17 มกราคม 2555 เปิดรายได้ 3G CAT-TRUE ปีแรก!! 1,400 ล้านบาท โดย MY ทำได้ได้ 30 ล้านบาท // เหตุTRUEMOVE H เปิดตลาดและเร่งส่งเสริม
เปิดรายได้ 3G CAT-TRUE ปีแรก!! 1,400 ล้านบาท โดย MY ทำได้ได้ 30 ล้านบาท // เหตุTRUEMOVE H เปิดตลาดและเร่งส่งเสริม
ประเด็นหลัก
สำหรับรายได้จากการทำสัญญา ธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการ 3 จี ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 1,400 ล้านบาท มีกำไรกว่า 300 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้ ส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ ''มาย'' จำนวน 30 ล้านบาท ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 19,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากบริการ ''มาย'' 1,800 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่รายได้จากสัญญา 3 จี เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มทรู จะเปิดตลาด และเร่งส่งเสริมการขายมากยิ่งขึ้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3 จี
_________________________________________________________
เปิดรายได้ 3จี สัญญาทรู-กสท
กสท โวปี 54 สัญญา 3จี ทรู สร้างรายได้ 1,400 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมทั้งปี 52,712 ล้านบาท เชื่อกลุ่มทรูจะเปิดตลาด พร้อมเร่งส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3จี...
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้รวม 52,712 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการของ กสท 17,207 ล้านบาท รายได้จากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ 35,505 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8,617 ล้านบาท แต่หากไม่นำรายได้จากสัญญาสัมปทานมือถือมาคำนวณเป็นรายได้รวมแล้ว ทำให้ กสท จะขาดทุน 1,776 ล้านบาท ฉะนั้น กสท จึงจำเป็นต้องเร่งหารายได้เพิ่ม ซึ่ง กสท อยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และการเร่งหารายได้เพิ่ม ทั้งจากบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การให้บริการอินเทอร์เน็ต (ดาต้า) การให้บริการโทรศัพท์มือถือ การให้บริการโครงข่ายความเร็วสูงผ่านไฟเบอร์ออฟติก (FTTx)
สำหรับราย ได้จากการทำสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการ 3 จี ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 1,400 ล้านบาท มีกำไรกว่า 300 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้ ส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ ''มาย'' จำนวน 30 ล้านบาท ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 19,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากบริการ ''มาย'' 1,800 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่รายได้จากสัญญา 3 จี เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มทรู จะเปิดตลาด และเร่งส่งเสริมการขายมากยิ่งขึ้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3 จี
“รายได้จากสัญญา 3จี ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะว่าทรูขยายสถานีฐานอย่างรวดเร็ว ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ว่า 3 ปี จะมี 5,000 สถานีฐาน แต่เพียงปีนี้ปีเดียว ทรูก็จะะมีสถานีฐานรวมกัน 14,000 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 สถานีฐานเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก เป็นเพราะความต้องการของตลาดที่ต้องการใช้ 3 จีเพิ่มขึ้น ทำให้ทรูต้องเร่งขยายสถานีฐาน ซึ่งทำให้ กสท ก็ต้องเร่งขยายบริการเช่นเดียวกัน โดย กสท จะใช้สถานีฐานของทรูในการให้บริการมือถือ ''มาย'' แต่การทำตลาดของ กสท คงไม่หวือหวาเท่ากับทรู เพราะเอกชนมีความคล่องตัวมากกว่ารัฐวิสาหกิจ แต่ กสท ก็พยายามที่จะทำตลาด โดยคาดว่าปีนี้จะมีผู้ใช้บริการ 600,000 เลขหมาย จากปัจจุบันมี 4,000 เลขหมายเท่านั้น” รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/231289
ประเด็นหลัก
สำหรับรายได้จากการทำสัญญา ธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการ 3 จี ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 1,400 ล้านบาท มีกำไรกว่า 300 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้ ส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ ''มาย'' จำนวน 30 ล้านบาท ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 19,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากบริการ ''มาย'' 1,800 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่รายได้จากสัญญา 3 จี เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มทรู จะเปิดตลาด และเร่งส่งเสริมการขายมากยิ่งขึ้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3 จี
_________________________________________________________
เปิดรายได้ 3จี สัญญาทรู-กสท
กสท โวปี 54 สัญญา 3จี ทรู สร้างรายได้ 1,400 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมทั้งปี 52,712 ล้านบาท เชื่อกลุ่มทรูจะเปิดตลาด พร้อมเร่งส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3จี...
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้รวม 52,712 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการของ กสท 17,207 ล้านบาท รายได้จากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ 35,505 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8,617 ล้านบาท แต่หากไม่นำรายได้จากสัญญาสัมปทานมือถือมาคำนวณเป็นรายได้รวมแล้ว ทำให้ กสท จะขาดทุน 1,776 ล้านบาท ฉะนั้น กสท จึงจำเป็นต้องเร่งหารายได้เพิ่ม ซึ่ง กสท อยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และการเร่งหารายได้เพิ่ม ทั้งจากบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การให้บริการอินเทอร์เน็ต (ดาต้า) การให้บริการโทรศัพท์มือถือ การให้บริการโครงข่ายความเร็วสูงผ่านไฟเบอร์ออฟติก (FTTx)
สำหรับราย ได้จากการทำสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการ 3 จี ระหว่าง กสท กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา กสท มีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 1,400 ล้านบาท มีกำไรกว่า 300 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้ ส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ ''มาย'' จำนวน 30 ล้านบาท ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมีรายได้จากสัญญาดังกล่าว 19,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากบริการ ''มาย'' 1,800 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่รายได้จากสัญญา 3 จี เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มทรู จะเปิดตลาด และเร่งส่งเสริมการขายมากยิ่งขึ้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3 จี
“รายได้จากสัญญา 3จี ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะว่าทรูขยายสถานีฐานอย่างรวดเร็ว ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ว่า 3 ปี จะมี 5,000 สถานีฐาน แต่เพียงปีนี้ปีเดียว ทรูก็จะะมีสถานีฐานรวมกัน 14,000 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 สถานีฐานเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก เป็นเพราะความต้องการของตลาดที่ต้องการใช้ 3 จีเพิ่มขึ้น ทำให้ทรูต้องเร่งขยายสถานีฐาน ซึ่งทำให้ กสท ก็ต้องเร่งขยายบริการเช่นเดียวกัน โดย กสท จะใช้สถานีฐานของทรูในการให้บริการมือถือ ''มาย'' แต่การทำตลาดของ กสท คงไม่หวือหวาเท่ากับทรู เพราะเอกชนมีความคล่องตัวมากกว่ารัฐวิสาหกิจ แต่ กสท ก็พยายามที่จะทำตลาด โดยคาดว่าปีนี้จะมีผู้ใช้บริการ 600,000 เลขหมาย จากปัจจุบันมี 4,000 เลขหมายเท่านั้น” รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/tech/231289
ไม่มีความคิดเห็น: