่ละค่าย ก็พอถอดรหัสได้ว่า การประมูลใหม่มิถุนานี้ ยังไงๆ TRUE พร้อมชนอีก

กะกวาดอีกลอตแน่!

แต่คงยาก เพราะดูตัวเลข ๗๕,๙๗๖ ล้าน ของ AIS ที่เคยแพ้ไป แสดงว่าพร้อมลงชนเต็มพิกัด

ที่น่าจับตา ลงสู้ในน้ำหนักตัวเอง ไม่เหมือนทรูซึ่งต้องแบกน้ำหนักจากครั้งแรก

แต่ดูแรงอัดฉีดทรูจากกลุ่มแบงก์และเงินจีนที่ไหลเข้ามารอบนี้ ต่างฝ่าย-ต่างฉิบหายไม่ว่า เพราะต้องการชิงทั้งคลื่น ชิงทั้งศักดิ์ศรี

มีเงินก๊อก ๒ เป็นอาวุธลับทั้งคู่!

ส่วน DTAC ข่าวว่า ที่ไปลงทุนในพม่าไว้ ตอนนี้สบายอิ่มสบายท้องแล้ว และดูลิมิตสู้ทั้ง ๒ ลอต ตื๊ออยู่ที่หลัก ๗ หมื่นล้านต้นๆ

รอบใหม่ ก็อาจลง ถ้าลงแบบไม่มีเบื้องหลังข่าว ถือว่าเข้าค่าย AF ให้มีความเคลื่อนไหวอยู่ในกระแส

ส่วน JAS "ทั้งชีวิต" มันจบแล้ว!

ก็มีคนเสนอหลายตัวเลข บ้างว่า ให้เริ่มตั้งต้นเคาะกันที่ ๗๕,๖๕๔ ล้าน อันเป็นราคาที่ JAS ได้ไป แล้วทิ้ง

บ้างว่า ให้ถอยร่นไปสุดขอบจักรวาลที่ หมื่นล้านต้นๆ

บ้างว่า ให้เคาะแบบ ไล่ราคาเดินหน้าขึ้นไป บ้างก็ว่า ให้เคาะแบบไล่ราคาถอยหลังจาก ๗๕,๖๕๔ ล้านลงมา

ก็มีสูตรตำราฝรั่งต่างๆ นานา แต่ในสูตรที่ผมคิดจากฐานตัวเลขประมูลแต่ละค่าย บวกกับอาทรทรู

ผมว่าใช้ฐานแข่งราคาจากลอตแรกครั้งก่อน มาคำนวณหาจุดกลางจะแฟร์กับทุกฝ่าย ไม่ว่ากับรัฐ กับผู้เข้าประมูลใหม่

และกับ JAS เอง ซึ่งจะต้องแบกรับ "ส่วนต่าง" ที่อาจหายไป จากยอด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ตัวเองประมูลได้ แล้วทิ้ง

ระหว่างสูดสุด ๗๕,๖๕๔ ล้าน ที่ JAS เคาะ กับต่ำสุด ๗๐,๑๐๐ ล้าน ที่ DTAC เคาะ ตัวเลขกลาง คือ....

"๗๓,๗๒๒ ล้าน" ที่ TRUE เคาะไว้ แต่ไม่ได้ในครั้งนั้น!

นี่แหละ ผมว่าเป็นตัวเลขสมเหตุ-สมผล อีกทั้งแฟร์กับทรู น่าพิจารณาใช้เป็นตัวเลขเริ่มเคาะคลื่น ๙๐๐ ลอตแรก ที่จะมีใน มิ.ย.นี้

เคาะแข่งกันขึ้นไป ได้เกิน ๗๕,๖๕๔ ล้าน ก็ดีไป สบาย JAS จ่ายส่วนค่าเสียหายน้อยลงไป

แต่ถ้าเคาะแล้วผู้ชนะได้ไม่ถึง ๗๕,๖๕๔ ล้าน ขาดเท่าไหร่ เป็นตัวเลขที่ กสทช.ต้องฟ้องเอากับ JAS ให้มาจ่ายในส่วนนั้นให้ครบ!

JAS อ้างได้ว่า "ไม่มีในสัญญา" ให้ริบเงินประกัน ๖๖๔ ล้านแล้วจบกัน นั่นก็อ้างได้

แต่ไม่ชนะหรอก เพราะเงื่อนไขมันมีอยู่แล้ว.........

"หากผู้ชนะประมูลไม่นำเงินมาชำระตามเงื่อนไข กฎเกณฑ์การประมูล ริบเงินค่าประกันนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

และจะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ในส่วนความเสียหายที่รัฐได้รับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่จัดการประมูลใหม่ และได้เงินค่าประมูลต่ำกว่า ต้องเรียกร้องส่วนต่างนั้น

รวมถึงค่าเสียโอกาส ในกรณีประชาชนหรือประเทศชาติได้ใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ช้าลง"

กรณีของ JAS จะบอกว่า ให้ริบ ๖๖๔ ล้าน แล้วจบกัน... ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีก........

ก็จะเหมือน กรณีเบนซ์เถื่อน อ้างไม่รู้...เขาถวาย ไม่ผิด ไม่อาบัติ กรณียักยอกเงิน-ที่ดินวัด ขยอกคืนแล้ว ไม่ผิด ไม่ปาราชิก

มันอ้างได้......

แต่จะปฏิเสธ "ความรับผิดชอบ" สิ่งที่ตัวทำไม่ได้.

http://www.thaipost.net/?q=๗๕๖๕๔-ล้านบาท-สูญ-ไม่สูญ

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.