AWN บ.ย่อย ADVANC ( AIS ) ออกหุ้นกู้ 9 พันลบ.อายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 3.35% เพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี Digital ทั้ง Mobile, Fixed Broadband และ Digital Services

บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2560 มูลค่ารวมไม่เกิน 9,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.35 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน

ทั้งนี้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวั้นที่ 27-29 พ.ย.60 โดยมีธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยาย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารธนชาต เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

หุ้นกู้ของ AWN ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ"AA (tha)" จากบริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 6 พ.ย.60

บริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการใช้ในการลงทุน และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปของบริษัท

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้าหมาย ภายใน 3 ปีนับจากนี้ รายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่จะโตขึ้นเป็น 25% ของรายได้รวม จากปัจจุบันรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่ที่ประมาณ 10% ของรายได้รวม

ทั้งนี้ ในปีหน้า เอไอเอสจะเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างเต็มที่ด้วยทรัพยากรด้านต่างๆที่มีความพร้อมสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ ส่วนการยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อหุ้นของบมจ. ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่นำมาต่อยอดกับกลยุทธ์ของบริษัทที่วางไว้ เพื่อให้สามารถเพิ่มการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กรได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และได้รับประโยชน์ที่จะเกิดจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ รวมถึงทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"เอไอเอสมีความพร้อมเป็นอย่างมากที่จะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี Digital ทั้ง Mobile, Fixed Broadband และ Digital Services ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากหลากหลายอุตสาหกรรมที่นำมาซึ่ง Solutions ที่เหมาะสมกับลูกค้าองค์กรในแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งล่าสุดเอไอเอสยังได้มีการปรับทัพทางการตลาดเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขันของตลาดลูกค้าองค์กรไปเรียบร้อยแล้ว นับเป็นการยืนยันถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเคียงข้างองค์กรธุรกิจให้เดินหน้าในยุค Thailand 4.0 อย่างชัดเจน"นายสมชัยกล่าว

ทั้งนี้จุดเด่นสำหรับบริการกลุ่มลูกค้าองค์กรของเอไอเอส คือสามารถให้บริการลูกค้าเอสเอ็มอีไปจนถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ บริการคลาวด์ที่รวมตั้งแต่ให้คำปรึกษา ติดตั้ง เคลื่อนย้าย ดูแลรักษาระบบและความปลอดภัยของเครือข่าย รวมไปถึงโซลูชั่นด้านการสื่อสารที่เอไอเอสมีความได้เปรียบจากความแข็งแกร่งในด้านการให้บริการโทรคมนาคม

"บริษัทจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของฐานลูกค้าองค์กรเป็นอันดับ 1 เหมือนเช่นที่เคยสร้างความสำเร็จในกลุ่มลูกค้าทั่วไป หรือ Mass Consumer ในช่วงที่ผ่านมาได้ตามความตั้งใจที่วางไว้"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าว

ทั้งนี้ ในยุคที่ผ่านมากว่า 10 ปี ธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่ง เอไอเอส เป็นผู้ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 นั้น สามารถสร้างการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรม โดยเฉลี่ยสูงกว่า GDP ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป (Mass Consumer) อย่างไรก็ตามเมื่อเรามาสู่ยุคของ Digital Transformation นั้น ตลาดผู้ใช้บริการในกลุ่มลูกค้าองค์กร (Enterprise Consumer) ต่างมองเห็นความจำเป็นของการนำเทคโนโลยี Digital เข้ามาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของ Digital Infrastructure หรือ Digital Solution ทั้งนี้ก็เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆในการสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ท่ามกลางการถูกทำลายล้าง (Disrupt) จากเทคโนโลยี Digital จึงเป็นที่มาของแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดของกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือ Enterprise อย่างเห็นได้ชัด

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย