Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

21 กันยายน 2559 กสทช.ชี้ สำหรับผู้กระทำความผิดทาง AIS ได้บอกชื่อแก่ กสทช.แล้วว่าเป็นใคร แต่ กสทช.ขอเก็บเป็นความลับ บอกได้แต่เพียงว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง 4 ใน 5 คน ที่เอไอเอสอนุญาตให้สามารถดูข้อมูลของลูกค้าได้ ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัญญาณไม่ดี บิลเก็บเงินไม่เป็นธรรมเท่านั้น แต่ไม่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ถึงตำแหน่งการโทร.อย่างที่เกิดขึ้น

ประเด็นหลัก





สำหรับผู้กระทำความผิดทางเอไอเอสได้บอกชื่อแก่ กสทช.แล้วว่าเป็นใคร แต่ กสทช.ขอเก็บเป็นความลับ บอกได้แต่เพียงว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง 4 ใน 5 คน ที่เอไอเอสอนุญาตให้สามารถดูข้อมูลของลูกค้าได้ ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัญญาณไม่ดี บิลเก็บเงินไม่เป็นธรรมเท่านั้น แต่ไม่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ถึงตำแหน่งการโทร.อย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเอไอเอสก็ได้แสดงหลักฐานถึงความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวแล้วว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนจากที่ผู้เสียหายแจ้งที่ร้านเอไอเอส สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ทางบริษัทก็ได้ตรวจสอบและแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. และแจ้งความต่อผู้กระทำความผิดโดยตรงในวันที่ 15 ก.ย. โดยเอไอเอสยืนยันว่า ระบบของตนเองดีเยี่ยม แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากคนกระทำผิด ดังนั้น ต่อไปจะเพิ่มมาตรการในการเข้าดูข้อมูลพื้นฐานให้ต้องมีลายเซ็นของผู้บริหาร 2 คน ยืนยันการเข้าดูข้อมูล แต่ยังคงดูได้แค่ข้อมูลพื้นฐานกรณีมีเรื่องร้องเรียน เช่น ค่าโทร. หรือสัญญาณการโทร.เท่านั้น ไม่สามารถดูรายละเอียดตำแหน่งที่อยู่ของผู้โทร.ได้ นอกจากจะมีหมายศาลเท่านั้น

ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียหายต้องหารือกับอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ กสทช.ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายก่อน ระหว่างนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้ จึงยังไม่มีข้อสรุป จากนั้นในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คณะทำงานฯ จะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปนัดที่ 2 ต่อไป เพื่อให้กรณีนี้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน






__________________________________________________





ผู้เสียหายถูกขโมยข้อมูลเข้าชี้แจงต่อ กสทช. อึ้งมีอีกกว่า 100 เบอร์ถูกล้วงตับ

นายชยพลปกรณ์ ศรัทธาณรงค์ ผู้เสียหายกรณีถูกขโมยข้อมูลโทรศัพท์มือถือจากการใช้งานในระบบของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส

ผู้เสียหายถูกพนักงานเอไอเอสขโมยข้อมูลเข้ายื่นเอกสารต่อ กสทช. แฉยังมีอีกกว่า 100 เบอร์ที่ถูกขโมยข้อมูล ด้านเลขาธิการ กสทช.ชี้ต้องร่วมฟ้องตามกฎหมาย กสทช.ด้วย เผยผู้กระทำความผิดเป็นระดับผู้บริหาร แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย เตรียมนัดประชุมอีกรอบวันที่ 26 ก.ย.นี้
วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.40 น. นายชยพลปกรณ์ ศรัทธาณรงค์ ผู้เสียหายกรณีถูกขโมยข้อมูลโทรศัพท์มือถือจากการใช้งานในระบบของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อยื่นเอกสารคำร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
นายชยพลปกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องตนเองยังไม่ได้แจ้งความต่อตำรวจ แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ทนายแจ้งความต่อไป ดังนั้น จึงได้เดินทางมายัง กสทช. หลังจากทราบข่าวว่า กสทช.จะมีการประชุมคณะทำงานนัดแรกที่ได้เชิญเอไอเอสเข้ามาชี้แจงข้อมูล เพื่อจะขอร่วมรับฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้นที่ถูกนำข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือ รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ขโมยออกไปให้ผู้อื่น แต่จากเอกสารที่มีผู้หวังดีนำมาให้ยังพบว่า ครอบครัวของตนเองทุกคนก็ถูกขโมยข้อมูลในช่วง 3-4 เดือนก่อนเช่นกัน นอกจากนี้ยังเห็นข้อมูลของผู้อื่นอีกกว่า 100 เลขหมายที่ถูกนำข้อมูลออกมาด้วย
ทั้งนี้ ตนเองเป็นลูกค้าของเอไอเอสมาประมาณ 5 ปี แต่สาเหตุที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำ ซึ่งไม่เพียงแต่ตนเองเท่านั้นที่ถูกผู้ไม่หวังดีโทร.ข่มขู่ แต่เพื่อนๆ ในวงการสถาปนิกก็ถูกข่มขู่กันหลายคน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ดังนั้น ในวันนี้ (19 ก.ย.) จึงขอโฟกัสเรื่องข้อมูลที่ถูกขโมยก่อน หากเอไอเอสมีมาตรการในการป้องกัน เหตุใดจึงไม่รู้ตั้งแต่แรก จึงต้องการให้ กสทช.ตรวจสอบ ซึ่งพร้อมจะเป็นตัวแทนผู้ใช้งานทุกคนที่อาจจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ค่ายมือถือเอไอเอส เท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกค่ายด้วยเพื่อให้มีมาตรการที่รัดกุมมากกว่านี้

ผู้เสียหายถูกขโมยข้อมูลเข้าชี้แจงต่อ กสทช. อึ้งมีอีกกว่า 100 เบอร์ถูกล้วงตับ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช.พร้อมด้วย นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม

ต่อมา ในเวลา 10.00 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.พร้อมด้วย นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม และเป็นประธานคณะทำงานสอบเรื่องนี้ ได้ลงมารับหนังสือผู้เสียหาย โดย นายฐากร กล่าวว่า จะเชิญผู้เสียหายชี้แจงข้อมูลก่อนเพื่อรับฟังปัญหา จากนั้นจะเชิญตัวแทนจากเอไอเอสสอบถามในปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นจะลงมาแถลงผลการประชุมต่อสื่อมวลชนในเวลา 12.00 น.
จากนั้น เวลา 12.00 น. นายฐากร พร้อมด้วย นายก่อกิจ และผู้เสียหาย ลงมาแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายฐากร กล่าวว่า ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกขโมยข้อมูลตั้งแต่ปี 2557 และแจ้งว่ายังมีอีกกว่า 100 เลขหมาย ที่ไม่ใช่เบอร์ของตนเองถูกขโมยข้อมูลด้วย จึงได้มอบหมายให้เอไอเอสตรวจสอบเบอร์ดังกล่าวว่าถูกล้วงข้อมูลเชิงลึกจริงหรือไม่ ทั้งนี้ กสทช.เองต้องเป็นผู้เสียหายร่วมด้วย ตามมาตรา 32 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าจะนำเสนอต่อที่ประชุม กสทช.เพื่อขอความเห็นชอบในการให้สำนักงาน กสทช.แจ้งความอาญาต่อผู้กระทำผิดด้วย

ผู้เสียหายถูกขโมยข้อมูลเข้าชี้แจงต่อ กสทช. อึ้งมีอีกกว่า 100 เบอร์ถูกล้วงตับ

สำหรับผู้กระทำความผิดทางเอไอเอสได้บอกชื่อแก่ กสทช.แล้วว่าเป็นใคร แต่ กสทช.ขอเก็บเป็นความลับ บอกได้แต่เพียงว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง 4 ใน 5 คน ที่เอไอเอสอนุญาตให้สามารถดูข้อมูลของลูกค้าได้ ในกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัญญาณไม่ดี บิลเก็บเงินไม่เป็นธรรมเท่านั้น แต่ไม่สามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ถึงตำแหน่งการโทร.อย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเอไอเอสก็ได้แสดงหลักฐานถึงความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวแล้วว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียนจากที่ผู้เสียหายแจ้งที่ร้านเอไอเอส สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ทางบริษัทก็ได้ตรวจสอบและแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 13 ก.ย. และแจ้งความต่อผู้กระทำความผิดโดยตรงในวันที่ 15 ก.ย. โดยเอไอเอสยืนยันว่า ระบบของตนเองดีเยี่ยม แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากคนกระทำผิด ดังนั้น ต่อไปจะเพิ่มมาตรการในการเข้าดูข้อมูลพื้นฐานให้ต้องมีลายเซ็นของผู้บริหาร 2 คน ยืนยันการเข้าดูข้อมูล แต่ยังคงดูได้แค่ข้อมูลพื้นฐานกรณีมีเรื่องร้องเรียน เช่น ค่าโทร. หรือสัญญาณการโทร.เท่านั้น ไม่สามารถดูรายละเอียดตำแหน่งที่อยู่ของผู้โทร.ได้ นอกจากจะมีหมายศาลเท่านั้น
ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียหายต้องหารือกับอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ กสทช.ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่ายก่อน ระหว่างนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลที่ได้ จึงยังไม่มีข้อสรุป จากนั้นในวันที่ 26 ก.ย.นี้ คณะทำงานฯ จะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปนัดที่ 2 ต่อไป เพื่อให้กรณีนี้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน

http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094261&utm_source=MadMimi&utm_medium=email&utm_content=MGR+Morning+Brief+20-9-59&utm_campaign=20160919_m134379782_MGR+Morning+Brief+20-9-59&utm_term=_E0_B8_9C_E0_B8_B9_E0_B9_89_E0_B9_80_E0_B8_AA_E0_B8_B5_E0_B8_A2_E0_B8_AB_E0_B8_B2_E0_B8_A2_E0_B8_96_

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.