28 สิงหาคม 2559 DTAC เตรียมปรับคลื่น จะทยอยเพิ่มปริมาณความถี่ที่ความจุ (แบนด์วิธ) เพิ่มเป็น 20 MHz โดยเริ่มจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ในเดือนก.ย.นี้ จะขยายความจุโครงข่ายระบบ 4G ภายใต้เทคโนโลยีแอลทีอี ทั้งคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และคลื่น 1800 MHz ให้ครบ 20 MHz ตามหัวเมืองใหญ่
ประเด็นหลัก
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โครงข่ายระบบ 4G บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ในทุกจังหวัด จนครบ 77 จังหวัดแล้ว ด้วยปริมาณความจุจำนวน 15 MHz ล่าสุดจะทยอยเพิ่มปริมาณความถี่ที่ความจุ (แบนด์วิธ) เพิ่มเป็น 20 MHz โดยเริ่มจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ในเดือนก.ย.นี้ จะขยายความจุโครงข่ายระบบ 4G ภายใต้เทคโนโลยีแอลทีอี ทั้งคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และคลื่น 1800 MHz ให้ครบ 20 MHz ตามหัวเมืองใหญ่
____________________________________________
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โครงข่ายระบบ 4G บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ในทุกจังหวัด จนครบ 77 จังหวัดแล้ว ด้วยปริมาณความจุจำนวน 15 MHz ล่าสุดจะทยอยเพิ่มปริมาณความถี่ที่ความจุ (แบนด์วิธ) เพิ่มเป็น 20 MHz โดยเริ่มจากภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ในเดือนก.ย.นี้ จะขยายความจุโครงข่ายระบบ 4G ภายใต้เทคโนโลยีแอลทีอี ทั้งคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และคลื่น 1800 MHz ให้ครบ 20 MHz ตามหัวเมืองใหญ่
ปัจจุบันดีแทคมีจำนวนสถานีฐานบนคลื่น 1800 MHz จำนวน 6,000 แห่ง สถานีฐานคลื่นความถี่ย่าน 2.1 จำนวน 14,000-15,000 แห่ง และสถานีฐานระบบ 2G คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 11,000 แห่ง และสถานีระบบ 2G คลื่นความถี่ย่าน 850 MHz จำนวน 12,500 แห่ง
“ดีแทคจะพัฒนาโครงข่าย 4G อย่างต่อเนื่องโดยจะขยายโครงข่าย 3G-4G บนคลื่น 2.1 GHzในทุกอำเภอทั่วประเทศไทยภายในไตรมาส 3/2559 นี้ โดยจะเพิ่มเติมในส่วนของสถานีฐานย่อยอีก 1,000 แห่ง และคาดว่าในสิ้นปีจะขยายครบตามเป้าที่ตั้ง ซึ่งดีแทคยังคงเน้นการขายโครงข่ายบนคลื่น 2.1 GHz และคลื่น 1800 MHz เป็นหลักตามในพื้นที่เมือง และคลื่น 850 MHz ในจังหวัดไกลๆ”
นายประเทศกล่าวว่า สำหรับตลาดบริการโทรคมนาคมยังคงมีแนวโน้มแข่งขันอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดว่าผู้ให้บริการจะใช้ข้อเสนอเครื่องโทรศัพท์ราคาต่ำในการสร้างฐานลูกค้าและคาดว่าการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ในกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินจะยังมีอยู่ในตลาดอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่บริการข้อมูลหรืออินเตอร์เนตยังคงเป็นบริการที่ช่วยสร้างการเติบโตของรายได้ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากข้อเสนอด้านเครื่องโทรศัพท์และการใช้อินเตอร์เนตที่สูงขึ้นจากการบริโภคเนื้อหา (คอนเทนต์) ประเภทสตรีมมิ่งที่กำลังเติบโตและประสบการณ์ใช้งานอินเตอร์เนตที่ดียิ่งขึ้นจากเทคโนโลยี 4G
อย่างไรก็ตาม ดีแทคยังคงต้องเดินตามกลไกลทางการตลาดในเรื่องของการแจกเครื่องลูกข่ายยังคงให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ในตลาดลูกค้ารายเดือนเพื่อสร้างฐานลูกค้าผู้ใช้บริการข้อมูล รวมทั้งสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาวและส่งเสริมให้ลูกค้าเปลี่ยนจากการใช้งานระบบเติมเงินมาเป็นระบบรายเดือน ในขณะที่การให้ส่วนลดค่าเครื่องสำหรับตลาดลูกค้าระบบเติมเงินนั้น บริษัทจะดำเนินการตามความจำเป็นซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตลาด ถึงแม้จะมีการใช้เม็ดเงินเพื่อซื้อส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ที่ถือเป็นการทำลายการแข่งขันในตลาดอย่างรุนแรง
นายประเทศกล่าวอีกว่า ประเด็นเกี่ยวกับการสิ้นสุดสัมปทานบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz (ของกสท) ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2561 นั้น ดีแทคมีการปรับตัวและเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากมีตัวอย่างให้เห็น อย่างบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และทำให้ดีแทคนำปรับใช้และวางแผนเพื่อรองรับกรณีดังกล่าว โดยจะเริ่มโอนย้ายลูกค้าระบบ 2G ที่อยู่ในระบบ (3G) ไปเรื่อยๆ
http://www.naewna.com/business/229393
ไม่มีความคิดเห็น: