25 พฤษภาคม 2559 DTAC มั่นใจ รายังเป็นอันดับ 2 ของตลาด และจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งอันดับนี้ไปแน่นอ คาดว่าจะทรงตัวหรืออาจเติบโตเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 8.8 หมื่นล้านบาท
ประเด็นหลัก
_____________________________________________
“ดีแทค” ใช้ 3 แนวทางปรับองค์กรรับยุคดิจิตอล
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคมีความตั้งใจที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับสอง ในช่วง 3 ปีนี้ให้ได้ โดยยืนยันว่า
สิ้นไตรมาส 1/59 ดีแทคมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 28% ขณะที่รายได้ปีนี้ คาดว่าจะทรงตัวหรืออาจเติบโตเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 8.8 หมื่นล้านบาท เทียบกับอุตสาหรรมโทรคมนาคมภาพรวมคาดเติบโตราว 3% โดยตัวเลข ณ สิ้นเดือน มี.ค.59 มีจำนวนลูกค้า 25.5 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้า 4G จำนวน 3.1 ล้านเลขหมาย ลูกค้า 3G จำนวน 20 ล้านเลขหมาย และลูกค้า 2G จำนวน 2.4 ล้านเลขหมาย
" เรายืนยันว่า เรายังเป็นอันดับ 2 ของตลาด และจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งอันดับนี้ไปแน่นอน รวมถึงทางเทเลนอร์ก็ไม่มีความคิดที่จะทิ้งประเทศไทยไปอย่างแน่นอน โดยยืนยันว่า ปัจจุบันเรามีคลื่นเพียงพอต่อการให้บริการถึง 50 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งสามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดแน่นอน" นายลาร์สกล่าว
_____________________________________________
“ดีแทค” ใช้ 3 แนวทางปรับองค์กรรับยุคดิจิตอล
ดีแทค เปิดแผนระยะยาว 3 ด้านปรับโครงสร้างบุคลากรรับยุคดิจิตอล ด้วยการเปิดโอกาสให้นำเสนอแนวคิดใหม่มาช่วยพัฒนาบริการ สร้างวัฒนธรรมการทำงานยุคดิจิตอล พร้อมการจัดทำโครงการรับนักศึกษาฝึกงาน และบุคลากรที่จบปริญญาโท ที่มีความสามารถด้านดิจิตอลเข้าร่วม พร้อมเผยกำลังหารือ กสท นำคลื่น 1800 MHz จำนวน 25 MHz มาให้บริการ 4G หวังเพิ่มฐานลูกค้า รักษาส่วนแบ่งรายได้
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ความตั้งใจของดีแทคคือ การมุ่งมั่นเป็นผู้นำทางด้านดิจิตอล ทั้งในแง่ของการทำงาน และการให้บริการ ทำให้มีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการบุคลากรด้วยการสร้างพนักงานในยุคดิจิตอลให้มากขึ้น พร้อมไปกับการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เข้าสู่ยุคดิจิตอล
“บุคลากรที่ดีแทคต้องการคือ ต้องกล้าคิดกล้าทำนอกกรอบ ด้วยการปลูกฝังให้พนักงานมีการนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการทางด้านดิจิตอลเพียงอย่างเดียว แต่หวังให้เป็นผู้สร้างปรากฎการณ์ที่ล้ำสมัย และแปลกใหม่กว่าผู้ให้บริการอื่นๆ ในตลาด”
สำหรับ 3 แนวทางที่ดีแทคเลือกนำมาใช้ ประกอบไปด้วย 1.การเสริมสร้างให้บุคลากรมีจิตวิญญาณของการเป็นเจ้าของกิจการ (Intrapreneur) เพื่อนำความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานมาต่อยอดในธุรกิจ พร้อมเปิดโครงการ “Ignite Incubator” ที่ให้พนักงานนำเสนอไอเดีย หรือนวัตกรรมที่น่าสนใจมาคัดเลือกทีมจาก 13 ประเทศทั่วโลก ด้วยการนำหลักสูตรการสอนสตาร์ทอัปมาสอนให้แก่พนักงานในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้ไอเดียดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
“เมื่อพนักงานผ่านการคัดเลือกจะได้รับโอกาสที่จะเข้าร่วมโครงการในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะได้รับเงินเดือนปกติ เพื่อมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ก่อนมานำเสนอในงาน Demo Day ช่วงต้นเดือนธันวาคมแก่เหล่านักลงทุนในกลุ่มของเทเลนอร์ เพื่อต่อยอดบริการเหล่านั้นไปให้แก่ลูกค้าเทเลนอร์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่สำเร็จก็สามารถกลับมาทำงานตำแหน่งเดิมได้โดยไม่เสียอะไร”
ถัดมาคือ 2.การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้ออำนวยให้สามารถคิดนวัตกรรมขึ้นมาใช้งานภายในองค์กร ด้วยการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ จากการนำแพลตฟอร์มอย่าง Facebook@Work มาใช้งานเป็นรายแรกในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นที่รวบรวมพนักงานให้มารู้จักกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงลดการบริหารจัดการแบบแนวดิ่ง (Silo)
การสร้างประสบการณ์ในการใช้แอปพลิเคชันให้แก่พนักงานด้วยแอป Plern ให้พนักงานได้ทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขององค์กร ทำแบบสำรวจ เรียนรู้ข้อมูลผลประโยชน์ตอบแทนในการทำงาน ความบันเทิง สามารถลงทะเบียน และทำออนไลน์เทรนนิ่งได้ เพื่อให้พนักงานสามารถเรียนรู้ผ่านดีไวซ์ที่หลากหลาย จากเป้าหมายในการเป็นที่หนึ่งในดิจิตอล ทำให้ต้องมีการสร้างทักษะให้แก่พนักงานภายในองค์กร อย่างการคิดในมุมของลูกค้า การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ดิจิตอลพาร์ตเนอร์ เน็ตเวิร์กที่แข็งแรง และการบริการ
สุดท้ายคือ 3.การดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงาน อย่างการเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานภายใต้โครงการ “ลองดี” และอีกโครงการคือ “Gen d” ที่จะรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท มีประสบการณ์ในการทำงาน 2-4 ปี มีความคุ้นเคยต่ออุตสาหกรรมดิจิตอล ที่สามารถใช้เวลาในการเรียนรู้งาน 2-3 ปี ก่อนที่จะมีโอกาสก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับผู้บริหารระดับกลาง
***เจรจา กสท เป็นไปในทิศทางที่ดี
ขณะเดียวกัน นายลาร์ส ยังเปิดเผยถึงแผนของดีแทคในการให้บริการต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมประมูล 4G แต่ดีแทคยังมีคลื่นเพียงพอต่อการให้บริการ รวมถึงยังมีการเจราจากับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในการนำคลื่น 1800 MHz ส่วนที่เหลือมาให้บริการ 4G ซึ่งแนวโน้มในการพูดคุยอยู่ในทิศทางที่ดี
นอกจากนี้ ดีแทค ยังเชื่อมั่นว่าในอนาคตอันใกล้จะมีการเปิดประมูลคลื่นเพื่อมาให้บริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอีก ไม่ว่าจะเป็นคลื่น 700 MHz 850 MHz 1800 MHz 2300 MHz และ 2600 MHz ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน
ส่วนคลื่น 1800 MHz ของดีแทคที่ให้บริการอยู่ และจะหมดอายุสัมปทานในปี 2561 หากเกิดกรณีที่ไม่ถูกนำมาประมูลในระยะเวลาอันใกล้ก็เชื่อว่า ดีแทค ยังสามารถเข้าสู่ช่วงเยียวยาลูกค้าได้เหมือนกรณีที่เอไอเอสขอเยียวยาลูกค้าบนคลื่น 900 MHz ดังนั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ ต่อการให้บริการ
http://www.manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000052010
_____________________________________________
ดีแทคมั่นใจรักษาแชร์อันดับ2
ดีแทค ประกาศไม่ยอมเสียอันดับ 2 ให้คู่แข่ง ยังอีก 3 ปีพร้อมประมูลคลื่นใหม่ พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรสู่ยุคดิจิตอล
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคมีความตั้งใจที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับสอง ในช่วง 3 ปีนี้ให้ได้ โดยยืนยันว่า
สิ้นไตรมาส 1/59 ดีแทคมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 28% ขณะที่รายได้ปีนี้ คาดว่าจะทรงตัวหรืออาจเติบโตเล็กน้อย จากปีก่อนที่มีรายได้ 8.8 หมื่นล้านบาท เทียบกับอุตสาหรรมโทรคมนาคมภาพรวมคาดเติบโตราว 3% โดยตัวเลข ณ สิ้นเดือน มี.ค.59 มีจำนวนลูกค้า 25.5 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้า 4G จำนวน 3.1 ล้านเลขหมาย ลูกค้า 3G จำนวน 20 ล้านเลขหมาย และลูกค้า 2G จำนวน 2.4 ล้านเลขหมาย
" เรายืนยันว่า เรายังเป็นอันดับ 2 ของตลาด และจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งอันดับนี้ไปแน่นอน รวมถึงทางเทเลนอร์ก็ไม่มีความคิดที่จะทิ้งประเทศไทยไปอย่างแน่นอน โดยยืนยันว่า ปัจจุบันเรามีคลื่นเพียงพอต่อการให้บริการถึง 50 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งสามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดแน่นอน" นายลาร์สกล่าว
ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 7 หมื่นล้านบาทส่วนใหญ่นำไปขยายโครงข่าย 4G โดยในปลายเดือน มิ.ย.จะนำคลื่นความถี่ 1800 MHz อีก 5 MHz รวมเป็น 20 MHz มาขยายโครงข่ายบริการ Super 4G อย่างไรก็ตาม สำหรับคลื่น 1800 MHz ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 61 นั้นทาง ดีแทค มีเจตจำนงที่จะเข้าประมูลเพื่อให้ได้คลื่นความถี่
พร้อมกันนี้ดีแทค ยังเตรียมปรับโครงสร้างบุคลากรรับยุคดิจิตอล ด้วยการ 1.การเสริมสร้างให้บุคลากรมีจิตวิญญาณของการเป็นเจ้าของกิจการ (Intrapreneur) เพื่อนำความคิดสร้างสรรของพนักงานมาต่อยอดในธุรกิจ พร้อมเปิดโครงการ 'Ignite Incubator'ให้พนักงานร่วมเสนอไอเดีย 2.การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่เอื้ออำนวยให้สามารถคิดนวัตกรรม ด้วยการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 3.การดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานอย่างการเปิดโอกาสให้นักศึกษาฝึกงานภายใต้โครงการ 'ลองดี' และอีกโครงการคือ 'Gen d'.
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A2
ไม่มีความคิดเห็น: