Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

19 มกราคม 2555 กสทช. มีมติอนุมัติโครงสร้างใหม่ แบ่งเป็น 4 หน่วยงาน รวม 44 กลุ่มงาน // รายได้มาจากส่วนเดียวเท่านั้นคือโทรคมนาคม

กสทช. มีมติอนุมัติโครงสร้างใหม่ แบ่งเป็น 4 หน่วยงาน รวม 44 กลุ่มงาน // รายได้มาจากส่วนเดียวเท่านั้นคือโทรคมนาคม


ประเด็นหลัก


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.นัดพิเศษ ซึ่งที่ประชุมมีการอนุมัติโครงสร้างการแบ่งส่วนงานภายในสำนักงานกสทช.ใหม่ ทั้งหมด โดยจะยกเลิกโครงสร้างเดิมที่กสทช.ใช้มานานกว่า 9 ปี โดยรอเพียงปรับแก้คำสั่งก่อนส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ส่วนการปรับโครงสร้างและแบ่งส่วนงานภายในสำนักงาน กสทช.ใหม่ในครั้งนี้เป็นเพียงโครงสร้างทดลองใช้ในระยะ 1 ปีก่อนโดยจะมีการประเมินทุก 6 เดือน

อย่างไรก็ดีการปรับโครงสร้างดังกล่าว มีรองเลขาธิการ 4 คน และภายใต้รองเลขาธิการจะมีกลุ่มภารกิจทำงานด้วย โดยแบ่งออกเป็น รองเลขาธิการภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์โดยมี 16 กลุ่มงาน รองเลขาธิการภารกิจยุทธศาสตร์และกิจการองค์กรมี 8 กลุ่มงาน รองเลขาธิการภารกิจภูมิภาคและบูรณาการ 8 กลุ่มงาน และรองเลขาธิการภารกิจโทรคมนาคมอีก 16 กลุ่มงาน

นายฐากร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีวาระการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณใช้จ่ายประจำปี 2555 เพื่อเข้ามาเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณประจำปี โดยคาดว่าจะมีคณะกรรมการทั้งหมด 7 คน ซึ่งประธานกสทช.จะได้สิทธิ์เลือก 3 คน กสทช.ด้านกระจายเสียง 2 คน และกสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม 2 คน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกินภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากกรอบการทำงานงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ต้องเสร็จในเดือนก.พ.นี้

ขณะเดียวกันในปี 55 กสทช.ประมาณการณ์รายรับของสำนักงานกสทช.อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท โดยรายรับส่วนใหญ่มาจากทางฝั่งกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ รายได้ค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมที่กสทช.เรียกเก็บ 2% จากรายได้ผู้ประกอบการ ค่าธรรมเนียมเลขหมาย และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตวิทยุโทรคมนาคม




________________________________________________________


บอร์ด กสทช. มีมติอนุมัติโครงสร้างใหม่


นาย ฐากร ตัณฑสิทธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการ กสทช. ว่า ในวันนี้ (19 ม.ค.55) ที่ประชุมมีมติอนุมัติใช้โครงสร้างใหม่ของสำนักงาน กสทช.และให้ยกเลิกโครงสร้างเดิมที่มีอยู่ สำหรับโครงสร้างใหม่จะมีรองเลขาธิการ 4 คน เพื่อดูแลภารกิจในแต่ละด้าน ประกอบด้วยภารกิจด้านกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ / ภารกิจยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร / ภารกิจภูมิภาคและบูรณาการ และภารกิจโทรคมนาคม รวมทั้งสิ้น 44 กลุ่มงาน โดยจะมีการทดลองใช้โครงสร้างดังกล่าวและปรับโครงสร้างทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการทำงานมากที่สุด คาดว่าภายใน 1 ปีก็จะได้โครงสร้างใหม่ที่ชัดเจน และคาดว่าจะมีการเปิดรับพนักงาน/เจ้าหน้าที่ในด้านกิจการกระจายเสียงเพิ่ม เติมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งอนุคณะกรรมการพิจารณางบประมาณใช้จ่ายประจำปี 2555 จำนวน 7 คน เพื่อทำหน้าที่พิจารณาการใช้งบประมาณสำนักงานอย่างคุ้มค่า คาดว่าจะให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อดำเนินการวางกรอบงบประมาณรายจ่าย ปี 2555 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ พร้อมคาดการณ์รายรับของสำนักงาน กสทช.ปีนี้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 3,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมเลขหมาย ค่าธรรมเนียมวิทยุโทรคมนาคมและค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการด้านกิจการโทร คมนาคม ส่วนกิจการด้านกระจายเสียงยังไม่มีรายได้เนื่องจากยังไม่มีการออกใบอนุญาต


moneychannel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Moneylinenews/tabid/89/newsid491/166311/Default.aspx

________________________________________________________

กสทช.ยกเครื่องโครงสร้างเดิมทั้งระบบ


บอร์ดกสทช. อนุมัติปรับโครงสร้างภายในใหม่ทั้งหมดชี้ใช้ชั่วคราวก่อน 1 ปีดูความเหมาะสม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณปี 55 ให้เกิดความโปร่งใส คาดปีนี้มีรายรับ 4,000 ล้านบาทจากโทรคมนาคม ส่วนนัมเบอร์พอร์ทฯล่าสุด ลูกค้าทรูแห่ย้ายเข้า กสท 7.8 หมื่นเลขหมาย

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.นัดพิเศษ ซึ่งที่ประชุมมีการอนุมัติโครงสร้างการแบ่งส่วนงานภายในสำนักงานกสทช.ใหม่ ทั้งหมด โดยจะยกเลิกโครงสร้างเดิมที่กสทช.ใช้มานานกว่า 9 ปี โดยรอเพียงปรับแก้คำสั่งก่อนส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ส่วนการปรับโครงสร้างและแบ่งส่วนงานภายในสำนักงาน กสทช.ใหม่ในครั้งนี้เป็นเพียงโครงสร้างทดลองใช้ในระยะ 1 ปีก่อนโดยจะมีการประเมินทุก 6 เดือน

อย่างไรก็ดีการปรับโครงสร้างดังกล่าว มีรองเลขาธิการ 4 คน และภายใต้รองเลขาธิการจะมีกลุ่มภารกิจทำงานด้วย โดยแบ่งออกเป็น รองเลขาธิการภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์โดยมี 16 กลุ่มงาน รองเลขาธิการภารกิจยุทธศาสตร์และกิจการองค์กรมี 8 กลุ่มงาน รองเลขาธิการภารกิจภูมิภาคและบูรณาการ 8 กลุ่มงาน และรองเลขาธิการภารกิจโทรคมนาคมอีก 16 กลุ่มงาน

นายฐากร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีวาระการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณใช้จ่ายประจำปี 2555 เพื่อเข้ามาเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณประจำปี โดยคาดว่าจะมีคณะกรรมการทั้งหมด 7 คน ซึ่งประธานกสทช.จะได้สิทธิ์เลือก 3 คน กสทช.ด้านกระจายเสียง 2 คน และกสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม 2 คน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกินภายในสัปดาห์หน้า เนื่องจากกรอบการทำงานงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ต้องเสร็จในเดือนก.พ.นี้

ขณะเดียวกันในปี 55 กสทช.ประมาณการณ์รายรับของสำนักงานกสทช.อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท โดยรายรับส่วนใหญ่มาจากทางฝั่งกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ รายได้ค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมที่กสทช.เรียกเก็บ 2% จากรายได้ผู้ประกอบการ ค่าธรรมเนียมเลขหมาย และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตวิทยุโทรคมนาคม

ซึ่งรายรับดังกล่าวยังไม่รวมรายได้จากด้านกิจการกระจายเสียงที่ยังไม่มีราย ได้แต่อย่างใดในปัจจุบัน เนื่องจากยังไม่มีการออกใบอนุญาตใหม่ให้กับผู้ประกอบการเลย

“ส่วนรายจ่ายของสำนักงานกสทช.ในปีนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าไว้แต่อย่างใด เนื่องจากรอคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณประจำปีนี้ก่อน ซึ่งในปีที่แล้วกสทช.มีรายจ่ายประมาณ 2,400 ล้านบาท”

สำหรับงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานกสทช.นั้นแบ่งออกเป็น 4 ก้อนหลัก ได้แก่ งบประมาณในส่วนของกสทช. งบประมาณในส่วนกิจการกระจายเสียง และโทรทัศน์ งบประมาณส่วนของกิจการโทรคมนาคม และงบประมาณในส่วนของสำนักงานกสทช.

นอกจากนี้ นายฐากร ยังเปิดเผยถึงวาระแจ้งเพื่อทราบในที่ประชุมโดยมีเรื่องของการคงสิทธิเลขหมาย (นัมเบอร์พอร์ทฯ) ซึ่งมียอดการย้ายโอนย้ายเลขหมายตั้งแต่เดือน ธ.ค.54-ม.ค.55 จำนวน 401,053 เลขหมาย โดยโอนย้ายสำเร็จ 304,779 เลขหมาย ส่วนอีก 1 แสนเลขหมายไม่สามารถโอนย้ายสำเร็จ เนื่องจากมีปัจจัย 3 ข้อ ชื่อ และนามสกุล ไม่ถูกต้อง จำนวน 16% ลูกค้าไม่มีการลงทะเบียนใช้งาน 10-12% และ ลูกค้าค้างชำระค่าบริการอีกประมาณ 5-8%

ขณะที่่จำนวนยอดลูกค้าย้ายเข้า-ออกที่มียอดเป็นบวก ได้แก่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ซึ่งมียอดการย้ายเข้าของลูกค้า บริษัท ทรูมูฟ จำกัด จำนวน 7.8 หมื่นเลขหมาย บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (เอไอเอส) จำนวน 5.4 หมื่นเลขหมาย

ส่วนยอดลูกค้าย้ายเข้า-ออกที่มียอดเป็นลบได้แก่ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมูนิเคชั่น (ดีแทค) จำนวน 5 พันกว่าเลขหมาย บริษัท ทรูมูฟ จำกัด จำนวน 1.1 แสนเลขหมาย และบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) จำนวน 1.2 หมื่นเลขหมาย

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถโอนย้ายได้ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ โดย ทีโอทีมีจำนวน 40 กว่าแห่ง กสท 113 แห่ง เอไอเอส จำนวน 26 แห่ง ดีแทค จำนวน 51 แห่ง และ ทรูมูฟ จำนวน 61 แห่ง

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9550000008488

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.