23 ตุลาคม 2555 (เกาะติดประมูล3G)กสทช.ตั้งหลักใหม่!!อ้าง.ราคาเริ่มต้น4,500ล้านบาท เหตุเพื่อเลือกเดินสายกลาง +DSI ป.ป.ช. รีบสอบทันที
ประเด็นหลัก
ด้านพันเอกเศรษฐพงค์ ชี้แจงว่า จากการศึกษาการประมูลในหลายประเทศพบว่า วิธีการประเมินแบบเก่าไม่มีประสิทธิภาพ จึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ 9 สลอตเพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้แข่งขัน และจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก็มีทั้งที่มองว่าราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท ทั้งสูงและต่ำเกินไป จึงต้องเลือกเดินสายกลาง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ที่สุด พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหากคณะกรรมาธิการเห็นมีมีสิ่งผิดปกติก็พร้อมรับการตรวจสอบและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยอมรับว่า ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ทาบทามตนเอง ให้นั่งเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการเคาะราคา ของผู้ร่วมประมูลใบอนุญาต 3G จริง โดยส่วนตัวมีความยินดี และไม่ขัดข้อง แต่ต้องรอดูหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการก่อน และต้องขึ้นอยู่กับ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะอนุญาตให้ไปปฏิบัติภารกิจได้หรือไม่ ทั้งนี้หากได้นั่งประธานในคณะทำงานตรวจสอบชุดนี้ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด โดยต้องมีการหารือกับทางคณะกรรมการถึงแนวทางการดำเนินการ ที่ต้องมีความเป็นกลาง และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และคาดว่า หากการประมูลเป็นไปตามระเบียบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
_______________________________
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ประชุมพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ 3 จีโดยเชิญ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ และพันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการโทรคมนาคม หรือ กทค. ใน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เข้าชี้แจง
นายสมเกียรติกล่าวว่า การที่ผู้ประกอบได้ประมูลคลื่นความถี่ในราคาถูกไม่ได้หมายความว่าค่าบริการจะถูกลงตามไปด้วย เพราะเป็นคนละส่วนกันดังนั้นประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ ทั้งนี้ กสทช. มีการกำหนดราคาประมูลที่ถูกเกินไปทั้งที่การประเมินราคาตั้งต้นจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ที่ 6,440 ล้านบาท แต่กลับมีการประมูลจริงเพียง สลอตละ 4,500 ล้านบาท ทำให้ประชาชนเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท พร้อมเห็นว่าการทำรายได้ให้รัฐจากการประมูลมากเท่าใดยิ่งเป็นตัวชี้วัดว่ามีการแข่งขัน และเมื่อดูกรณีของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่ใช้วิธีเดียวกับประเทศไทยก็เกิดความล้มเหลวจึงน่าจะศึกษาเป็นตัวอย่าง
ด้านพันเอกเศรษฐพงค์ ชี้แจงว่า จากการศึกษาการประมูลในหลายประเทศพบว่า วิธีการประเมินแบบเก่าไม่มีประสิทธิภาพ จึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ 9 สลอตเพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้แข่งขัน และจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก็มีทั้งที่มองว่าราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท ทั้งสูงและต่ำเกินไป จึงต้องเลือกเดินสายกลาง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ที่สุด พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหากคณะกรรมาธิการเห็นมีมีสิ่งผิดปกติก็พร้อมรับการตรวจสอบและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กทค. กล่าวว่าหากราคาตั้งต้นการประมูลสูงจะเกิดความเสี่ยง เพราะสภาพการแข่งขันจะลดลงทันที เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยจะแข่งขันไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบันเริ่มมีเทคโนโลยี 4 จีแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ถูกใจถ้าได้คุยกันจะดีขึ้น ซึ่งหากตนผิดก็พร้อมยอมรับ
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?
newsid=1351061004&grpid=03&catid=03
_______________________________________
เลขาฯกสทช.ออกตัวขอDSI ร่วมสอบฮั๊วประมูล3G
เลขาฯ กสทช.ออกตัวเดินสายยื่นคำร้องขอหน่วยงานเกี่ยวข้องและ DSI ร่วมตรวจสอบการประมูลใบอนุญาต 3G ด้านอธิบดีธาริต บอกทำได้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานครั้งแรก....
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารทั้งหมดในโครงการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรศัพท์มือถือ 3 จี ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ดีเอสไอในฐานะหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบข้อครหาฮั้วประมูล 3จี เพื่อความโปร่งใส หลังจาก กสทช.ได้ยื่นเรื่องขอให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าร่วมตรวจสอบการประมูลคลื่นความถี่ 3จี
โดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวหลังยื่นเรื่องต่อดีเอสไอว่า การมายื่นเอกสารในวันนี้เป็นความตั้งใจของสำนักงาน กสทช.ที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งให้มาชี้แจงแต่ประการใด สำหรับเอกสารที่นำมายื่นในวันนี้ ประกอบด้วยเอกสารการประมูลคลื่นความถี่ 2.1GHZ ที่ผ่านมาทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ เอกสารการประมูลครั้งแรกในสมัย กทช.เอกสารที่ดำเนินการโดย กสทช.ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการเตรียมความพร้อมการประมูล เอกสารการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่ผ่านความเห็นชอบจาก กทค.และ กสทช. เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า ยังได้นำประกาศหลักเกณฑ์การประมูล IM ข้อมูลการยื่นขอรับแบบคำขออนุญาตฯของผู้สนใจทั้ง 17 ราย เมื่อวันที่ 27 ส.ค.55 หนังสือขอความร่วมมือกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเพื่อขอให้การสนับสนุน การออกหนังสือรับรองให้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูล เพื่อช่วยเหลือผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลรายใหม่ที่ประสบปัญหาขาดการสนับสนุน จากสถาบันการเงิน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลทั้งหมดมาให้ดีเอสไอ ไม่ต้องรอคนอื่นมายื่นเรื่อง ซึ่งหลังจากนี้หากดีเอสไอมีประเด็นสงสัยก็ไปตรวจสอบที่สำนักงาน กสทช.ได้ หรือจะเรียกสำนักงาน กสทช.มาก็ได้ สำหรับการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 3 จี กสทช.ยืนยันมาตลอดว่า ทุกอย่างทำด้วยความโปร่งใส หลังจากทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ต่อไป กสทช.จะทำเพื่อประโยชน์ประชาชนโดยการลดค่าโทรศัพท์ลงมา
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอเพิ่งได้รับคำร้อง ซึ่งไม่ใช่จากผู้ร้องเรียน แต่เป็นจากหน่วยงาน กสทช.มายื่นเองโดยตรง ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ที่ดีเอสไอในฐานะมีหน้าที่ในการดูแลการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องการฮั้ว ประมูล ดีเอสไอจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ ส่วนจะตรวจสอบในประเด็นอะไรบ้างนั้น ต้องขอดูจากคำร้องและเนื้อหาก่อน เพราะวันนี้ กสทช.มีการเอกสารจำนวนมาก ตนจะมอบให้สำนักคดีพิเศษ 2 ดีเอสไอ ซึ่งมีเชี่ยวชาญและดูแลคดีฮั้วประมูลโดยตรงเป็นผู้รับผิดชอบ ดีเอสไอจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้กับสาธารณชนรับทราบ จากการตั้งดีเอสไอมา 10 ปี ยังไม่เคยมีกรณีที่เจ้าของหน่วยงานที่อาจจะถูกร้องเรียนมาร้องเอง อันนี้เป็นกรณีแรก สามารถทำได้เพราะถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่จะตรวจสอบให้.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/region/300975
________________________________________
กมธ.วุฒิฯ ยื่นป.ป.ช. สอบประมูล 3G แล้ว พรุ่งนี้เชิญทุกฝ่ายชี้แจง
นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพชรบุรี ในฐานะประธานประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ กรณีการเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G อาจเข้าข่ายขัดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐปี 42 (พ.ร.บ.ฮั้ว) หรือไม่
ทั้งนี้ หลังได้รับเรื่องจากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.) แล้วได้มอบหมายให้อนุกรรมการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตรวจสอบ ซึ่งก็มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการประมูลหลายเรื่องอาทิ การแข่งขันของบริษัทที่เข้าประมูลคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เร่งรีบลงมติผลการประมูลหรือไม่ ซึ่งข้อสังเกตเหล่านี้ ได้นำเสนอต่อ ป.ป.ช. ในวันนี้ด้วย
สัปดาห์ก่อน นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธาน สอบ. ยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบฯ ขอให้ตรวจสอบการทำงานของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กรณีเปิดประมูลใบอนุญาต 3G โดยขอให้ตรวจสอบว่ากรณีนี้อาจเข้าข่ายขัดพ.ร.บ.ฮั้ว หรือไม่
สำหรับการตรวจสอบของกมธ.ศึกษาฯ นางสาวสุมล กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) จะเชิญทุกหน่วยงานมาชี้แจง ทั้ง กสทช., กทค., บริษัทเอกชนที่เข้าประมูล และ สอบ.ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนด้วย
ด้าน นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การประชุมป.ป.ช.วันพรุ่งนี้จะนำเรื่องที่กระทรวงการคลัง ขอให้ตรวจสอบกรณีการประมูลใบอนุญาต 3G เข้าหารือ ว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา กสทช.จัดให้มีการประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) โดยเปิดประมูลทั้งสิ้น 9 ใบอนุญาต ที่ราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท/ใบอนุญาต โดยกำหนดให้ผู้ประมูลได้สูงสุด ไม่เกิน 3 ใบอนุญาต
ขณะที่มีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ โดยประมูลได้ใบอนุญาต รายละ 3 ใบอนุญาต เท่ากันส่วนราคาประมูล รวมทั้งสิ้นที่ 4.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.78% เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นทั้งหมดที่ 4.05 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงราคาประมูลที่สูงกว่าราคาเริ่มต้นไม่มากนัก ซึ่งอาจทำให้รัฐเสียประโยชน์
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้อง กรณีนักวิชาการอิสระยื่นคำร้องขอให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G รวมถึง ไม่รับไต่สวนฉุกเฉินคำฟ้องที่ให้ระงับการประมูลดังกล่าว ของกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) ด้วยเช่นกัน
ข่าวหุ้นธุรกิจ
http://www.kaohoon.com/online/48682/%A1%C1%B8.%C7%D8
%B2%D4%CF-%C2%D7%E8%B9%BB.%BB.%AA.-
%CA%CD%BA%BB%C3%D0%C1%D9%C5-3G-%E1%C5%E9%C7
-%BE%C3%D8%E8%A7%B9%D5%E9%E0%AA%D4%AD%B7%D8
%A1%BD%E8%D2%C2%AA%D5%E9%E1%A8%A7-.htm
______________________________________
กมธ.สอบทุจริตฯ จี้ ป.ป.ช.ตรวจสอบประมูล 3G เข้าข่ายฮั้วหรือไม่
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะคณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการประมูล 3 จีที่ผ่านมาว่า เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือไม่
โดย น.ส.สุมล กล่าวว่า การประมูล 3 จีที่ผ่านมา ผิดลักษณะของการประมูล และส่อไปในทางฮั้วประมูล ซึ่งการดำเนินงานของ กสทช.โปร่งใส หรือไม่มีนัยซ่อนเร้น ต้องสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมการประมูล 3 ราย ประธานคณะกรรมการ กสทช. กทค. คณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนเข้าชี้แจงตลอดทั้งวัน จึงคาดว่า วุฒิสภาจะได้ข้อสรุปชัดเจนในวันพรุ่งนี้
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000130048&Keyword=3g
________________________________________
"สุวิจักขณ์"รับ กสทช.ทาบนั่ง ปธ.สอบประมูล 3G จริง
นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยอมรับว่า ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ทาบทามตนเอง ให้นั่งเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการเคาะราคา ของผู้ร่วมประมูลใบอนุญาต 3G จริง โดยส่วนตัวมีความยินดี และไม่ขัดข้อง แต่ต้องรอดูหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการก่อน และต้องขึ้นอยู่กับ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะอนุญาตให้ไปปฏิบัติภารกิจได้หรือไม่ ทั้งนี้หากได้นั่งประธานในคณะทำงานตรวจสอบชุดนี้ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด โดยต้องมีการหารือกับทางคณะกรรมการถึงแนวทางการดำเนินการ ที่ต้องมีความเป็นกลาง และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และคาดว่า หากการประมูลเป็นไปตามระเบียบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000129994&Keyword=3g
ด้านพันเอกเศรษฐพงค์ ชี้แจงว่า จากการศึกษาการประมูลในหลายประเทศพบว่า วิธีการประเมินแบบเก่าไม่มีประสิทธิภาพ จึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ 9 สลอตเพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้แข่งขัน และจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก็มีทั้งที่มองว่าราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท ทั้งสูงและต่ำเกินไป จึงต้องเลือกเดินสายกลาง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ที่สุด พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหากคณะกรรมาธิการเห็นมีมีสิ่งผิดปกติก็พร้อมรับการตรวจสอบและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยอมรับว่า ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ทาบทามตนเอง ให้นั่งเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการเคาะราคา ของผู้ร่วมประมูลใบอนุญาต 3G จริง โดยส่วนตัวมีความยินดี และไม่ขัดข้อง แต่ต้องรอดูหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการก่อน และต้องขึ้นอยู่กับ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะอนุญาตให้ไปปฏิบัติภารกิจได้หรือไม่ ทั้งนี้หากได้นั่งประธานในคณะทำงานตรวจสอบชุดนี้ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด โดยต้องมีการหารือกับทางคณะกรรมการถึงแนวทางการดำเนินการ ที่ต้องมีความเป็นกลาง และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และคาดว่า หากการประมูลเป็นไปตามระเบียบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
_______________________________
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ประชุมพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ 3 จีโดยเชิญ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ และพันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการโทรคมนาคม หรือ กทค. ใน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เข้าชี้แจง
นายสมเกียรติกล่าวว่า การที่ผู้ประกอบได้ประมูลคลื่นความถี่ในราคาถูกไม่ได้หมายความว่าค่าบริการจะถูกลงตามไปด้วย เพราะเป็นคนละส่วนกันดังนั้นประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์ ทั้งนี้ กสทช. มีการกำหนดราคาประมูลที่ถูกเกินไปทั้งที่การประเมินราคาตั้งต้นจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ที่ 6,440 ล้านบาท แต่กลับมีการประมูลจริงเพียง สลอตละ 4,500 ล้านบาท ทำให้ประชาชนเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท พร้อมเห็นว่าการทำรายได้ให้รัฐจากการประมูลมากเท่าใดยิ่งเป็นตัวชี้วัดว่ามีการแข่งขัน และเมื่อดูกรณีของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ที่ใช้วิธีเดียวกับประเทศไทยก็เกิดความล้มเหลวจึงน่าจะศึกษาเป็นตัวอย่าง
ด้านพันเอกเศรษฐพงค์ ชี้แจงว่า จากการศึกษาการประมูลในหลายประเทศพบว่า วิธีการประเมินแบบเก่าไม่มีประสิทธิภาพ จึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ 9 สลอตเพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้แข่งขัน และจากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก็มีทั้งที่มองว่าราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท ทั้งสูงและต่ำเกินไป จึงต้องเลือกเดินสายกลาง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ที่สุด พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหากคณะกรรมาธิการเห็นมีมีสิ่งผิดปกติก็พร้อมรับการตรวจสอบและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กทค. กล่าวว่าหากราคาตั้งต้นการประมูลสูงจะเกิดความเสี่ยง เพราะสภาพการแข่งขันจะลดลงทันที เนื่องจากผู้ประกอบการรายย่อยจะแข่งขันไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบันเริ่มมีเทคโนโลยี 4 จีแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ถูกใจถ้าได้คุยกันจะดีขึ้น ซึ่งหากตนผิดก็พร้อมยอมรับ
มติชน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?
newsid=1351061004&grpid=03&catid=03
_______________________________________
เลขาฯกสทช.ออกตัวขอDSI ร่วมสอบฮั๊วประมูล3G
เลขาฯ กสทช.ออกตัวเดินสายยื่นคำร้องขอหน่วยงานเกี่ยวข้องและ DSI ร่วมตรวจสอบการประมูลใบอนุญาต 3G ด้านอธิบดีธาริต บอกทำได้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานครั้งแรก....
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารทั้งหมดในโครงการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรศัพท์มือถือ 3 จี ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ดีเอสไอในฐานะหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบข้อครหาฮั้วประมูล 3จี เพื่อความโปร่งใส หลังจาก กสทช.ได้ยื่นเรื่องขอให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าร่วมตรวจสอบการประมูลคลื่นความถี่ 3จี
โดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวหลังยื่นเรื่องต่อดีเอสไอว่า การมายื่นเอกสารในวันนี้เป็นความตั้งใจของสำนักงาน กสทช.ที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งให้มาชี้แจงแต่ประการใด สำหรับเอกสารที่นำมายื่นในวันนี้ ประกอบด้วยเอกสารการประมูลคลื่นความถี่ 2.1GHZ ที่ผ่านมาทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ เอกสารการประมูลครั้งแรกในสมัย กทช.เอกสารที่ดำเนินการโดย กสทช.ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการเตรียมความพร้อมการประมูล เอกสารการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะที่ผ่านความเห็นชอบจาก กทค.และ กสทช. เลขาธิการ กสทช.กล่าวอีกว่า ยังได้นำประกาศหลักเกณฑ์การประมูล IM ข้อมูลการยื่นขอรับแบบคำขออนุญาตฯของผู้สนใจทั้ง 17 ราย เมื่อวันที่ 27 ส.ค.55 หนังสือขอความร่วมมือกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเพื่อขอให้การสนับสนุน การออกหนังสือรับรองให้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประมูล เพื่อช่วยเหลือผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลรายใหม่ที่ประสบปัญหาขาดการสนับสนุน จากสถาบันการเงิน และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลทั้งหมดมาให้ดีเอสไอ ไม่ต้องรอคนอื่นมายื่นเรื่อง ซึ่งหลังจากนี้หากดีเอสไอมีประเด็นสงสัยก็ไปตรวจสอบที่สำนักงาน กสทช.ได้ หรือจะเรียกสำนักงาน กสทช.มาก็ได้ สำหรับการเปิดประมูลคลื่นความถี่ 3 จี กสทช.ยืนยันมาตลอดว่า ทุกอย่างทำด้วยความโปร่งใส หลังจากทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ต่อไป กสทช.จะทำเพื่อประโยชน์ประชาชนโดยการลดค่าโทรศัพท์ลงมา
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอเพิ่งได้รับคำร้อง ซึ่งไม่ใช่จากผู้ร้องเรียน แต่เป็นจากหน่วยงาน กสทช.มายื่นเองโดยตรง ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ที่ดีเอสไอในฐานะมีหน้าที่ในการดูแลการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องการฮั้ว ประมูล ดีเอสไอจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ ส่วนจะตรวจสอบในประเด็นอะไรบ้างนั้น ต้องขอดูจากคำร้องและเนื้อหาก่อน เพราะวันนี้ กสทช.มีการเอกสารจำนวนมาก ตนจะมอบให้สำนักคดีพิเศษ 2 ดีเอสไอ ซึ่งมีเชี่ยวชาญและดูแลคดีฮั้วประมูลโดยตรงเป็นผู้รับผิดชอบ ดีเอสไอจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้กับสาธารณชนรับทราบ จากการตั้งดีเอสไอมา 10 ปี ยังไม่เคยมีกรณีที่เจ้าของหน่วยงานที่อาจจะถูกร้องเรียนมาร้องเอง อันนี้เป็นกรณีแรก สามารถทำได้เพราะถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่จะตรวจสอบให้.
ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/region/300975
________________________________________
กมธ.วุฒิฯ ยื่นป.ป.ช. สอบประมูล 3G แล้ว พรุ่งนี้เชิญทุกฝ่ายชี้แจง
นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพชรบุรี ในฐานะประธานประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ กรณีการเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G อาจเข้าข่ายขัดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐปี 42 (พ.ร.บ.ฮั้ว) หรือไม่
ทั้งนี้ หลังได้รับเรื่องจากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.) แล้วได้มอบหมายให้อนุกรรมการกฎหมายป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตรวจสอบ ซึ่งก็มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการประมูลหลายเรื่องอาทิ การแข่งขันของบริษัทที่เข้าประมูลคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เร่งรีบลงมติผลการประมูลหรือไม่ ซึ่งข้อสังเกตเหล่านี้ ได้นำเสนอต่อ ป.ป.ช. ในวันนี้ด้วย
สัปดาห์ก่อน นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธาน สอบ. ยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบฯ ขอให้ตรวจสอบการทำงานของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กรณีเปิดประมูลใบอนุญาต 3G โดยขอให้ตรวจสอบว่ากรณีนี้อาจเข้าข่ายขัดพ.ร.บ.ฮั้ว หรือไม่
สำหรับการตรวจสอบของกมธ.ศึกษาฯ นางสาวสุมล กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) จะเชิญทุกหน่วยงานมาชี้แจง ทั้ง กสทช., กทค., บริษัทเอกชนที่เข้าประมูล และ สอบ.ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนด้วย
ด้าน นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การประชุมป.ป.ช.วันพรุ่งนี้จะนำเรื่องที่กระทรวงการคลัง ขอให้ตรวจสอบกรณีการประมูลใบอนุญาต 3G เข้าหารือ ว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา กสทช.จัดให้มีการประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) โดยเปิดประมูลทั้งสิ้น 9 ใบอนุญาต ที่ราคาเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท/ใบอนุญาต โดยกำหนดให้ผู้ประมูลได้สูงสุด ไม่เกิน 3 ใบอนุญาต
ขณะที่มีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศ โดยประมูลได้ใบอนุญาต รายละ 3 ใบอนุญาต เท่ากันส่วนราคาประมูล รวมทั้งสิ้นที่ 4.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.78% เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นทั้งหมดที่ 4.05 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงราคาประมูลที่สูงกว่าราคาเริ่มต้นไม่มากนัก ซึ่งอาจทำให้รัฐเสียประโยชน์
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้อง กรณีนักวิชาการอิสระยื่นคำร้องขอให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G รวมถึง ไม่รับไต่สวนฉุกเฉินคำฟ้องที่ให้ระงับการประมูลดังกล่าว ของกลุ่มการเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) ด้วยเช่นกัน
ข่าวหุ้นธุรกิจ
http://www.kaohoon.com/online/48682/%A1%C1%B8.%C7%D8
%B2%D4%CF-%C2%D7%E8%B9%BB.%BB.%AA.-
%CA%CD%BA%BB%C3%D0%C1%D9%C5-3G-%E1%C5%E9%C7
-%BE%C3%D8%E8%A7%B9%D5%E9%E0%AA%D4%AD%B7%D8
%A1%BD%E8%D2%C2%AA%D5%E9%E1%A8%A7-.htm
______________________________________
กมธ.สอบทุจริตฯ จี้ ป.ป.ช.ตรวจสอบประมูล 3G เข้าข่ายฮั้วหรือไม่
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะคณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบการประมูล 3 จีที่ผ่านมาว่า เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือไม่
โดย น.ส.สุมล กล่าวว่า การประมูล 3 จีที่ผ่านมา ผิดลักษณะของการประมูล และส่อไปในทางฮั้วประมูล ซึ่งการดำเนินงานของ กสทช.โปร่งใส หรือไม่มีนัยซ่อนเร้น ต้องสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) คณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมการประมูล 3 ราย ประธานคณะกรรมการ กสทช. กทค. คณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนเข้าชี้แจงตลอดทั้งวัน จึงคาดว่า วุฒิสภาจะได้ข้อสรุปชัดเจนในวันพรุ่งนี้
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000130048&Keyword=3g
________________________________________
"สุวิจักขณ์"รับ กสทช.ทาบนั่ง ปธ.สอบประมูล 3G จริง
นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยอมรับว่า ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ทาบทามตนเอง ให้นั่งเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการเคาะราคา ของผู้ร่วมประมูลใบอนุญาต 3G จริง โดยส่วนตัวมีความยินดี และไม่ขัดข้อง แต่ต้องรอดูหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการก่อน และต้องขึ้นอยู่กับ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะอนุญาตให้ไปปฏิบัติภารกิจได้หรือไม่ ทั้งนี้หากได้นั่งประธานในคณะทำงานตรวจสอบชุดนี้ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด โดยต้องมีการหารือกับทางคณะกรรมการถึงแนวทางการดำเนินการ ที่ต้องมีความเป็นกลาง และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และคาดว่า หากการประมูลเป็นไปตามระเบียบ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000129994&Keyword=3g
ไม่มีความคิดเห็น: