Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

02 พฤษภาคม 2555 CAT เทงบการตลาด 100 ล้าน ( CAT 009 โทร.ถูกแถมทอง โทร.ง่ายได้รถ) ( ช้าไปไม..3-4ปีหน้าจะเริ่มเห็นบริการ VOIP ชัดเจ

CAT เทงบการตลาด 100 ล้าน ( CAT 009 โทร.ถูกแถมทอง โทร.ง่ายได้รถ) ( ช้าไปไม..3-4ปีหน้าจะเริ่มเห็นบริการ VOIP ชัดเจ


ประเด็นหลัก

นายพีรศักด์ กล่าวว่า ภายในอีก 3-4ปีหน้าจะเริ่มเห็นบริการ VOIP ชัดเจนขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการโทรศัพท์จะถูกบังคับตามสภาพของเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แปลงไป จากเดิมที่โทรศัพท์บ้านจะเป็นเพียงโทร.ออก และรับสายเท่านั้น ต่อไปโทรศัพท์บ้านจะมีอุปกรณ์ของVOIP เข้ามาเสริมด้วย ซึ่งการเข้ามาของVOIPนั้นเป็นการใช้โทรศัพท์บ้านที่ต้องกดรหัสเหมือนเดิมการ ใช้งานยังคงเป็นแบบเดิม แต่ตัวที่จะเข้ามาเพิ่มเติมคือแอปพลิเคชั่นที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้พฤติกรรมการ ใช้งานเปลี่ยนไป การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในอดีต


_________________________________________________________

กสท เทงบการตลาด 100 ล้านลุ้นรายได้โทร.ต่างประเทศ



กสท เผยรายได้โทร.ต่างประเทศหด ตั้งเป้าปีนี้เพียง 4,000 ล้านบาทน้อยกว่าปีก่อน 400 ล้านบาท ชี้เป็นเพราะเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทดแทน แต่ยังทุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาท ขณะที่ราคาค่าบริการมีแนวโน้มถูกลงต่อเนื่อง

นายพีรศักดิ์ อรุณสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์) สายงานธุรกิจโทรศัพท์ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ในปีนี้กสทตั้งเป้ารายได้การให้บริการโทรศัทพ์ระหว่างประเทศ ลดลงจากปีก่อนเหลือเพียง 4,000 ล้านบาท จากที่ปีที่แล้วมีรายได้ถึง 4,400 ล้านบาท จากการให้บริการ CAT 009 และ 001 เนื่องจากการให้บริการดังกล่าวอยู่ในทิศทางขาลง และตลาดไม่มีการเติบโตไปกว่านี้

อีกทั้งปัจจัยด้านเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ากว่าในอดีตมากโดยเฉพาะความนิยม ของโซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ วอทแอป สไกด์ เฟสบุ๊ก ทำให้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่หลากหลายขึ้น ดังนั้นผู้ให้บริการต่างๆจึงจำเป็นต้องหันมาจัดทำโปรโมชั่น และแคมเปญใหม่ๆเพื่อเข้ามากระตุ้นการใช้งานโทรศัพท์ระหว่างประเทศมากขึ้น

โดยกสท ได้วางงบประมาณกิจกรรมทางการตลาดไว้ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นกิจกรรมสื่อสารถึงกลุ่มผู้บริโภค โดยการจัดทำโปรโมชั่น CAT 009 โทร.ถูกแถมทอง โทร.ง่ายได้รถ เพื่อต้องการสื่อสารทางการตลาด สร้างการจดจำในภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

ขณะที่มูลค่าตลาดรวมโทร.ต่างประเทศ มีมูลค่าประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท โดยกสทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 45% ซึ่งถือเป็นผู้นำในตลาดนี้ เนื่องจากกสทมีข้อได้เปรียบในเรื่องเคเบิลใต้น้ำจึงมีสายตรงที่สามารถเชื่อม ต่อไปยังประเทศต่างๆกว่า 200 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องมีศูนย์กลาง (ฮับ) ที่ไหน ทำให้การติดต่อสื่อสารมีคุณภาพสัญญาณไม่ติดขัด และราคาค่าบริการที่ถูกกว่าผู้ให้บริการรายอื่น

นายพีรศักด์ กล่าวว่า ภายในอีก 3-4ปีหน้าจะเริ่มเห็นบริการ VOIP ชัดเจนขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการโทรศัพท์จะถูกบังคับตามสภาพของเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แปลงไป จากเดิมที่โทรศัพท์บ้านจะเป็นเพียงโทร.ออก และรับสายเท่านั้น ต่อไปโทรศัพท์บ้านจะมีอุปกรณ์ของVOIP เข้ามาเสริมด้วย ซึ่งการเข้ามาของVOIPนั้นเป็นการใช้โทรศัพท์บ้านที่ต้องกดรหัสเหมือนเดิมการ ใช้งานยังคงเป็นแบบเดิม แต่ตัวที่จะเข้ามาเพิ่มเติมคือแอปพลิเคชั่นที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้พฤติกรรมการ ใช้งานเปลี่ยนไป การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าในอดีต

สำหรับแนวโน้มราคาค่าบริการโทร.ระหว่างประเทศจะถูกลง โดยขณะนี้ราคาค่าบริการของกสทเริ่มต้นที่นาทีละ 3 บาท ใน 5 ประเทศ คือ อเมริกา แคนนาดา จีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ส่วนบางประเทศที่เปลี่ยนแปลงต้นทุนจะสามาถลดค่าบริการลงมาได้อย่างประเทศ เวียดนาม และกัมพูชาที่อัตราค่าบริการใหม่อยู่ที่ 10 บาทต่อนาทีจากเดิมที่นาทีละ 14 บาท แต่อย่างไรก็ตามค่าบริการประเทศยอดนิยมที่มีทราฟิกสูงอย่างสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ถือว่าค่าบริการต่ำอยู่แล้วทำให้ไม่สามารถลดราคาที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันลงได้

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000053957

_____________________________________________________

กสท เมินโซเชียลฯ บูม จัดเต็ม 009 โทร.ตปท. หวังโกย 4 พันล.

กสท ชู 009 โทร.ทางไกลต่างประเทศ หวังรักษารายได้ 4,000 ล้านบาท ไม่สนกระแสโซเชียลเน็ตมีเดียโต...

นาย พีรศักดิ์ อรุณสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจโทรศัพท์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า ขณะนี้ กสท ปรับภาพบริการโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศให้เข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น โดยในปีนี้ ทิศทางการทำตลาด ผ่านบริการรหัส 009 ที่วางตำแหน่งให้เป็น ไฟล์ทติ้ง แบรนด์ ที่ใช้กลยุทธ์ราคาถูกในการทำตลาด ขณะที่รหัส 001 เป็นพรีเมียม แบรนด์ ที่เน้นกลุ่มผู้ใช้โทร.เพื่อธุรกิจ

ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจโทรศัพท์ กสท กล่าวต่อว่า เนื่องจากธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศถูกเทคโนโลยีเข้ามาตีตลาดอย่างหนัก ทั้งบริการโทร.ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต หรือ วีโอไอพี รวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ทำให้มูลค่าตลาดรวมที่ผ่านมาหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเหลือเพียง 9 พัน ถึง 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ทั้งนี้ กสท มั่นใจว่า การมีบริการให้เลือกหลายแบบ คือ ทั้งราคาถูก และบริการระดับพรีเมียม ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้หลากหลายกลุ่ม แม้ว่าขณะนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีบริการผ่านรหัสของตัวเอง แต่รหัสของ กสท ยังเป็นที่จดจำในกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ กสท ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดที่ 50% และเนื่องจากปีนี้ไม่มีปัจจัยบวกที่จะทำให้รายได้กลุ่มนี้ขยับขึ้น หากเทียบกับปีที่ผ่านมาที่รายได้เติบโตกว่าที่ตั้งไว้ คือ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการทำแคมเปญในรูปแบบต่างๆ อย่างไรก็ตาม กสท ยังตั้งเป้ารายได้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ในปีนี้ที่ 4 พันล้านบาทเช่นเดิม

“แม้ว่าอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียจะกลายเป็น ช่องทางที่มีบทบาทสูง แต่มั่นใจว่าไม่กระทบกับการใช้งานด้านเสียง ที่ยังมีความสำคัญเช่นเดียวกัน และตลาดโทร.ต่างประเทศจะไม่หดตัวไปกว่านี้แล้ว โดยจะยังคงตั้งเป้ารายได้ในส่วนของกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ในปีนี้ที่ 4 พันล้านบาทเช่นเดิม” นายพีรศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ ภาพรวมการแข่งขันของบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่นอกเหนือไปจากการใช้ กลยุทธ์ราคาถูกแล้ว ยังพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้สะดวกกับผู้ใช้บริการมากขึ้น โดย กสท ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นวีโอไอพี สำหรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน เพื่อกระตุ้นการใช้งานให้มากขึ้น หลังจากสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมสูงมาก

นอกจากนี้ ยังมีบริการโอนสายไปต่างประเทศ (CAT international call forward) โดยลดอัตราค่าโอนสายให้ลูกค้าที่เดินทางไปต่างประเทศ และนำโทรศัพท์มือถือที่เปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติไปด้วยเหลือเริ่มต้นนาที ละ 3 บาท สามารถใช้บริการได้กว่า 200 ประเทศทั่วโลก ทำให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายลดลงจากเดิมประมาณ 60-80%.

ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/257291

_________________________________________________________

ชี้ธุรกิจโทรต่างประเทศช่วง “ขาลง” “เฟซบุ๊ค-สไกป์” ตีตลาดหนัก “กสท” อัดแคมเปญแจกทองสู้


ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 2 พฤษภาคม 2555 10:19:00 น.
นาย พีรศักดิ์ อรุณสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่(กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์)สายงานธุรกิจโทรศัพท์ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า การให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ(ไอดีดี)ในช่วงที่ผ่านมาตลาดไม่เติบโต เท่าที่ควร มีแนวโน้มลดลง เพราะสภาพการแข่งขันของตลาด เทคโนโลยีขณะนี้ก้าวหน้ามีโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาทิ วอทแอพ บริการโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เนต อย่าง สไกป์ ,เฟซบุ๊ค ฯลฯเข้ามา ทำให้มีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่หลากหลายขึ้น ดังนั้นผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศต่างจัดทำโปรโมชั่น และแคมเปญเข้ามากระตุ้นการใช้งาน


ขณะที่ กสท เองก็ได้จัดทำโปรโมชั่น”CAT 009 โทรถูกแถมทอง โทรง่ายได้รถ” เพื่อต้องการสื่อสารทางการตลาด สร้างการจดจำในภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

ปัจจุบัน มูลค่าตลาดไอดีดีอยู่ที่ปีละ 9,000-10,000 ล้านบาท โดย กสท มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่45% ถือเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องของการให้บริการที่บริษัทเป็นผู้ทำสายเคเบิลใต้น้ำ จึงมีโครงข่ายที่สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆกว่า200ประเทศทั่วโลกได้ โดย ตรงไม่ต้องมีศูนย์กลาง(ฮับ)ทำให้การติดต่อสื่อสารมีคุณภาพสัญญาณไม่ติดขัด และราคาค่าบริการที่ถูกกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งปีนี้กสท ตั้งเป้าหมายรายได้บริการไอดีดีหรือCAT009และ001ไว้ที่4,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้4,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าปีนี้ตั้งเป้ารายได้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาเพราะทิศทางลดลง

นาย พีรศักดิ์ กล่าวว่าแนวโน้มราคาค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ขณะนี้ราคาค่าบริการของ กสท เริ่มต้นที่นาทีละ3 บาท ใน5ประเทศ คือ อเมริกา แคนนาดา จีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ส่วนบางประเทศที่เปลี่ยนแปลงต้นทุนจะสามาถลดราคาค่าบริการลงมาได้อย่าง ประเทศเวียดนาม และกัมพูชาที่อัตราค่าบริการใหม่อยู่ที่10บาทต่อนาที จากเดิมที่นาทีละ14 บาท โดยปัจจัยที่จะทำให้ราคาลดลงขึ้นอยู่กับค่าส่วนแบ่งที่จ่ายให้ในแต่ละประเทศ กฎระเบียบและกฎหมายของผู้ประกอบการแต่ละประเทศที่คิดค่าบริการค่าเชื่อม ต่อ(เทอร์มิเนต) แต่หากสภาพการแข่งขันยังมีความรุนแรงมากอยู่ก็น่าจะปรับลดราคาลงมาได้

สำหรับ ค่าบริการในประเทศที่มีทราฟฟิกสูงอย่างประเทศ อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ถือว่าราคาต้นทุนในการให้บริการต่ำอยู่แล้ว ทำให้ไม่สามารถลดราคาลดลงมาได้อีก นอกจากนี้ภายใน3-4ปีจะเริ่มเห็นบริการโทรศัพท์อินเตอร์เนต (วอยซ์ โอเวอร์ ไอพี)ชัดเจนขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการโทรศัพท์จะถูกบังคับให้ทำตลาดตามสภาพของเทคโนโลยีที่ เปลี่ยน แปลงไป จากเดิมที่โทรศัพท์บ้านจะเป็นเพียงรับโทร และรับสายเท่านั้น ต่อไปโทรศัพท์บ้านจะมีอุปกรณ์ของวอยซ์ โอเวอร์ ไอพีเข้ามาเสริมด้วย

“การ ใช้โทรศัพท์บ้านในอนาคตยังต้องกดรหัสเหมือนเดิม การใช้งานยังคงเป็นแบบเดิม แต่ตัวที่จะเข้ามาเพิ่มเติมคือแอพพลิเคชั่นต่างๆที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้ พฤติกรรมการ ใช้งานเปลี่ยนไป การติดต่อสื่อสารจะมีประสิทธิภาพมากกว่าปัจจุบัน” นายพีรศักดิ์ กล่าว

แนวหน้า
http://www.ryt9.com/s/nnd/1394274

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.