Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

15 กุมภาพันธ์ 2555 แหล่งข่าวCATบอกสมพลไม่พูดเพราะเซ็นชื่อเป็นพยาน//สมพลโต้กลับบอกเรื่องกำลังไปสตง.มั่นใจอำนาจหน้าทีถูกต้อง

แหล่งข่าวCATบอกสมพลไม่พูดเพราะเซ็นชื่อเป็นพยาน//สมพลโต้กลับบอกเรื่องกำลังไปสตง.มั่นใจอำนาจหน้าทีถูกต้อง


ต้นเหตุของข่าวนี้คือ...
พนักงาน CAT ทวงผลสอบเช่าโครงข่ายเช่าใช้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงและอุปกรณ์ประกอบ FTTH
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thailandinthepresentday&month=14-02-2012&group=5&gblog=93


ประเด็นหลัก

นาย สมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจบรอดแบนด์ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ยื่นหนังสือตรวจสอบโครงการเช่าอุปกรณ์ FTTX ในภูมิภาคทั้ง 10 จังหวัดนั้น กสท กำลังจะส่งหนังสือตอบกลับไปยังสตง.ในประเด็นอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างให้คณะกรรมการกสท พิจารณาก่อนส่งไป

'เรามั่นใจว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปในตอนนั้นถูกต้องตามระเบียบทั้งหมด ส่วนในเรื่องมีพนักงานร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวไม่โปรงใสนั้น ผมไม่ทราบ และไม่สามารถตอบได้จริงๆ'

แหล่งข่าวในกสท กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การร้องเรียนของพนักงานผ่านสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวหลายสำนัก คนในวงการรู้กันหมด แต่แปลกใจที่คนระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลับไม่รู้เรื่อง อาจเป็นเพราะนายสมพล เซ็นชื่อเป็นพยานในสัญญาด้วย ก็เลยปฏิเสธที่จะรับรู้

'เร็วไปหรือเปล่า ที่รีบออกมารับรองความถูกต้องของสัญญาทั้งหมดว่าทำถูกต้องตามระเบียบ รอผลสอบอย่างเป็นทางการของกรรมการออกมาแล้วค่อยพูดจะดีกว่ามั้ง เพราะหากสัญญาผิดคนเป็นพยานก็น่าจะมีความผิดด้วย'

ขณะที่โครงการ FTTX ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ความคืบหน้าล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้กสทกลับไปทำเป็นโครงการนำร่องก่อนช่วงแรกจากที่กสท เสนอเข้าไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด 4 แสนพอร์ดภายใต้งบ 6,000 ล้านบาท ทำให้เหลือเพียง 1 แสนพอร์ต งบ 1,280 ล้านบาทโดยอยู่ระหว่างกระทรวงไอซีทีพิจารณาโครงการดังกล่าว ก่อนจะส่งไปยังสศช.ต่อไป


_______________________________________________________

'สมพล' ออกหน้า ยันโครงการ FTTX โปร่งใส


'สมพล จันทร์ประเสริฐ' รองกจญ.กสท พยานเซ็นสัญญาเช่า FTTX ภูมิภาค ยืนยันโครงการโปร่งใส พร้อมแจงสตง. แต่ปฏิเสธไม่รับรู้ข้อร้องเรียนจากพนักงาน ทั้งๆที่หนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าว ลงกันคึกคัก

นายสมพล จันทร์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจบรอดแบนด์ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ยื่นหนังสือตรวจสอบโครงการเช่าอุปกรณ์ FTTX ในภูมิภาคทั้ง 10 จังหวัดนั้น กสท กำลังจะส่งหนังสือตอบกลับไปยังสตง.ในประเด็นอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างให้คณะกรรมการกสท พิจารณาก่อนส่งไป

'เรามั่นใจว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปในตอนนั้นถูกต้องตามระเบียบทั้งหมด ส่วนในเรื่องมีพนักงานร้องเรียนว่าโครงการดังกล่าวไม่โปรงใสนั้น ผมไม่ทราบ และไม่สามารถตอบได้จริงๆ'

แหล่งข่าวในกสท กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า การร้องเรียนของพนักงานผ่านสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวหลายสำนัก คนในวงการรู้กันหมด แต่แปลกใจที่คนระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลับไม่รู้เรื่อง อาจเป็นเพราะนายสมพล เซ็นชื่อเป็นพยานในสัญญาด้วย ก็เลยปฏิเสธที่จะรับรู้

'เร็วไปหรือเปล่า ที่รีบออกมารับรองความถูกต้องของสัญญาทั้งหมดว่าทำถูกต้องตามระเบียบ รอผลสอบอย่างเป็นทางการของกรรมการออกมาแล้วค่อยพูดจะดีกว่ามั้ง เพราะหากสัญญาผิดคนเป็นพยานก็น่าจะมีความผิดด้วย'

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดโครงการ FTTX ในส่วนภูมิภาคทั้ง 10 จังหวัด คือที่สมุย หัวหิน นครราชสีมา อุบลราชธานี เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ อุดรธานี ภูเก็ต และพัทยา ในสมัยนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่นั้นมีที่พัทยาเท่านั้นที่ติดตั้งแล้วเสร็จ ส่วนอีก 9 จังหวัดที่เหลือคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนเม.ย. - มิ.ย.นี้

ทั้งนี้โครงการ FTTX ในส่วนภูมิภาคคาดว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับ กสท ตลอดระยะเวลา 6 ปีประมาณ 12,000 ล้านบาท แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนค่าติดตั้ง และค่าเช่าทั้งหมดรวม 8,000 ล้านบาท ซึ่งท้ายสุด กสท จะมีกำไรจากโครงการดังกล่าว 4,000 ล้านบาท โดยตามแผนธุรกิจของ กสท ในปี 2555 โครงการ FTTX ในภูมิภาคจะมีรายได้ทั้งสิ้น 528 ล้านบาท และในปี 2556 จะเพิ่มเป็น 1,373 ล้านบาท

นายสมพลยังกล่าวถึงรายได้ธุรกิจสื่อสารข้อมูลในปี55นี้ว่าจะสามารถทำรายได้ 7,560 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตราว 8.1% โดยรายได้ธุรกิจสื่อสารข้อมูลมีสัดส่วนของรายได้ทั้งหมด 15% โดยปีนี้กสทคาดว่าผลประกอบการของกสทจะอยู่ที่ 61,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีรายได้ 51,327 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากสัญญาสัมปทานราว 26,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้จากบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ วงจรสื่อสารข้อมูล โทรศัพท์มือถือ 3G HSPA แบรนด์ "My" และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์)

ทั้งนี้หากไม่รวมรายได้จากสัญญาสัมปทานที่ได้รับจากบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ธุรกิจสื่อสารข้อมูลจะมีรายได้คิดเป็น 50% จากรายได้รวมของกสท โดยรายได้ดังกล่าว มาจากธุรกิจวงจรเช่า 5,177 ล้านบาท บรอดแบนด์ 1,200 ล้านบาท อี-บิสซิเนส 100 ล้านบาท และธุรกิจไอที ซิเคียวริตี้จำนวน 200 ล้านบาท นอกจากนี้กสท ยังทำสัญญาให้เช่าในส่วนของการทำเคเบิลใต้น้ำธุรกิจพลังงานบริเวณอ่าวไทย ให้กับ บริษัท ปตท. สผ. และบริษัท เชฟรอน ซึ่งมีสัญญาเช่าถึง15 ปีโดยจะต้องจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยให้กับกสท 365 ล้านบาทต่อปีทั้ง 2 บริษัท

บอร์ดกสท ได้มีมติอนุมติงบลงทุนในการดำเนินการโครงการเคเบิลใต้น้ำเอเชีย แปซิฟิก เกตเวย์ (APG) ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาทซึ่งจะแล้วเสร็จอีกประมาณ 2 ปีหรือประมาณปี 2557 เชื่อมต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวม 14 ราย มีความยาวของเคเบิ้ลกว่า 8,000 กิโลเมตร มีจุดขึ้นบกในประเทศต่างๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไทย

ขณะที่โครงการ FTTX ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ความคืบหน้าล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้กสทกลับไปทำเป็นโครงการนำร่องก่อนช่วงแรกจากที่กสท เสนอเข้าไปก่อนหน้านี้ทั้งหมด 4 แสนพอร์ดภายใต้งบ 6,000 ล้านบาท ทำให้เหลือเพียง 1 แสนพอร์ต งบ 1,280 ล้านบาทโดยอยู่ระหว่างกระทรวงไอซีทีพิจารณาโครงการดังกล่าว ก่อนจะส่งไปยังสศช.ต่อไป


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000021191


ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.